แอ๊ดวานซ์ อะโกร เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "ดั๊บเบิ้ล เอ 1991" ฉลองแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอก้าวสู่ทศวรรษที่ 2
แอ๊ดวานซ์ อะโกร ผู้ผลิตเยื่อและกระดาษครบวงจรรายใหญ่ของไทย และผู้นำการสร้างแบรนด์กระดาษในตลาดโลก ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ของการสร้างแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการจาก บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ก้าวสู่การเป็น "Paper of the world"
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มสร้างตราสินค้า "ดั๊บเบิ้ล เอ" มาตั้งแต่ปี 2543 จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง สร้างรายได้จากการส่งออกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2543-2552) นับแสนล้านบาท และสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรผู้ปลูกต้นกระดาษบนคันนาหรือตามพื้นที่ว่างทางการเกษตรที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์กว่า 1.5 ล้านราย และเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการแก้ปัญหาโลกร้อน โดยการบริโภคทุก 1 รีม จะช่วยให้เกิดกระบวนการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศได้ถึง 3 กิโลกรัม จนปัจจุบันกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มีจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลก มากกว่า 100 ประเทศ ครอบคลุมทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง
การสร้างแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ในตลาดโลก ทำให้ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตราสินค้าของกระดาษถ่ายเอกสารที่มีการจดจำได้มากที่สุดในโลก มีผู้บริโภคมากที่สุดในโลก และมีการผลิตภายใต้แบรนด์เดียวกันมากที่สุดในโลกถึง 200 ล้านรีมต่อปี เพื่อรองรับความต้องการบริโภคกระดาษคุณภาพสูงทั่วโลก ซึ่งอัตราความต้องการการบริโภคกระดาษคุณภาพสูงในตลาดโลกนั้นยังมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอีกมาก และทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลประกอบการกำไรสุทธิต่อเนื่องมาตลอด 10 ปี รวมทั้งสามารถฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2552 ด้วยกำไรสุทธิประมาณ 2,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดังนั้น เพื่อการก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ของการสร้างแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ และขยายผลด้านชื่อเสียงจากตราสินค้า
"ดั๊บเบิ้ล เอ" และตอกย้ำมูลค่าของแบรนด์ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้สร้างขึ้นทั่วโลก และสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก รวมทั้งสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค คู่ค้า สถาบันการเงิน นักลงทุน และบุคคลทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักบริษัทในนามดั๊บเบิ้ล เอ บริษัทจึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม "บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน)" เป็น "บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)" เพื่อให้มีตัวอักษรคำว่า "ดั๊บเบิ้ล เอ" และ
"ปีก่อตั้ง" ปรากฏอยู่ในชื่อ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2553 นี้เป็นต้นไป
นายชาญวิทย์ กล่าวต่อไปว่า วิสัยทัศน์สำหรับการเติบโตในก้าวต่อไปของดั๊บเบิ้ล เอ เราต้องการเป็น "กระดาษของชาวโลก : Paper of the world" คือ เป็นแบรนด์กระดาษคุณภาพสูงที่รองรับความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคทั่วโลก โดยดั๊บเบิ้ล เอ จะให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งกระดาษคุณภาพของผู้ใช้ทั่วโลก โดยขณะนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ตั้งทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากความเป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภคในด้านคุณภาพแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีนโยบายที่จะเติบโตสู่ตลาดทั่ว-โลก ด้วยการเป็นกระดาษของชาวโลกที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยดั๊บเบิ้ล เอ จะยึดหลักการเป็นกระดาษที่ผลิตจากไม้ปลูก หรือ Paper from Farmed Trees อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ที่เกษตรกรไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่นพื้นที่บนคันนา ให้เกิดเป็นรายได้เสริมสำหรับเกษตรกรที่ร่วมโครงการ และมีแผนงานที่จะเปลี่ยน
ดีไซน์ของกระดาษห่อและกล่องบรรจุกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่ไปจำหน่ายทั่วโลก ให้สอดรับกับคอนเซ็ปท์ Paper from Farmed Trees มากยิ่งขึ้น
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดั๊บเบิ้ล เอ มีการส่งเสริมให้ปลูกต้นกระดาษไปแล้วทั้งสิ้น 940 ล้านต้น โดยมีเกษตรกรในประเทศไทยร่วมปลูกต้นกระดาษบนคันนาเพื่อเป็นรายได้เสริมแล้วกว่า 1.5 ล้านราย และมีเกษตรกรในหลายประเทศที่สนใจเข้าร่วม เช่น กัมพูชา เวียดนาม บังคลาเทศ พม่า ลาว เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มั่นใจได้ว่า กระดาษที่พวกเขาบริโภคทั้งในปัจจุบันและอนาคต จะเป็นกระดาษที่ทำให้เขาคือ ฮีโร่ตัวจริงที่ร่วมแก้ปัญหาโลกร้อน
พัฒนาการของดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มจากปี 2525 ซึ่งถือเป็นยุคเริ่มต้น ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มพัฒนาธุรกิจตั้งแต่รากฐาน โดยการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบจนได้สายพันธุ์ "ต้นกระดาษ" ที่มีเนื้อเยื่อคุณภาพและเติบโตดี ทำให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้เสริมจากพื้นที่ที่ไม่เคยใช้ประโยชน์ ปี 2534 ยุคการก่อตั้งบริษัทและโรงงาน ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เปลี่ยนประเทศไทยจากผู้นำเข้า เป็นผู้ส่งออกกระดาษสุทธิ และมีรายได้จากการส่งออกกระดาษนับหมื่นล้านบาทต่อปี
ปี 2543 เป็นยุคแห่งแบรนด์ ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เป็นผู้นำอุตสาหกรรมกระดาษในการก้าวข้ามจากสินค้า Commodity สู่การเป็น Consumer Product ด้วยความสำเร็จจากการสร้างแบรนด์ในหลายประเทศทั่วโลก และใน
ปี 2553 นี้จะเป็นจุดเริ่มของยุคการเป็น Paper of The world ของดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เชื่อมั่นว่าความได้เปรียบ
ผู้ผลิตทั่วโลก ทั้งในเรื่องวัตถุดิบ และพลังของแบรนด์ จะทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ ก้าวสู่ยุคใหม่ "Paper of the world" ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีแผนที่จะปรับโครงสร้างการระดมทุนของกิจการ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนแหล่งเงิน-ทุนระยะยาวจากต่างประเทศ เป็นการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ในประเทศ เพื่อบริหารต้นทุนเงินทุนของกิจการ ซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมเร็วๆ นี้