Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมรักการอ่าน โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

 

         เพราะเป็นองค์กรที่ส่งเสริมด้านสังคมรักการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่หยุดยั้งที่จะเดินหน้า

ส่งเสริมโครงการดีๆ ที่จะกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาใส่ใจและรักการอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ

ได้ร่วมกับโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม และโรงเรียนคลองบางกะสี  2 โรงเรียนที่มีความคิดสร้างสรรค์ของ

จ.สมุทรปราการ จัดทำโครงการ "สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง" ด้วยการนำกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้แล้วด้านเดียว มาทำหนังสือหน้าสองให้เป็นหนังสือที่น่าอ่าน น่าติดตาม และที่สำคัญน้องๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

 

         สำหรับโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ อาจารย์นางภาวนา  มีกลิ่นหอม  อาจารย์โรงเรียนคลองบางกะสี  จ.สมุทรปราการ ได้เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนได้จัดทำโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มาตั้งแต่ปี 2546 โดยทางโรงเรียนมองว่าในแต่ละวันเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก และส่วน-ใหญ่เป็นการใช้กระดาษเพียงหน้าเดียว ส่วนอีกหน้าที่เหลือไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะอีกด้วย ดังนั้นทางโรงเรียนจึงเกิดแนวคิดในการนำกระดาษอีก 1 หน้าที่เหลืออยู่มาทำให้เกิดประโยชน์ จึงนำกระดาษที่เหลือมาทำหนังสือในรูปแบบของหนังสือทำมือ โดยนำไปสอดแทรกในวิชาศิลปะเพื่อให้เด็กๆได้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้น้องๆ ในโรงเรียนหันมาสนใจการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกด้วย จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2546
 

         โดยรูปแบบของสื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง จะเน้นการนำเรื่องราวต่างๆที่เป็นความรู้ ไม่ว่าจะเป็น นิทาน  การละ-เล่น  ขนบธรรมเนียมประเพณี  ชื่อสัตว์  ชื่อผลไม้  คำศัพท์ต่างๆ มาประกอบรูปภาพ และจัดทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจดึงดูดอยากหยิบมาอ่าน เช่น หนังสือ POP-UP   หนังสือยืด  หนังสือหน้าเดียว  หนังสือกล่อง  หนังสือโคม  เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมรักการอ่านแล้ว ยังทำให้เด็กนักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์  มีความอดทน รู้จักวิเคราะห์และจับประเด็นให้เนื้อหาอยู่ในหน้ากระดาษที่จำกัดได้ โดยไม่ละทิ้งใจความสำคัญ และยังทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย

 

         ส่วนโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม ได้นำโครงการผลิตสื่อหนังสือทำมือสอดแทรกในวิชาภาษาไทย โดยให้นักเรียนทำหนังสือทำมือให้รุ่นน้องและเพื่อนในโรงเรียนได้อ่าน จัดเป็นมุมหนังสือต่างๆ ทั่วโรงเรียน และทุกห้องเรียนจะต้องมีมุมหนังสือ เพื่อให้เด็กๆได้สร้างนิสัยรักการอ่านให้เป็นกิจวัตรติดตัวไปจนโต โดยความโดดเด่นของหนังสือทำมือของโรงเรียนจะนำเนื้อหาที่ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ในท้องถิ่นของอำเภอบางบ่อ เช่น การละเล่นท้องถิ่นของบางบ่อที่เรียกว่า "ผะหมี" (โจ๊ก) เป็นร้อยกรองปริศนาให้ทายกัน ซึ่งเป็นการละเล่นที่นับวันจะค่อยๆ สูญหายไปจากอำเภอหากไม่มีการสืบทอดกันไว้

 

         สำหรับการละเล่น "ผะหมี" อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า น้องๆ จะนำเนื้อหาต่างๆ มาแต่งเป็นร้อยกรอง

ปริศนาคำทาย ตัวอย่างเช่น

 

                   พระ   หนึ่งชำนาญด้าน ดนตรี    (คำตอบ พระอภัยมณี)
                   พระ   หนึ่งหลงสาวศรี พี่น้อง    (คำตอบ พระลอ)
                   พระ   หนึ่งวุ่นราวี ดึงนุช มานา    คำตอบ พระราม)
                   พระ   หนึ่งโปรยทานก้อง ส่ำสร้างผลบุญ    (คำตอบ พระเวสสันดร)

 

         ซึ่งนอกจากจะสร้างความรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนทำและคนทายแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในกลุ่มของนักเรียนในโรงเรียน ส่งผลให้ได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2548  โดยในเรื่องนี้  "น้องชนะพล  ปานสมบัติ" นักเรียนชั้น ม.5 รร.บางบ่อพิทยาคม ได้เล่าให้ฟังว่า  "โครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมรักการอ่านได้มาก เพราะมีรูปแบบและสีสันที่สวยงามน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนก็ให้ความสนใจ มีการสอนการทำให้กับรุ่นน้องๆ ด้วย เพราะม.4-ม.6 จะจัดทำให้น้องๆ ม.ต้นได้อ่าน ซึ่งผมจะชอบเนื้อหาเป็นเรื่องเอกลักษณ์ไทย เพราะส่วนใหญ่รุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก เช่น ขนมไทย วรรณคดีไทย ประวัติศาสตร์  และเนื้อหาธรรมะ เพราะปัจจุบันคนเรามีความเครียดมาก ถ้าได้อ่านหนังสือธรรมะก็ช่วยให้จิตใจดีขึ้น"

 

         โครงการดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นสร้างสรรค์จากผลงานภายในโรงเรียน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่หลายๆ โรงเรียนสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการนำไปปฏิบัติได้ เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้น้องๆรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับกลุ่มเกษตรกร เยี่ยมชมโรงงาน

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับกลุ่มเกษตรกรและผู้สนใจปลูกต้นกระดาษ เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษ ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี ที่เลือกใช้เทคโนโลยีชั้นนำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ได้ทราบถึงขั้นตอนการผลิตกระดาษคุณภาพ ที่ใช้วัตถุดิบจาก “ต้นกระดาษ” ที่ปลูกโดยเกษตรกรไทย ไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ ช่วยส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้เกษตรกร อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่สีเขียว มีส่วนช่วยลดโลกร้อน โดยต้นกระดาษ 1 ต้นจะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 17.86 กิโลกรัม/ปี นอกจากนี้ ได้เข้าใจกระบวนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยของเหลือทิ้งจากการผลิตกระดาษ อาทิ เศษไม้ เปลือกไม้ น้ำมันยางไม้ ถูกนำไปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้าชีวมวลใช้ในกลุ่มโรงงาน ผ่านการบรรยายด้วยภาพยนตร์ระบบ 4 มิติ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ มีการดำเนินธุรกิจบนแนวทาง ESG และให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจชุมชนที่เติบโตและเข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำหรับสถานศึกษาหรือองค์กรที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://openhouse.doubleapaper.com/

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะจากโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรฯ ก.อุตสาหกรรม

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสู่การเป็นนักส่งเสริมอุตสาหกรรมมืออาชีพ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จัดโดยศูนย์ให้คําปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษครบวงจร ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นนำด้วยระบบบริหารจัดการตามมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001 และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 จนเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและส่งออกไปแล้ว 145 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้เข้าใจถึงที่มาของวัตถุดิบ “ต้นกระดาษ” จากไม้ปลูกของเกษตรกร โดยไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ และยังช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทย พร้อมทั้งเรียนรู้โมเดลการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด (Circular Economy) ผ่านการนำเสนอด้วยรูปแบบภาพยนตร์ระบบ 4 มิติ ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนบนแนวทาง ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล สำหรับสถานศึกษาหรือองค์กรที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://openhouse.doubleapaper.com/

ดั๊บเบิ้ล เอ คว้า “ฉลากลดโลกร้อน” เดินหน้าสู่ Net Zero

ดั๊บเบิ้ล เอ เดินหน้าโรดแมป Net Zero ภายในปี 2050 อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการได้รับฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction : CFR) ในผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษภายใต้แบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอและแบรนด์ในเครือ รวม 15 รายการ พร้อมขยายให้ได้การรับรองผลิตภัณฑ์ลดโลกร้อนให้ครอบคลุมทุกรายการ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องทุกมิติในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานคาร์บอนต่ำให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสังคมอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG       นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ(1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ ยังให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วยกัน โดยเฉพาะการดำเนินงานเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกไปสู่เป้าหมาย Net Zero ส่งผลให้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับฉลากลดโลกร้อน สำหรับผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษทั้ง 15 รายการ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) หรือ อบก. โดยผ่านการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง กระบวนการผลิต การใช้งาน และการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่า ตลอดกระบวนการผลิต ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีฐาน (ปี 2021)       ด้วยความมุ่งมั่นดำเนินงานตามกลยุทธ์ทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยมีโรดแมปเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นองค์กรที่มีคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2050 ไม่ว่าจะเป็นโครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การบริหารทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การใช้พลังงานสะอาด ตลอดจนการบูรณการในทุกกิจกรรมของบริษัทฯ ส่งผลให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกประจำปี 2023 ของกลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ (Carbon Footprint for Organization : CFO) มีตัวเลขลดลงถึง 48% ตามมาตรฐาน ISO 14064-1 และตามมาตรฐานของ อบก. ซึ่งทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าและเร็วกว่าแผนระยะสั้นที่วางไว้ว่าจะลดลง 25% ในปี 2030       ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ดำเนินธุรกิจบนแนวทาง ESG และมีโมเดลธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานคาร์บอนต่ำตั้งแต่เริ่มแรก ตอกย้ำการเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับโลกของเรา

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือศุภาลัย ชวนทำดีมอบสมุดให้โรงเรียน กทม. ในโครงการ Hero Zero เพื่อสิ่งแวดล้อมและการศึกษา

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) และ นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบสมุดเพื่อการศึกษาให้กับน้อง ๆโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 24,000 เล่ม จากโครงการ Hero Zero by Double A x Supalai โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แทนรับมอบ สำหรับโครงการนี้ ได้ดำเนินการตลอดปี 2566 เป็นการรับคืนกระดาษสำนักงานใช้แล้วเพื่อนำไปรีไซเคิล โดยกระดาษทุก 1 กิโลกรัมที่เก็บกลับเท่ากับศุภาลัยได้ร่วมมอบสมุดจำนวน 1 เล่ม และดั๊บเบิ้ล เอ สมทบเพิ่มอีก 1 เล่ม ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าในการนำกลับไปรีไซเคิล ลดโลกร้อนแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชนอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งโครงการรวมพลัง ของพันธมิตรธุรกิจที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน และ มีเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่การลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) บนความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบความสุข เติมรอยยิ้มในกิจกรรมเลี้ยงน้องวันเกิด ครั้งที่ 136

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม ในกิจกรรมเลี้ยงน้องวันเกิด ครั้งที่ 136 ณ โรงเรียนบ้านโคกกระท้อน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีพี่ๆดั๊บเบิ้ล เอ มาร่วมทำความดีในเดือนเกิดของตน ด้วยการมอบชุดอาหารว่าง และไอศกรีม ให้กับน้องๆ ส่งเสริมโภชนาการที่ดี พร้อมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการเปิดโอกาสให้น้องๆได้กล้าคิดกล้าแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ สร้างความสนุกเพลิดเพลินและพัฒนาทักษะด้านอารมณ์ที่ดี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญของการพัฒนาเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นอนาคตที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมรณรงค์ “รักษ์โลก รักษ์ด้วยสินค้าฉลากเขียว” กับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ “รักษ์โลก รักษ์ด้วยสินค้าฉลากเขียว” เพื่อให้ความรู้และเข้าใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากเขียว (Green Label) ซึ่งเป็นฉลากสิ่งแวดล้อมที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ โดยมี ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย พร้อมด้วย ดร.ฉัตรตรี ภูรัต ผู้อำนวยการฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมเปิดงานและเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชน ณ บริเวณถนนสีลม อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และตลาดนัดจตุจักร ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์กลุ่มกระดาษพิมพ์เขียนภายใต้แบรนด์เครือดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการรับรองฉลากเขียวมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันและสะท้อนถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อส่งมอบคุณค่าจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปีค.ศ.2050