ดั๊บเบิ้ล เอ แบรนด์กระดาษพรีเมียม10 ปี กับการสร้างแบรนด์ในตลาดโลก
การเปิดตัวสินค้าในระดับโลกของดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มขึ้นจากการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2000 ซึ่ง-ถือเป็นผลิตภัณฑ์กระดาษแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่มีการโฆษณาและการทำตลาดอย่างจริงจัง ดั๊บเบิ้ล เอ ประสบความสำเร็จในไทยอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 3 ปี ดั๊บเบิ้ล เอสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย ด้วยอัตราการรับรู้แบรนด์ถึง 80% และแบรนด์รอยัลตี้สูงถึง 90% และ 10 ปีให้หลัง หลังจากที่ดั๊บเบิ้ล เอ รุกและขยายการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ ก็ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้-
วางใจจากลูกค้าทั่วโลก
ที่มาความสำเร็จ คือ ขาย “คุณภาพ”
ดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มต้นการสร้างแบรนด์กับผู้บริโภคในตลาดโลก ด้วยการนำโมเดลความสำเร็จจากประเทศไทยไปใช้ในต่างประเทศ เริ่มจากการเจาะตลาดด้วยการขาย “คุณภาพ” เพราะดั๊บเบิ้ล เอ เชื่อว่า สินค้าที่ดี จึงจะอยู่ในตลาดได้อย่างยืนยาว เพราะต่อให้พูดดังแค่ไหน ถ้าสินค้าไม่ดีก็เท่ากับเป็นการทำตลาดแบบฆ่าตัวตาย ดั๊บเบิ้ล เอ เลือกที่จะขายคุณภาพ ที่เป็นเอกลักษณ์เด่น 7 ประการ ซึ่งผ่านการวิจัยทางการตลาดทั้งในประเทศไทยและในหลายๆ ประเทศแล้วว่า คือความต้องการหลักของผู้บริโภค
การเปิดตัวครั้งแรกในตลาดโลก
ดั๊บเบิ้ล เอ เลือกเปิดตัวด้วยเอกลักษณ์คุณภาพแรก คือ “คมชัดเหมือนต้นฉบับ” ซึ่งในประเทศไทย เราจะเห็นโฆษณาชุด Speech หรือประธานกล่าวแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวที่อ่านผิดอ่านถูก เพราะงานถ่ายเอกสารไม่ได้คุณภาพ วลีเด็ด คือ บัดนี้เจ้าสาวก็ได้ ท้องแล้ว แต่จริง ๆ คือได้ทองแล้ว ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ก็สื่อสารใน Theme เดียวกัน แต่มีมุขเด็ด ๆ ต่างกันไป เช่น โฆษณาชุด Will ที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นการอ่านพินัยกรรม ที่ทนายอ่านผิดอ่าน-ถูก มอบมรดกชิ้นใหญ่ให้คนรับใช้ซะงั้น เรียกได้ว่า การเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2000 และออกตัวสู่ตลาดโลกในปี 2001 ดั๊บเบิ้ล เอ ทำให้วงการตลาด ซึ่งเคยเป็นสินค้าอุตสาหกรรมกลายเป็นสินค้าคอนซูเมอร์ และทำ-ให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของการใช้กระดาษคุณภาพ
“กระดาษไม่ติด ชีวิตไม่เครียด”
Theme ถัดมาที่ดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มจับเป็น Theme หลักในการสื่อสารมาอย่างยาวนานและใช้เป็น Theme หลักในหลายประเทศ คือ No Jam No Stress ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มขยับจากการขายคุณภาพไปสู่ Emotion แล้ว
ก่อนที่ดั๊บเบิ้ล เอ จะนำเสนอสินค้าออกสู่ตลาด ปัญหาเรื่องกระดาษติดเครื่องถ่ายเอกสารเคยเป็นปัญหาใหญ่และสร้างความเครียดให้กับสาว ๆ ออฟฟิศอย่างมากทีเดียว แต่ปัจจุบันนี้ ปัญหากระดาษติดเครื่องกลายเป็นเรื่องในอดีตไปเสียแล้ว จุดนี้เอง ซึ่งเป็นข้อเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ ครองใจผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ปี เพราะนอกจากจะทำให้ผู้บริโภคได้งานถ่ายเอกสารคุณภาพและคุ้มค่าโดยไม่เกิด Waste จากการถ่ายเอกสารติดเครื่องแล้ว ผู้ใช้งานยังไม่ต้องอารมณ์เสียจากปัญหากระดาษติดเครื่องอีกด้วย
“ไอเดีย No Jam No Stress เข้าถึงความต้องการภายในที่แท้จริงของผู้บริโภค ที่เขาต้องประสบปัญหาความเครียดและความไม่สะดวกจากปัญหากระดาษติดเครื่องถ่ายเอกสาร การสื่อสารผ่านอารมณ์ขำขำกลายเป็นบุคคลิกของแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ใช้ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งแต่ละครั้งก็ได้ผลดีในแง่การสร้างการจดจำและแบรนด์อะแวเนส ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับความไว้วางใจจากพนักงานออฟฟิศในเอเชียเป็นอย่างมาก และเริ่มเป็นที่รู้จักของคนในแถบยุโรปและตะวันออกกลาง ลูกค้ามักสะท้อนกลับมาให้เราเห็นว่า เราเป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์ และนำรอยยิ้มมาสู่คนทำงาน ทำให้คนทำงานคลายเครียด” นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าว
Two in one : ได้ทั้งคุณภาพ ได้ทั้งช่วยสิ่งแวดล้อม
ในตลาดโลก ดั๊บเบิ้ล เอ เลือกการสื่อสารด้านคุณภาพผ่านช่องทางงานโฆษณาเป็นหลัก แต่ในด้านการประชาสัมพันธ์ ดั๊บเบิ้ล เอ เลือกที่จะสื่อสารให้ทั่วโลกได้รู้จักดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะกระดาษที่ผลิตจากต้นกระดาษที่เกษตรกรปลูกบนคันนา หรือคอนเซ็ปต์ที่เราสื่อสารออกไปทั่วโลกว่า “Paper from Farmed Tree” ซึ่งจุดแข็งของดั๊บเบิ้ล- เอ ในประเด็นนี้นับเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่คู่แข่งทั่วโลกยังไม่มีใครตามทัน
นายชาญวิทย์ กล่าวเสริมว่า “ดั๊บเบิ้ล เอ เชิญสื่อมวลชนจากหลาย ๆ ประเทศให้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อรู้จักกับที่มาของดั๊บเบิ้ล เอ ได้พูดคุยกับเกษตรกรไทย เห็นต้นกระดาษจริงที่เกษตรกรไทยปลูกบนคันนา เขาชื่นชมเรามาก ว่าเราคิดไว้อย่างรอบคอบมาก เราทำให้ที่ดินบนคันนาที่เคยทิ้งว่างเปล่า กลายเป็นพื้นที่ช่วยแก้โลกร้อน ช่วยเพิ่มคุณค่าทางเศรษฐกิจให้ชาวนา น้ำใช้เราก็ยังใช้วิธีขุดอ่างน้ำและเก็บกักน้ำฝนน้ำหลากไว้ใช้เอง ใช้แล้วก็ยังไม่ทิ้ง ยังนำกลับไปใช้หมุนเวียนอีก เศษไม้ เปลือกไม้เราก็ไม่ทิ้ง เอามาผลิตไฟฟ้าอีก เราจึงเป็นทางเลือกของผู้บริโภคแบบ Two in one คือ ได้ทั้งคุณภาพ และช่วยสิ่งแวดล้อมด้วย”
จำหน่าย 120 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบันถือได้ว่า ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นแบรนด์กระดาษแบรนด์เดียวที่ทำตลาดและสร้างแบรนด์อย่างจริงจังในระดับโลก ขณะนี้ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถส่งออกไปจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลกแล้วกว่า 120 ประเทศ ครอบคลุมทั้งเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป อเมริกา อัฟริกาและตะวันออกกลาง รวมทั้งเพิ่งประกาศความสำเร็จในการเปิดประตูสู่ตลาดจีนครบรอบ 5 ปีด้วยยอดเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 400 % ในการครบรอบ 5 ปี และยึดพื้นที่ ครองความเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคแล้วในหลายประเทศทั่วโลก และสามารถสร้างแบรนด์รอยัลตี้กับผลิตภัณฑ์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทั่วโลกสูงถึง 79-90% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าภูมิใจสำหรับคนไทย ที่เป็นเจ้าของแบรนด์คุณภาพของโลก
ก้าวต่อไปของดั๊บเบิ้ล เอ
ในปี 2010 ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนงานจะรุกการสร้างและตอกย้ำแบรนด์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ใน 14 ประเทศ ทั้งในไทย เกาหลี จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บังคลาเทศ อิหร่าน ปากีสถาน ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส ด้วยแผนการสื่อสารการตลาดเต็มรูปแบบ เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายแบรนด์ชั้นนำของโลก
เราคนไทยทุกคน คงต้องคอยเป็นกำลังใจเชียร์ให้สินค้ากระดาษของไทย อย่างกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและช่วยสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยปีละกว่า 5,000 ล้านบาท และสร้างรายได้จากการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และยังช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 2.4 ล้านตันรายนี้ ให้ก้าวและเติบโตต่อไปในระดับโลกในฐานะสินค้าของไทยอย่างที่ตั้งใจไว้