Follow us

วิจัยพบต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอทุก 1 กก.ช่วยดูดก๊าซเรือนกระจกได้ 1 กก.

          ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม คณะวิศวะ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สำนักงานนวัต-กรรมแห่งชาติ (NIA) ศึกษาพบการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มีส่วนช่วยแก้โลกร้อน โดยต้นกระดาษฯ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากบรรยากาศสุทธิได้ 1 กิโลกรัม หากส่งเสริมปลูกตามพื้นที่ว่างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่น คันนา จะช่วยแก้ปัญหาได้มากยิ่งขึ้น

 

         รศ.ดร.ประเสริฐ ภวสันต์ ผู้ประสานงานโครงการศูนย์วิจัยการจัดการสารเคมีและของเสียอันตราย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสียอันตราย และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ทางทีมวิจัย ได้ร่วมกับบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยบางส่วนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ในการศึกษาเกี่ยวกับ การดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่ปลูกตามคันนา และได้เริ่มศึกษาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา life cycle assessment หรือการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์กระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ การศึกษาครั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้ประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ตั้งแต่แหล่งกำเนิด หรือศึกษาวัฎจักรชีวิต เริ่มตั้งแต่เป็นต้นกล้าจนถึงการตัดฟันเป็นไม้ท่อนส่งถึงโรงงาน โดยพิจารณาทั้งปริมาณการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ และกระบวนการระหว่างทางที่จะทำให้เกิดการปลดปล่อยคาร์บอน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปุ๋ย การใช้สารเคมีการกำจัดแมลงระหว่างปลูก และการใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้ระหว่างการขนส่ง ทั้งจากการขนส่งไม้ท่อนมาจำหน่ายโดยรถของเกษตรกรซึ่งใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง และการขนส่งกล้าและไม้ท่อนโดยรถบรรทุกในเครือข่ายของดั๊บเบิ้ล เอ ที่มีการปรับเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิง CNG หรือก๊าซธรรมชาติอัด ซึ่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 

         ผลจากการศึกษาในส่วนของการใช้สารเคมีระหว่างการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ พบว่า มีปริมาณการใช้สารเคมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนท่อนไม้ที่ผลิตได้หลังจากเสร็จสิ้นระยะเวลาเก็บเกี่ยว สอดคล้องกับการสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่ให้ข้อมูลว่า การปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ปุ๋ยในการปลูก ถึงแม้จะมีเกษตรกรบางรายใช้ปุ๋ยบ้างในการเตรียมดินขณะปลูก ดังนั้นจากการศึกษาจึงพบว่า ภาระต่อสิ่งแวดล้อมของต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ในด้านนี้ ถือว่ามีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย

 

         ส่วนการประเมินผลกระทบจากการขนส่ง ได้มีการสุ่มตัวอย่างการขนส่งทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่การขนส่งกล้าต้นกระดาษฯ จากโรงเพาะชำที่จังหวัดปราจีนบุรีไปยังสำนักงานสาขาในจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งสำนักงานเหล่านี้จะทำหน้าที่กระจายต้นกล้าและรับซื้อไม้ท่อนจากเกษตรกร การขนส่งต้นกล้าจากสำนักงานสาขาไปยังเกษตรกร การขนส่งไม้ท่อนของเกษตรกรกลับมายังสำนักงานสาขา และท้ายที่สุดคือ การขนส่งไม้ท่อนถึงโรงงานของดั๊บเบิ้ล เอ โดยมีระยะทางระหว่างสำนักงานสาขาไปยังพื้นที่ของเกษตรกรในรัศมีประมาณ 10-20 กิโลเมตร

 

         ผลจากการประเมินคำนวนการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ พบว่า ต้นกระดาษอายุ 3 ปีจะมีน้ำหนักรวม 65.3 กิโลกรัม เมื่อตัดฟันเป็นไม้ท่อนจะมีน้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม ซึ่งจะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศได้เท่ากับ 62.9 กิโลกรัมต่อท่อนไม้หนัก 60 กิโลกรัม และดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิอยู่ที่ 60.6 กิโลกรัม เมื่อหักลบคาร์บอนที่เกิดจากการขนส่งและกระบวนการอื่นแล้ว นอกจากนี้ยังช่วยสร้างออกซิเจนให้กับบรรยากาศอีก 45.7 กิโลกรัมต่อท่อนไม้หนัก 60 กิโลกรัมอีกด้วย กล่าวโดยสรุปคือ ท่อนไม้ต้นกระดาษหนัก 1 กิโลกรัม ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เท่ากับ 1 กิโลกรัมเช่นกัน

 

         นอกจากนี้ในระหว่างการศึกษาจากการสัมภาษณ์ชาวนา 78 รายที่ปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ บนคันนา ยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 90 ของเกษตรกรสมาชิกมีความรู้เพียงพอในการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ร้อยละ 70 ของเกษตรกรสมาชิกไม่พบว่ามีผลกระทบอะไรต่อผลผลิตข้าวจากการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ และ ร้อยละ 97 จากเกษตรกรสมาชิกกล่าวว่าครอบครัวของเขามีทัศนคติที่ดีต่อการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ และเกษตรกรเกือบทั้งหมดมีความพอใจกับรายได้ที่เกิดจากการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ บนคันนา เนื่องจากช่วยทำให้พื้นที่ว่างที่ไม่มีประโยชน์กลายเป็นรายได้เสริม ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า แนวคิดของการส่งเสริมการปลูกต้นกระดาษบนคันนานี้เป็นที่รู้จักและยอมรับจากเกษตรกร และหากได้รับการส่งเสริมต่อเนื่องก็ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งในการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่เคยว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลดภาวะก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบัน

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมรักการอ่าน โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " เพราะเป็นองค์กรที่ส่งเสริมด้านสังคมรักการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่หยุดยั้งที่จะเดินหน้า ส่งเสริมโครงการดีๆ ที่จะกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาใส่ใจและรักการอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม และโรงเรียนคลองบางกะสี 2 โรงเรียนที่มีความคิดสร้างสรรค์ของ จ.สมุทรปราการ จัดทำโครงการ "สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง" ด้วยการนำกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้แล้วด้านเดียว มาทำหนังสือหน้าสองให้เป็นหนังสือที่น่าอ่าน น่าติดตาม และที่สำคัญน้องๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สำหรับโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ อาจารย์นางภาวนา มีกลิ่นหอม อาจารย์โรงเรียนคลองบางกะสี จ.สมุทรปราการ ได้เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนได้จัดทำโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มาตั้งแต่ปี 2546 โดยทางโรงเรียนมองว่าในแต่ละวันเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก และส่วน-ใหญ่เป็นการใช้กระดาษเพียงหน้าเดียว ส่วนอีกหน้าที่เหลือไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะอีกด้วย ดังนั้นทางโรงเรียนจึงเกิดแนวคิดในการนำกระดาษอีก 1 หน้าที่เหลืออยู่มาทำให้เกิดประโยชน์ จึงนำกระดาษที่เหลือมาทำหนังสือในรูปแบบของหนังสือทำมือ โดยนำไปสอดแทรกในวิชาศิลปะเพื่อให้เด็กๆได้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้น้องๆ ในโรงเรียนหันมาสนใจการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกด้วย จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2546 โดยรูปแบบของสื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง จะเน้นการนำเรื่องราวต่างๆที่เป็นความรู้ ไม่ว่าจะเป็น นิทาน การละ-เล่น ขนบธรรมเนียมประเพณี ชื่อสัตว์ ชื่อผลไม้ คำศัพท์ต่างๆ มาประกอบรูปภาพ และจัดทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจดึงดูดอยากหยิบมาอ่าน เช่น หนังสือ POP-UP หนังสือยืด หนังสือหน้าเดียว หนังสือกล่อง หนังสือโคม เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมรักการอ่านแล้ว ยังทำให้เด็กนักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความอดทน รู้จักวิเคราะห์และจับประเด็นให้เนื้อหาอยู่ในหน้ากระดาษที่จำกัดได้ โดยไม่ละทิ้งใจความสำคัญ และยังทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย ส่วนโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม ได้นำโครงการผลิตสื่อหนังสือทำมือสอดแทรกในวิชาภาษาไทย โดยให้นักเรียนทำหนังสือทำมือให้รุ่นน้องและเพื่อนในโรงเรียนได้อ่าน จัดเป็นมุมหนังสือต่างๆ ทั่วโรงเรียน และทุกห้องเรียนจะต้องมีมุมหนังสือ เพื่อให้เด็กๆได้สร้างนิสัยรักการอ่านให้เป็นกิจวัตรติดตัวไปจนโต โดยความโดดเด่นของหนังสือทำมือของโรงเรียนจะนำเนื้อหาที่ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ในท้องถิ่นของอำเภอบางบ่อ เช่น การละเล่นท้องถิ่นของบางบ่อที่เรียกว่า "ผะหมี" (โจ๊ก) เป็นร้อยกรองปริศนาให้ทายกัน ซึ่งเป็นการละเล่นที่นับวันจะค่อยๆ สูญหายไปจากอำเภอหากไม่มีการสืบทอดกันไว้ สำหรับการละเล่น "ผะหมี" อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า น้องๆ จะนำเนื้อหาต่างๆ มาแต่งเป็นร้อยกรอง ปริศนาคำทาย ตัวอย่างเช่น พระ หนึ่งชำนาญด้าน ดนตรี (คำตอบ พระอภัยมณี) พระ หนึ่งหลงสาวศรี พี่น้อง (คำตอบ พระลอ) พระ หนึ่งวุ่นราวี ดึงนุช มานา คำตอบ พระราม) พระ หนึ่งโปรยทานก้อง ส่ำสร้างผลบุญ (คำตอบ พระเวสสันดร) ซึ่งนอกจากจะสร้างความรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนทำและคนทายแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในกลุ่มของนักเรียนในโรงเรียน ส่งผลให้ได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2548 โดยในเรื่องนี้ "น้องชนะพล ปานสมบัติ" นักเรียนชั้น ม.5 รร.บางบ่อพิทยาคม ได้เล่าให้ฟังว่า "โครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมรักการอ่านได้มาก เพราะมีรูปแบบและสีสันที่สวยงามน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนก็ให้ความสนใจ มีการสอนการทำให้กับรุ่นน้องๆ ด้วย เพราะม.4-ม.6 จะจัดทำให้น้องๆ ม.ต้นได้อ่าน ซึ่งผมจะชอบเนื้อหาเป็นเรื่องเอกลักษณ์ไทย เพราะส่วนใหญ่รุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก เช่น ขนมไทย วรรณคดีไทย ประวัติศาสตร์ และเนื้อหาธรรมะ เพราะปัจจุบันคนเรามีความเครียดมาก ถ้าได้อ่านหนังสือธรรมะก็ช่วยให้จิตใจดีขึ้น" โครงการดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นสร้างสรรค์จากผลงานภายในโรงเรียน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่หลายๆ โรงเรียนสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการนำไปปฏิบัติได้ เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้น้องๆรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ ประกาศเปิดจองหุ้นกู้ 8-10 มิ.ย.นี้ อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี

หลังจากที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ประกาศเลื่อนวันเปิดจองหุ้นกู้ จากกำหนดเดิม 24-26 พ.ค. ออกไปนั้น ขณะนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย 6% อายุ 3 ปี เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ผ่านธนาคารกรุงไทย และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษ "ดั๊บเบิ้ล เอ" ซึ่งมีตลาดส่งออกทั่วโลก เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะสงบแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี เป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน วงเงินรวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2556 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนด