ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมฟื้นฟูสังคมและเศรษฐกิจหลังเหตุอุทกภัย เปิดตัวกิจกรรม "1 รีม 1 คลิก 1 ต้น สร้างสุขที่ยั่งยืน" ในงานบีโอไอแฟร์ 2011
ดั๊บเบิ้ล เอ โชว์โมเดลต้นแบบกระดาษจากคันนา ความสำเร็จของกระดาษสัญชาติไทยที่เติบโตไกลระดับโลก พร้อมช่วยเหลือฟื้นฟูสังคมและเศรษฐกิจหลังประสบเหตุอุทกภัย กับกิจกรรม "1 รีม 1 คลิก 1 ต้น สร้างสุขที่ยั่งยืน" และร่วมกับ 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค ร่วมฟื้นความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศไทย ที่บูธ No.74-75 ริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานนิทรรศการบีโอไอแฟร์ 2011 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมและความตั้งใจของดั๊บเบิ้ล เอ ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด "Double A : Paper for the world" กระดาษคิดดี เพื่อโลกที่สวยงามและยั่งยืน
ดั๊บเบิ้ล เอ ยังเชิญชวนทุกท่านมาร่วมส่งต่อความสุขให้กับพี่น้องเกษตรกรไทย หลังเหตุการณ์อุทกภัย พร้อมร่วมคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับโลกใบนี้ กับกิจกรรม "1 รีม 1 คลิก 1 ต้น สร้างสุขที่ยั่งยืน" เพียงนำเปลือกห่อ Double A 1 รีม มาแสดงที่ดั๊บเบิ้ล เอ พาวิลเลี่ยน, ซื้อสินค้า Double A Stationery ครบ 120 บาท หรือ ร่วมคลิก Like, Share, Tweet, Check in ข้อความเกี่ยวกับดั๊บเบิ้ล เอ พาวิลเลี่ยน ใน Facebook, Twitter, Foursquare ก็ได้ทำความดีร่วมกัน มอบ "ต้นกระดาษ" อีก 1 ต้น ให้เกษตรกรไทยเพื่อสร้างเงินออมและความสุขที่ยั่งยืน โดยผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://BOI.DoubleApaper.com
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมดั๊บเบิ้ล เอ พาวิลเลี่ยน มีสิทธิ์รับกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ แพค 40 แผ่นฟรี เมื่อนำเปลือกห่อดั๊บเบิ้ล เอ มาแสดง และช้อปสนุกไปกับพาเหรดสินค้า Double A Stationary ที่มีให้เลือกมากมายในราคาพิเศษ พร้อมร่วมลุ้นรับ สินค้า Double A stationery มูลค่ากว่า 100,000 บาท และลุ้นรับสิทธิซื้อแพ็คเกจที่พักสุดหรูในราคาเพียง 12 บาท ตลอดการจัดงานตั้งแต่วันที่ 5-20 ม.ค. 55 นี้ ณ ดั๊บเบิ้ล เอ พาวิลเลี่ยน บูธ No.74-75 ริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ทั้งนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ เตรียมนำทุกท่านท่องโลกการผลิตกระดาษไปกับ มิสเตอร์ "Paper Man" ตัวการ์ตูนแอนิเมชั่นและผองเพื่อน ที่จะพาทุกท่านร่วม ค้นหาความจริงของ กระดาษบนคันนา กระดาษแก้โลกร้อน ที่เป็นมาตรฐานสิ่งแวดล้อมใหม่ในวงการกระดาษโลก และติดตามเส้นทางการเจริญเติบโตของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษแบรนด์ไทยที่ได้เดินทางไปไกลรอบโลก และหยุดพักผ่อนในสวนสาธารณะ "Paper Park" เพื่อเรียนรู้ว่า วงจรผลิตที่ไม่มีสิ่งใดไร้ค่า ทุกสิ่งหมุนเวียนใช้ได้หมดนั้นมีอยู่จริง พร้อมทั้งเกิดความภาคภูมิใจว่า แค่ใช้กระดาษดีๆอย่างดั๊บเบิ้ล เอ คุณก็มีส่วนช่วยโลกของเราได้ พร้อมกับโชว์ไอเดียการสร้างพาวิลเลียนที่ทรานส์ฟอร์มตู้บรรทุกสินค้าดั๊บเบิ้ล เอ เป็น "เมืองกระดาษขนาดใหญ่" สามารถแปลงร่างกลับเป็นรถบรรทุกหลังจากจบงานได้ โดยไม่มีอะไรให้เสียของภายใต้แนวคิด "ของเหลือใช้ ไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า" ของดั๊บเบิ้ล เอ
นอกเหนือจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศไทยให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยจับมือกับ 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค นำเสนอความพร้อมในการเปิดรับนักลงทุนของสวนอุตสาหกรรมในประเทศไทย ที่ยังมีอีกหลายแห่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและมีศักยภาพการลงทุนที่แข่งขันได้กับอีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ที่ผ่านมา ดั๊บเบิ้ล เอ และ 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค ยังร่วมกันรับสมัครแรงงานที่ประสบภัยน้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 20,000 อัตรา ทั้งแบบที่ต้องการให้จ้างงานชั่วคราวเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวต่อเนื่องก่อนกลับไปทำงานที่เดิม และการจ้างเป็นพนักงานตามปกติ เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นกระดาษแบรนด์ไทย ที่สร้างมาตรฐานของกระดาษคุณภาพระดับโลก โดยแนวคิดในการทำธุรกิจของเราไม่เพียงแต่มุ่งสร้างคุณภาพสินค้าที่ดีให้กับผู้ใช้ แต่ยังต้องดีตั้งแต่วิธีคิด-วิธีทำ เริ่มตั้งแต่การออกแบบธุรกิจ การคัดสรรวัตถุดิบ ที่มาจากต้นกระดาษที่ปลูกบนคันนาของเกษตรกรกว่า 1.5 ล้านครัวเรือน ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรได้ปีละกว่า 5,000 ล้านบาทแล้ว ยังช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศได้อีก 6.7 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ ของเหลือใช้ ยังไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า เพราะดั๊บเบิ้ล เอ สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ส่วนที่เหลือจากการผลิตกระดาษ อาทิ เปลือกไม้ เศษไม้ น้ำมันยางไม้ ก็สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ส่วนน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตก็มาจากแหล่งน้ำที่ขุดขึ้นมาเอง และมีการหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า การได้ร่วมงานบีโอไอแฟร์ในครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสอันดี ที่ดั๊บเบิ้ล เอ จะได้แบ่งปันแนวคิดรับผิดชอบสังคม อันเป็นที่มาของการก้าวสู่สินค้าแบรนด์ไทยระดับโลก