Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบทุนพัฒนาให้โรงเรียน จากโครงการปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญา

จากตัวอย่างความสำเร็จเมื่อปีพ.ศ.2536 ที่ดั๊บเบิ้ล เอ เคยมอบต้นกระดาษให้กับโรงเรียนบ้านโคกกระท้อน จ.ปราจีนบุรี เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่ว่างกว่า 25 ไร่ของโรงเรียน จนเติบโตสามารถเก็บเกี่ยวสร้างทุนพัฒนาโรงเรียนแบบพึ่งตนเอง ทำให้โรงเรียนตัวอย่างแห่งนี้ มีรายได้นำไปเป็นทุนสร้างสนามฟุตบอล อาคารเรียน และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับโรงเรียนที่ต้องคอยเงินสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐเพียงอย่างเดียว จึงเป็นจุดเริ่มต้นโครงการ “ปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบท” ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ขยายไปสู่โรงเรียนต่างๆเพื่อมอบต้นกระดาษนำไปปลูกในพื้นที่ว่าง เป็นแหล่งทุนเพื่อพัฒนาโรงเรียนและการศึกษา พร้อมทั้งเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุภาวะโลกร้อน

โดยล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เริ่มทยอยมอบทุนพัฒนาโรงเรียนในโครงการปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบทปี 2 ให้กับโรงเรียนต่างๆที่เข้าร่วมตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553  และต้นไม้เติบโตพร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว  ซึ่งได้เดินทางไปโรงเรียนที่ได้ทุนแห่งแรกคือ โรงเรียนวัดจักรสีห์ จ.สิงห์บุรี ที่สามารถเก็บเกี่ยวเพื่อเป็นทุนพัฒนาโรงเรียนแบบพึ่งตนเองได้จนประสบความสำเร็จรวมกว่า 200 ต้น  และยังมีส่วนช่วยลดโลกร้อนด้วยการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีก 14,100 กิโลกรัม จากการปลูกต้นกระดาษบนพื้นที่ว่างของโรงเรียนมากว่า 3 ปี

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า กิจกรรม “ปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบท” ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ และพันธมิตรที่เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุน ได้เปิดโอกาสให้โรงเรียนที่สนใจ สมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อรับต้นกระดาษไปปลูกเป็นทุนพัฒนาการศึกษาที่หมุนเวียนและยั่งยืน เปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่าในบริเวณโรงเรียนเป็นแหล่งทุนการศึกษา และเป็นพื้นที่สีเขียว ช่วยลดโลกร้อน  ซึ่งก็ได้ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันนี้นับเป็นปีที่ 4 มีโรงเรียนเข้าร่วมแล้วกว่า 240 โรงเรียน และปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 120,000 ต้น สำหรับการมอบทุนพัฒนาโรงเรียนวัดจักรสีห์แห่งนี้ ก็รู้สึกภูมิใจที่โรงเรียนจะได้นำรายได้ในส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษาให้กับเยาวชน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ ลูกหลานของคนในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย”

โรงเรียนวัดจักรสีห์แห่งนี้ นับเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก  มีนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 115 คน มีครูทั้งสิ้น 12 คน  และยังได้รับเลือกเป็นโรงเรียนดีศรีตำบลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จังหวัดสิงห์บุรีอีกด้วย  ในการเดินทางไปมอบทุนครั้งนี้ พี่ๆดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้นำกิจกรรมสนุกสนานที่สอดแทรกความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ไปฝากน้องๆถึงโรงเรียนกันเลย เพื่อสร้างจิตสำนึกช่วยกันดูแลโลกของเราใบนี้ให้น่าอยู่  ซึ่งก็สร้างเสียงหัวเราะและความสุขจากพี่สู่น้อง  รวมทั้งมีผู้ปกครองและชาวบ้านในชุมชนมาร่วมสนุกด้วย  เพราะนั่นคือวิถีชีวิตของชุมชนที่มีส่วนร่วมกับโรงเรียน เป็นสังคมที่ดูแลเกื้อกูลกัน

นายสุชาติ เอี่ยมสุภา ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดจักรสีห์ ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมโครงการว่า “โดยตอนนั้นดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ส่งหนังสือการเปิดรับสมัครโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งก็รู้สึกสนใจ เพราะโรงเรียนก็มีพื้นที่ว่างไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร คิดว่าน่าจะสามารถปลูกต้นกระดาษเพื่อต่อไปจะได้มีทุนมาพัฒนาโรงเรียนได้บ้าง จึงเข้าสมัครได้รับต้นกระดาษมาปลูก โดยมีนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นป.4-ป.6 มาช่วยกันดูแลต้นไม้ ก็เป็นการปลูกฝังให้เด็กๆได้สัมผัสกับธรรมชาติ รักษ์สิ่งแวดล้อม  ส่วนรายได้จากการปลูกต้นกระดาษในครั้งนี้ จะนำไปเป็นทุนขยายผลสร้างแปลงปลูกผัก โรงเพาะเห็ดเพื่อเป็นอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน เพราะเราได้รับการสนับสนุนอาหารกลางวันฟรีให้นักเรียนถึงแค่ชั้นป.6 ส่วนนักเรียนชั้นม.1-ม.3 ทางโรงเรียนต้องออกค่าใช้จ่ายเอง จึงคิดว่าการสร้างสวนเกษตรกินได้นี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระและทำให้เด็กๆได้รับโภชนาการที่ดีขึ้น ก็ต้องขอขอบคุณบริษัทดั๊บเบิ้ล เอ ที่มีโครงการที่มีประโยชน์แบบนี้ ทำให้โรงเรียนสามารถสร้างทุนเพื่อนำมาพัฒนาโรงเรียนได้ด้วยตัวเอง”

ด.ญ.จันทิมา  สุขะ (น้องพลอย) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กล่าวถึงการมีส่วนร่วมโครงการฯว่า  “ก็มีส่วนร่วมดูแลต้นกระดาษในแปลงหลังโรงเรียน โดยร่วมกับเพื่อนๆช่วยรดน้ำต้นไม้ ชอบที่โรงเรียนมีต้นไม้ เพราะดูแล้วสดชื่น และช่วยลดโลกร้อน  สำหรับพลอยก็อยากให้ทุกคนช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม วิธีง่ายๆก็คือ เก็บขยะ และรู้จักการแยกขยะ เช่น ขวดน้ำพลาสติกก็จะแยกไปขายต่อเป็นขยะรีไซเคิล หรือการขี่จักรยานมาโรงเรียนหรือถ้าไม่ไกลก็เดินมาโรงเรียนก็ได้ค่ะ ไม่เกิดมลพิษ”

นอกจากน้องพลอยที่มีหัวใจสีเขียวแล้ว ก็ยังมี ด.ช.ณัฐมนต์  ศักดิลาภ (น้องภีม) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รักโลกไม่แพ้กัน ได้กล่าวว่า “ปกติผมช่วยพ่อแม่ทำสวนผัก ก็เลยชอบการปลูกต้นไม้ไปด้วย  สำหรับต้นกระดาษที่โรงเรียนปลูกก็มีส่วนช่วยพรวนดิน ถากหญ้า เพื่อให้ต้นไม้โตเร็ว มีต้นไม้แล้วรู้สึกเย็นสบาย และก็อยากฝากถึงเพื่อนๆช่วยลดโลกร้อนกัน เช่น การปิดไฟที่ไม่จำเป็น นอกจากประหยัดการใช้พลังงานแล้ว ยังช่วยให้โรงเรียนประหยัดค่าไฟได้ด้วยครับ”

และปิดท้ายกิจกรรม ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มอบหนังสือดีเพื่อการเรียนรู้กว่า 100 เล่ม ให้กับห้องสมุดของโรงเรียน ส่งเสริมการปลูกปัญญาและสังคมรักการอ่าน เพราะหนังสือคือสื่อสร้างปัญญาที่มีค่า  สำหรับโรงเรียนหรือนักเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบทปี 4  ซึ่งกำลังเปิดรับสมัครเพื่อคัดเลือกเข้าโครงการฯ ก็สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ดั๊บเบิ้ล เอ โทร.085 835 1389 หรือ 085 835 3214

รูปภาพประกอบสกู๊ป

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ มอบทุนพัฒนาโรงเรียนและหนังสือ
ต้นกระดาษในโรงเรียน สร้างทุนพัฒนาโรงเรียนและลดโลกร้อน
บรรยากาศกิจกรรมสร้างรอยยิ้มและความสุขจากพี่สู่น้อง
ด.ช.ณัฐมนต์ ศักดิลาภ (น้องภีม)
ด.ญ.จันทิมา สุขะ (น้องพลอย)
นายสุชาติ เอี่ยมสุภา ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดจักรสีห์

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมรักการอ่าน โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " เพราะเป็นองค์กรที่ส่งเสริมด้านสังคมรักการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่หยุดยั้งที่จะเดินหน้า ส่งเสริมโครงการดีๆ ที่จะกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาใส่ใจและรักการอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม และโรงเรียนคลองบางกะสี 2 โรงเรียนที่มีความคิดสร้างสรรค์ของ จ.สมุทรปราการ จัดทำโครงการ "สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง" ด้วยการนำกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้แล้วด้านเดียว มาทำหนังสือหน้าสองให้เป็นหนังสือที่น่าอ่าน น่าติดตาม และที่สำคัญน้องๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สำหรับโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ อาจารย์นางภาวนา มีกลิ่นหอม อาจารย์โรงเรียนคลองบางกะสี จ.สมุทรปราการ ได้เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนได้จัดทำโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มาตั้งแต่ปี 2546 โดยทางโรงเรียนมองว่าในแต่ละวันเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก และส่วน-ใหญ่เป็นการใช้กระดาษเพียงหน้าเดียว ส่วนอีกหน้าที่เหลือไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะอีกด้วย ดังนั้นทางโรงเรียนจึงเกิดแนวคิดในการนำกระดาษอีก 1 หน้าที่เหลืออยู่มาทำให้เกิดประโยชน์ จึงนำกระดาษที่เหลือมาทำหนังสือในรูปแบบของหนังสือทำมือ โดยนำไปสอดแทรกในวิชาศิลปะเพื่อให้เด็กๆได้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้น้องๆ ในโรงเรียนหันมาสนใจการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกด้วย จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2546 โดยรูปแบบของสื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง จะเน้นการนำเรื่องราวต่างๆที่เป็นความรู้ ไม่ว่าจะเป็น นิทาน การละ-เล่น ขนบธรรมเนียมประเพณี ชื่อสัตว์ ชื่อผลไม้ คำศัพท์ต่างๆ มาประกอบรูปภาพ และจัดทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจดึงดูดอยากหยิบมาอ่าน เช่น หนังสือ POP-UP หนังสือยืด หนังสือหน้าเดียว หนังสือกล่อง หนังสือโคม เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมรักการอ่านแล้ว ยังทำให้เด็กนักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความอดทน รู้จักวิเคราะห์และจับประเด็นให้เนื้อหาอยู่ในหน้ากระดาษที่จำกัดได้ โดยไม่ละทิ้งใจความสำคัญ และยังทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย ส่วนโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม ได้นำโครงการผลิตสื่อหนังสือทำมือสอดแทรกในวิชาภาษาไทย โดยให้นักเรียนทำหนังสือทำมือให้รุ่นน้องและเพื่อนในโรงเรียนได้อ่าน จัดเป็นมุมหนังสือต่างๆ ทั่วโรงเรียน และทุกห้องเรียนจะต้องมีมุมหนังสือ เพื่อให้เด็กๆได้สร้างนิสัยรักการอ่านให้เป็นกิจวัตรติดตัวไปจนโต โดยความโดดเด่นของหนังสือทำมือของโรงเรียนจะนำเนื้อหาที่ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ในท้องถิ่นของอำเภอบางบ่อ เช่น การละเล่นท้องถิ่นของบางบ่อที่เรียกว่า "ผะหมี" (โจ๊ก) เป็นร้อยกรองปริศนาให้ทายกัน ซึ่งเป็นการละเล่นที่นับวันจะค่อยๆ สูญหายไปจากอำเภอหากไม่มีการสืบทอดกันไว้ สำหรับการละเล่น "ผะหมี" อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า น้องๆ จะนำเนื้อหาต่างๆ มาแต่งเป็นร้อยกรอง ปริศนาคำทาย ตัวอย่างเช่น พระ หนึ่งชำนาญด้าน ดนตรี (คำตอบ พระอภัยมณี) พระ หนึ่งหลงสาวศรี พี่น้อง (คำตอบ พระลอ) พระ หนึ่งวุ่นราวี ดึงนุช มานา คำตอบ พระราม) พระ หนึ่งโปรยทานก้อง ส่ำสร้างผลบุญ (คำตอบ พระเวสสันดร) ซึ่งนอกจากจะสร้างความรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนทำและคนทายแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในกลุ่มของนักเรียนในโรงเรียน ส่งผลให้ได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2548 โดยในเรื่องนี้ "น้องชนะพล ปานสมบัติ" นักเรียนชั้น ม.5 รร.บางบ่อพิทยาคม ได้เล่าให้ฟังว่า "โครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมรักการอ่านได้มาก เพราะมีรูปแบบและสีสันที่สวยงามน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนก็ให้ความสนใจ มีการสอนการทำให้กับรุ่นน้องๆ ด้วย เพราะม.4-ม.6 จะจัดทำให้น้องๆ ม.ต้นได้อ่าน ซึ่งผมจะชอบเนื้อหาเป็นเรื่องเอกลักษณ์ไทย เพราะส่วนใหญ่รุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก เช่น ขนมไทย วรรณคดีไทย ประวัติศาสตร์ และเนื้อหาธรรมะ เพราะปัจจุบันคนเรามีความเครียดมาก ถ้าได้อ่านหนังสือธรรมะก็ช่วยให้จิตใจดีขึ้น" โครงการดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นสร้างสรรค์จากผลงานภายในโรงเรียน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่หลายๆ โรงเรียนสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการนำไปปฏิบัติได้ เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้น้องๆรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ ประกาศเปิดจองหุ้นกู้ 8-10 มิ.ย.นี้ อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี

หลังจากที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ประกาศเลื่อนวันเปิดจองหุ้นกู้ จากกำหนดเดิม 24-26 พ.ค. ออกไปนั้น ขณะนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย 6% อายุ 3 ปี เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ผ่านธนาคารกรุงไทย และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษ "ดั๊บเบิ้ล เอ" ซึ่งมีตลาดส่งออกทั่วโลก เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะสงบแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี เป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน วงเงินรวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2556 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนด