Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ พาน้องท่องโลกการอ่าน กับเรือหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก “โลกอส โฮป”

เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีผลการสำรวจการอ่านหนังสือของประชากรไทยของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่สรุปว่า เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการอ่านหนังสือของประชากร อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป อยู่ที่วันละประมาณ 39 นาทีต่อวัน  ซึ่งสะท้อนให้เห็นสถานการณ์การอ่านในบ้านเราที่น่าเป็นห่วง เพราะการอ่านช่วยให้เกิดองค์ความรู้ ความคิดและจินตนาการจากหนังสือ สื่อสร้างปัญญา อีกทั้งยังช่วยให้เกิดสมาธิ การคิดวิเคราะห์ แรงบันดาลใจ หรือแม้แต่ให้ความสนุกเพลิดเพลินอีกด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะเอกชนที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับเยาวชน จึงได้จัดกิจกรรม “ท่องโลกการอ่านกับเรือหนังสือลอยน้ำ โลกอส โฮป” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2  ในครั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ มีโอกาสพาน้องๆจากโรงเรียน วัดบน "ประจงอนุสรณ์" จังหวัดฉะเชิงเทรา เยี่ยมชมเรือร้านหนังสือลอยน้ำใหญ่ที่สุดในโลก “โลกอส โฮป”  ขององค์กรการกุศลประเทศเยอรมัน ณ ท่าเทียบเรือคลองเตย

เริ่มต้นการการเดินทางด้วยกิจกรรมบนรถบัสเพื่ออุ่นเครื่องเบาๆกันก่อน กับพี่ ๆ ดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งวันนี้มีพนักงานต่างชาติมาร่วมเป็นจิตอาสา ช่วยสอนคำศัพท์ง่ายๆ ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาฟิลิปปินส์ สร้างความสนุกสนาน และประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับน้องๆตื่นตัวกับการเข้าสู่ AEC ในปี 2558

เมื่อรถบัสดั๊บเบิ้ล เอ เดินทางมาถึงท่าเรือคลองเตย  ทุกคนต่างตื่นเต้นดีใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยี่ยมชมเรือขนาดใหญ่แบบนี้  โดยบนเรือโลกอส โฮป มีหนังสือหลากหลายประเภทกว่า 5,000 รายการจากทั่วโลก และมีกิจกรรมสันทนาการจากลูกเรืออาสาสมัครกว่า 400 คน จาก 60 ประเทศ ทำให้น้องๆได้เรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษและความกล้าที่จะสื่อสารกับชาวต่างชาติไปพร้อมกัน    นอกจากนี้ภายในเรือยังมีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมที่หลากหลายสำหรับผู้เข้าเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์หรือพื้นที่พักผ่อนภายในเรือ สามารถต้อนรับผู้มาเยือนได้สูงสุด 800 คน

หลังจากเด็กๆสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของเรือแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ ยังสนับสนุนทุนเพื่อการซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด ให้เด็ก ๆ เลือกซื้อหนังสือที่ตนเองชอบ และแบ่งปันหนังสือให้เพื่อนได้อ่านกัน  ซึ่งเด็กๆต่างเลือกหนังสือที่ถูกใจกันอย่างเพลิดเพลิน

เด็กหญิงวิภาดา คำแหง หรือน้องอุ้ม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กล่าวว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาเห็นร้านหนังสือที่อยู่บนเรือแบบนี้ค่ะ ปกติหนูอ่านหนังสือไม่ค่อยบ่อย แต่มาวันนี้หนูอยากได้ อยากอ่านหนังสือนิทานมันมีสีสันสวยงาม น่าอ่านมากค่ะ พี่ๆชาวต่างชาติบนเรือนี้ใจดีมากค่ะ ถึงแม้ว่าหนูจะแปลไม่ออกว่าเขาพูดอะไร แต่หนูก็ทักทายด้วยการไหว้และพูดว่าสวัสดีค่ะ พี่ต่างชาติคนหนึ่งก็พูดกับหนูว่าสวัสดีค่ะ หนูดีใจมาก เขาพูดไทยได้ด้วย" น้องอุ้มพูดจบด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มพร้อมกับเปิดหนังสือนิทานภาษาอังกฤษดูอย่างชอบใจ

เมื่อเสร็จภารกิจเลือกดูหนังสือบนเรือแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ ยังพาเด็กๆไปเยี่ยมชมดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทย บนถนนสาทร 12 ที่มีหนังสือให้เลือกหลากหลายแนว เพื่อให้เด็กๆมีโอกาสเลือกหนังสือที่ชื่นชอบเข้าห้องสมุดโรงเรียน ถือเป็นการต่อยอดการอ่านให้เด็กแบบบูรณาการ

เด็กชายณัฐพล  ทับทิม หรือน้องเจอาร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กล่าวถึงความรู้สึกในกิจกรรมว่า “ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาทัศนศึกษาแนวนี้ครับ ผมชอบตั้งแต่เดินทางออกจากโรงเรียน ชอบทุกเกมที่เล่นระหว่างการเดินทางและวันนี้ผมได้ศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ๆจากพี่ๆดั๊บเบิ้ล เอครับ  รวมทั้งชอบที่เมืองหนังสือที่นี่มาก  มันกว้างและมีหนังสือเยอะ ผมชอบหนังสือนิทานครับ"

สำหรับโรงเรียนที่สนใจอยากพาคณะเข้ามาสัมผัสเยี่ยมชม ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทยบนถนนสาทร 12 ก็สามารถติดตามสอบถามเพิ่มเติมได้ที่  โทร.085 835 5682 เพราะที่นี่เปิดให้เข้ามาสู่โลกการอ่าน การเรียนรู้ได้ตลอดปี และมี School Visit ให้น้อง ๆ ได้ร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนานอีกด้วย

การจะสร้างสถิติการอ่านของคนไทยให้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เรื่องยาก หากทุกหน่วยในสังคมเริ่มที่จะใส่ใจเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม หันกลับมาใช้เวลาว่างกับการอ่านหนังสือกัน เพียงแค่เริ่มต้นอ่านวันละ 1 เรื่องหรือ 1 บทในหนังสือ อ่านทุกวัน ใน 1 เดือน เราก็ได้ความรู้ ความคิดดีๆแล้ว 30 เรื่อง... และต่อไปเราอาจจะได้ยินคำทักทายใหม่ว่า “วันนี้คุณอ่านหนังสือแล้วหรือยัง?”

ภาพประกอบสกู๊ป

พี่ๆดั๊บเบิ้ล เอ สอนภาษาให้น้องระหว่างเดินทาง
ตื่นเต้นได้ขึ้นเรือหนังสือที่ใหญ่ที่สุด
อาสาสมัครต่างชาติบนเรือกล่าวต้อนรับคณะ
กิจกรรมท่องโลกการอ่าน
น้องอุ้มกำลังเลือกนิทานที่ชอบบนเรือโลกอสโฮป
เยี่ยมชมดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทย
น้องเจอาร์เเลือกหนังสือในดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊คทาวเวอร์
ได้หนังสือกลับไปให้เพื่อนๆอ่านเพียบเลย

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ และ 3 พันธมิตรโรดโชว์ทั่วกรุงร่วมแคมเปญ Better Tomorrow

เมื่อเร็วๆนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับ 3 พันธมิตรใจดี ได้แก่ แม็กซิม คอนแทคเลนส์, กาแฟเบอร์ดี้ บาริสต้า และบริษัท เฮาเหว่ย (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมโรดโชว์ชวนชาวออฟฟิศทั่วกรุงเทพฯ ร่วมแคมเปญ Better Tomorrow, Better Together โดยให้ข้อคิดและคำแนะนำดีๆ ในสาขาอาชีพต่างๆในฐานะพี่ A ใหญ่ถึง น้อง a เล็ก หรือลูกหลานชาวนา ผ่าน www.DoubleAtoa.com เพื่อให้ลูกชาวนาได้รู้จักและเข้าใจ ในอาชีพต่างๆ เกิดแรงบันดาลใจสานฝันสู่อนาคตที่ดี โดยกิจกรรมนี้โรดโชว์ทั่วกรุงรวม 15 อาคาร มีชาวออฟฟิศให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก พร้อมเล่นเกมส์รับของรางวัลและโปรโมชั่นต่างๆ สามารถติดตามกิจกรรมดีๆแบบนี้ได้ที่ Facebook Double A Club

นักเรียนอาชีวศึกษาเทคนิคบริหารธุรกิจกรุงเทพ เรียนรู้ที่มากระดาษจากคันนา

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน เปิดบ้านต้อนรับคณะครูและนักเรียน ระดับชั้นปวช. ปีที่ 3 วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคนิคบริหารธุรกิจกรุงเทพ เยี่ยมชมเรียนรู้กระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผ่านการนำเสนอด้วยสื่อภาพยนตร์ 4 มิติ ทำให้คณะผู้เยี่ยมชมเข้าใจที่มาของกระดาษจากคันนา ที่ส่งเสริมเกษตรกรปลูกต้นกระดาษบนคันนาที่ว่างเปล่า ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดโลกร้อน นับเป็นโมเดลการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ดั๊บเบิ้ล เอ และ Tree Planet เกาหลี ร่วมปลูกต้นกระดาษบนคันนาของเกษตรกรไทย

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน ต้อนรับคณะเยาวชนจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ผ่านการคัดเลือกในแคมเปญ Double A’s Plant: Play in KHAN-NA ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างดั๊บเบิ้ล เอ กับเทศบาลเมืองกรุงโซล และ Tree Planet ที่ต้องการให้รู้จักเปลี่ยนพื้นที่ว่างไม่ใช้ประโยชน์มาปลูกต้นไม้ ทั้งนี้ คณะเยาวชนได้เรียนรู้ที่มาของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ในประเทศไทยและร่วมปลูกต้นกระดาษบนคันนาของเกษตรกรที่จังหวัดปราจีนบุรี ที่มีส่วนช่วยลดโลกร้อนและยังสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรอีกด้วย สำหรับ Tree Planet เป็นเกมส์ออนไลน์ที่ผู้เล่นได้ปลูกและสะสมต้นไม้ในโลกออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊คและสมาร์ทโฟน และจะมีการดำเนินการปลูกต้นไม้จริงๆในนามของผู้เล่นเกมส์ ในพื้นที่ที่ผู้เล่นเลือกและส่งมอบพันธุ์ไม้ไปปลูกในประเทศต่างๆ ซึ่งจัดทำเป็นเวอร์ชั่น 3 แล้ว โดยตั้งเป้าปลูกต้นไม้จำนวน 1,000 ล้านต้นภายในปี 2020

ดั๊บเบิ้ล เอและเอ็นพีเอส พาลูกหลานชาวนาร่วมชม พระมหาชนก

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา และนายอภิชัย ซอปิติพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นพีเอส ผู้นำด้านพลังงานทดแทนจากพลังงานปลูกได้ในกลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ เพาเวอร์ นำคณะลูกหลานชาวนาจากจังหวัดลพบุรี สระบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา เข้าชมการแสดงละครเพลงเฉลิมพระเกียรติ “พระมหาชนก เดอะฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์” ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอและเอ็นพีเอส ได้สนับสนุนเพิ่มรอบพิเศษ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้าถึงและซาบซึ้งในหลักคิดที่ดีงามจากบทพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ทั้งในเรื่องความเพียรพยายาม ความวิริยะอุตสาหะ และการใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา สามารถนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ณ สวนเบญจกิติ เมื่อเร็วๆนี้