Follow us

แอ๊ดวานซ์ อะโกร เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "ดั๊บเบิ้ล เอ 1991" ฉลองแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอก้าวสู่ทศวรรษที่ 2

          แอ๊ดวานซ์ อะโกร ผู้ผลิตเยื่อและกระดาษครบวงจรรายใหญ่ของไทย และผู้นำการสร้างแบรนด์กระดาษในตลาดโลก ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ของการสร้างแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการจาก บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ก้าวสู่การเป็น "Paper of the world"

          นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มสร้างตราสินค้า "ดั๊บเบิ้ล เอ" มาตั้งแต่ปี 2543 จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง สร้างรายได้จากการส่งออกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2543-2552) นับแสนล้านบาท และสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรผู้ปลูกต้นกระดาษบนคันนาหรือตามพื้นที่ว่างทางการเกษตรที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์กว่า 1.5 ล้านราย และเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการแก้ปัญหาโลกร้อน โดยการบริโภคทุก 1 รีม จะช่วยให้เกิดกระบวนการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศได้ถึง 3 กิโลกรัม จนปัจจุบันกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มีจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลก มากกว่า 100 ประเทศ ครอบคลุมทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง

 

          การสร้างแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ในตลาดโลก ทำให้ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตราสินค้าของกระดาษถ่ายเอกสารที่มีการจดจำได้มากที่สุดในโลก มีผู้บริโภคมากที่สุดในโลก และมีการผลิตภายใต้แบรนด์เดียวกันมากที่สุดในโลกถึง 200 ล้านรีมต่อปี เพื่อรองรับความต้องการบริโภคกระดาษคุณภาพสูงทั่วโลก ซึ่งอัตราความต้องการการบริโภคกระดาษคุณภาพสูงในตลาดโลกนั้นยังมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอีกมาก และทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลประกอบการกำไรสุทธิต่อเนื่องมาตลอด 10 ปี รวมทั้งสามารถฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2552 ด้วยกำไรสุทธิประมาณ 2,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

          ดังนั้น เพื่อการก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ของการสร้างแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ และขยายผลด้านชื่อเสียงจากตราสินค้า

"ดั๊บเบิ้ล เอ" และตอกย้ำมูลค่าของแบรนด์ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้สร้างขึ้นทั่วโลก และสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก รวมทั้งสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค คู่ค้า สถาบันการเงิน นักลงทุน และบุคคลทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักบริษัทในนามดั๊บเบิ้ล เอ บริษัทจึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม "บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน)" เป็น "บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)" เพื่อให้มีตัวอักษรคำว่า "ดั๊บเบิ้ล เอ" และ

"ปีก่อตั้ง" ปรากฏอยู่ในชื่อ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2553 นี้เป็นต้นไป

 

          นายชาญวิทย์ กล่าวต่อไปว่า วิสัยทัศน์สำหรับการเติบโตในก้าวต่อไปของดั๊บเบิ้ล เอ เราต้องการเป็น "กระดาษของชาวโลก : Paper of the world" คือ เป็นแบรนด์กระดาษคุณภาพสูงที่รองรับความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคทั่วโลก โดยดั๊บเบิ้ล เอ จะให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งกระดาษคุณภาพของผู้ใช้ทั่วโลก โดยขณะนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ตั้งทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

          นอกจากความเป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภคในด้านคุณภาพแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีนโยบายที่จะเติบโตสู่ตลาดทั่ว-โลก ด้วยการเป็นกระดาษของชาวโลกที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยดั๊บเบิ้ล เอ จะยึดหลักการเป็นกระดาษที่ผลิตจากไม้ปลูก หรือ Paper from Farmed Trees อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ที่เกษตรกรไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่นพื้นที่บนคันนา ให้เกิดเป็นรายได้เสริมสำหรับเกษตรกรที่ร่วมโครงการ และมีแผนงานที่จะเปลี่ยน

ดีไซน์ของกระดาษห่อและกล่องบรรจุกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่ไปจำหน่ายทั่วโลก ให้สอดรับกับคอนเซ็ปท์ Paper from Farmed Trees มากยิ่งขึ้น

 

          ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดั๊บเบิ้ล เอ มีการส่งเสริมให้ปลูกต้นกระดาษไปแล้วทั้งสิ้น 940 ล้านต้น  โดยมีเกษตรกรในประเทศไทยร่วมปลูกต้นกระดาษบนคันนาเพื่อเป็นรายได้เสริมแล้วกว่า 1.5 ล้านราย และมีเกษตรกรในหลายประเทศที่สนใจเข้าร่วม เช่น กัมพูชา เวียดนาม บังคลาเทศ พม่า ลาว เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มั่นใจได้ว่า กระดาษที่พวกเขาบริโภคทั้งในปัจจุบันและอนาคต จะเป็นกระดาษที่ทำให้เขาคือ ฮีโร่ตัวจริงที่ร่วมแก้ปัญหาโลกร้อน

 

          พัฒนาการของดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มจากปี 2525 ซึ่งถือเป็นยุคเริ่มต้น ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มพัฒนาธุรกิจตั้งแต่รากฐาน โดยการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบจนได้สายพันธุ์ "ต้นกระดาษ" ที่มีเนื้อเยื่อคุณภาพและเติบโตดี ทำให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้เสริมจากพื้นที่ที่ไม่เคยใช้ประโยชน์ ปี 2534 ยุคการก่อตั้งบริษัทและโรงงาน ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เปลี่ยนประเทศไทยจากผู้นำเข้า เป็นผู้ส่งออกกระดาษสุทธิ และมีรายได้จากการส่งออกกระดาษนับหมื่นล้านบาทต่อปี 
 

          ปี 2543 เป็นยุคแห่งแบรนด์ ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เป็นผู้นำอุตสาหกรรมกระดาษในการก้าวข้ามจากสินค้า Commodity สู่การเป็น Consumer Product ด้วยความสำเร็จจากการสร้างแบรนด์ในหลายประเทศทั่วโลก และใน

ปี 2553 นี้จะเป็นจุดเริ่มของยุคการเป็น Paper of The world ของดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เชื่อมั่นว่าความได้เปรียบ

ผู้ผลิตทั่วโลก ทั้งในเรื่องวัตถุดิบ และพลังของแบรนด์ จะทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ ก้าวสู่ยุคใหม่ "Paper of the world" ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

          นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีแผนที่จะปรับโครงสร้างการระดมทุนของกิจการ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนแหล่งเงิน-ทุนระยะยาวจากต่างประเทศ เป็นการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ในประเทศ เพื่อบริหารต้นทุนเงินทุนของกิจการ ซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมเร็วๆ นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ สนับสนุนโครงการคืนความสดใสในดวงตาให้เด็กวัยเรียน

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบเงินสนับสนุนให้กับมูลนิธิพัฒนาระบบสุขภาพอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ในโครงการ "คืนความสดใสในดวงตาให้เด็กวัยเรียน" เพื่อใช้ในการตัดแว่นสายตาให้กับเยาวชนกว่า 500 คน โดยมี นายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ ในฐานะประธานมูลนิธิฯให้เกียรติเป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วย นายวุฒิกรณ์ พัฒนโสภณ สาธารณสุขอำเภอ สำหรับมูลนิธิพัฒนาระบบสุขภาพอำเภอศรีมหาโพธิได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 มีวัตถุประสงค์ดูแลคุณภาพชีวิตของเด็ก คนชรา ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ให้ความสำคัญกับสังคมมาอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมสนับสนุนพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ดียิ่งขึ้น

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับโรงเรียนในสังกัดศึกษาธิการ จ.ปราจีนบุรี

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี จัดคณะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากสถาบันการศึกษาในจังหวัดปราจีนบุรี อาทิ โรงเรียนศรีมหาโพธิ โรงเรียนศรีมโหสถ และโรงเรียนมัธยมวัดใหม่กรงทอง ในพระราชูปถัมภ์ฯ เข้าเยี่ยมชมโรงงานดั๊บเบิ้ล เอ ที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเรียนรู้ “กระดาษจากคันนา” ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมเกษตรกรปลูกต้นกระดาษบนคันนาว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ เป็นรายได้เสริมและช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดโลกร้อนอีกด้วย ผ่านการบรรยายและนำเสนอด้วยภาพยนตร์ระบบ 4 มิติ และเข้าชมกระบวนการผลิกระดาษคุณภาพสูงที่โรงผลิตกระดาษที่ 3 นับเป็นกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนและเพิ่มพูนประสบการณ์ใหม่ๆ สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน

สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้บ้านคุณกิตติ

คุณนลินทิพย์ เพณี ผู้อำนวยการกองส่งเสริมมาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ เข้าเยี่ยมชม “ศูนย์การเรียนรู้บ้านคุณกิตติ ดำเนินชาญวนิชย์ มรดกแห่งการเรียนรู้ สู่ความสำเร็จระดับโลก” จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อศึกษาแนวคิดการทำงานของ คุณกิตติ ดำเนินชาญวนิชย์ ที่ถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินชีวิตและการทำงานตั้งแต่วัยเด็กจนประสบความสำเร็จที่ทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนจากผู้นำเข้ากระดาษสู่การเป็นผู้ส่งออกกระดาษไปทั่วโลก ภายใต้แบรนด์ “ดั๊บเบิ้ล เอ” กระดาษจากคันนา และยังช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ปลูกต้นกระดาษบนคันนา ผ่านการนำเสนอด้วยระบบมัลติมีเดียที่ทันสมัย นับเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตและการทำงานให้กับคนรุ่นใหม่ต่อไป

รร.วัดสุทธิฯ ร่วม Double A Fast Print for School ส่งเสริมเด็กไทย 4.0

ดร.อารีย์ วีระเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ซึ่งเข้าร่วมเป็น 1 ใน 10 โรงเรียนนำร่องโครงการ Double A Fast Print for School ให้เกียรติร่วมทดสอบการสั่งพรินต์งานผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ที่สามารถสั่งพรินต์ได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อร่วมมือกันสนับสนุนการศึกษาเด็กไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0 และลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง รวมทั้งมีส่วนร่วมในการสร้างทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาการศึกษาจากรายได้ส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้น ปัจจุบัน Double A Fast Print มีจุดตั้งเครื่องบริการแล้วกว่า 1,000 เครื่องทั่วประเทศ และมีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ให้สามารถรองรับการสั่งพรินต์งานด้วยคอมพิวเตอร์หรือ Notebook ผ่าน www.doubleafastprint.com เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนนักศึกษามากยิ่งขึ้น

ดั๊บเบิ้ล เอ รักษ์สิ่งแวดล้อม ปล่อยพันธุ์กุ้งพันธุ์ปลาสู่แม่น้ำปราจีนบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านทาม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี จัดกิจกรรมอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ในโครงการ “ปล่อยพันธุ์กุ้ง พันธุ์ปลา ลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี” จำนวนกว่า 500,000 ตัว โดยมีนายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียง ร่วมเป็นจิตอาสาเราทำความดี ด้วยหัวใจ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 นับเป็นการเพิ่มปริมาณพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อรักษาความสมดุลของแหล่งน้ำธรรมชาติ ณ ท่าน้ำวัดอรัญไพรศรี จังหวัดปราจีนบุรี