Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนน้องกระทบไหล่นักกอล์ฟระดับโลก หนึ่งแรงบันดาลใจให้เด็กไทยก้าวไปสู่โปรกอล์ฟระดับมืออาชีพ

ผ่านไปแล้วสำหรับการแข่งขันกอล์ฟหญิง Honda-PTT LPGA Thailand 2010 กอล์ฟหญิงรายการที่ใหญ่

ที่สุดในประเทศไทย ที่ได้รับการตอบรับในการเข้าแข่งขันจากโปรสาวระดับโลก อาทิ มิเชล วี โปรสาวจากสหรัฐฯ  ลอเรน่า โอโชอา มือหนึ่งของโลกและแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว และอาอิ มิยาซาโตะ นักกอล์ฟสาวดาวรุ่งจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่ล่าสุดคว้าแชมป์รายการHonda-PTT LPGA Thailand 2010 ไปครอง ด้วยสกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 


         ดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะผู้ร่วมให้การสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟครั้งนี้ ไม่พลาดที่จะจัดกิจกรรมดีๆ ให้กับน้องๆ ที่สนใจกีฬากอล์ฟ โดยนำน้องๆ ที่ผ่านการคัดเลือกจากกิจกรรม “กระทบไหล่นักกอล์ฟ ระดับโลกกับดั๊บเบิ้ล เอ” กว่า 10 คน เดินทางมายังสนามสยามคันทรี่ คลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส งานนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้นำ “น้องวาด” ด.ญ.วาด แผ่วฉิมพลี นักกอล์ฟระดับเยาวชน วัย 14 ปี ซึ่งคว้ารางวัลการแข่งขันมากมาย และมีคะแนนสะสมอันดับ 1 ของสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ประจำภาคตะวันออก มาให้คำแนะนำเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟให้กับน้องๆในครั้งนี้  ซึ่งมีนักกอล์ฟระดับโลกมาโชว์วงสวิงให้น้องๆได้เห็นกันแบบใกล้ชิดทำเอาน้องๆได้ทั้งความรู้ และลุ้นการแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน แต่ดูเหมือนนักกอล์ฟที่เป็นขวัญใจของน้องๆเห็นจะหนีไม่พ้น ลอเรน่า โอโชอา มือหนึ่งของโลกและแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบลีลาการตีของโปรสาวผู้นี้


          โดย “ น้องอาร์ม ”กรินทร์ พงษ์เสถียรศักดิ์ หนุ่มน้อยวัย 15 ปี หนึ่งในเยาวชนที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟและเข้าร่วมกิจกรรมกับดั๊บเบิ้ล เอ ในครั้งนี้ว่า “ วันนี้ผมตั้งใจมาดูลอเรน่า โอโชอา เป็นพิเศษ เพราะชื่นชอบสไตล์การตีของเขา และอยากจะขอลายเซ็นต์เก็บเอาไว้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง โดยผมเริ่มเล่นกอล์ฟและสะสมประสบการณ์ได้ 3 ปี ซึ่งการมาร่วมกิจกรรมกับดั๊บเบิ้ล เอ ในวันนี้ ทำให้ผมได้เห็นบรรยากาศจริงของการแข่งขันในระดับใหญ่แบบนี้ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่าอยากเป็นแบบพี่ๆ นักกีฬาบ้าง และการมาดูในวันนี้คิดว่าจะนำประสบการณ์และรูปแบบการเล่นของนักกีฬาแต่ละคนมาปรับใช้กับการเล่นกอล์ฟของตัวเองต่อไป โดยผมตั้งเป้า-หมายว่าอยากจะเป็นโปรกอล์ฟในระดับโลกให้ได้ครับ ” 

 
          งานนี้นอกจากจะมีน้องๆให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกับดั๊บเบิ้ล เอ แล้ว ยังมีครอบครัวที่สนใจกีฬากอล์ฟ อย่าง“ ครอบครัวศรีภัทรประสิทธิ์ ” เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวนักกีฬากอล์ฟตัวจริง เสียงจริง เพราะสมาชิกทั้ง

5 คน เริ่มตั้งแต่ คุณพ่อ ดร.ประดิษฐ์  คุณแม่ประภาพร และน้องๆ ทั้ง 3 คน ต่างสนใจและรักกีฬากอล์ฟเป็นอย่างมาก โดยในวันนี้ คุณพ่อได้พูดถึงกิจกรรมดีๆที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดขึ้นว่า


          “ ลูกๆทั้ง 3 คน ทั้งน้องภูมิ ( อาทิตยพงศ์) น้องภาค (สิทธิพงศ์) และน้องแพรว (ภัทราพร ) สนใจและชอบเล่นกีฬากอล์ฟมาก และได้รับรางวัลมาหลายรายการ ซึ่งวันนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ดีที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เปิดโอกาสให้เด็กที่มีความสนใจได้มาเห็นและมาสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันในระดับประเทศ และถือเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของเด็กๆให้สามารถก้าวไปในระดับอาชีพ และระดับโลกได้ โดยวันนี้น้องแพรว อยากจะมาดู  “มิเชล วี” เพราะชื่นชอบในสไตล์การตีมาก นอกจากนี้คุณพ่อมองว่ากีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่คนไทยสามารถทำได้ดี เพราะเป็นกีฬาที่ใช้ความสามารถส่วนบุคคล ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง เชื่อว่าประเทศไทยจะมีนักกอล์ฟที่มีฝีมือและสามารถก้าวไปในระดับโลกอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้ต้องขอบคุณดั๊บเบิ้ล เอ ที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ที่รักกีฬากอล์ฟ”


          สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่ได้จัดขึ้นเฉพาะน้องๆที่เล่นกอล์ฟเป็นอยู่แล้วเท่านั้น แต่ยังจัดขึ้นสำหรับน้องๆ ที่เริ่มสนใจกีฬากอล์ฟ และอยากจะเข้ามาสัมผัสกีฬากอล์ฟ โดยเฉพาะน้องๆเยาวชนจาก จ.ปราจีนบุรี โดยทุกคนสนใจและได้ความรู้เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ เช่น การนับคะแนนซึ่งสนามกอล์ฟมาตรฐานปกติจะมีจำนวน 18 หลุม การเล่นหนึ่งหลุมจะนับตั้งแต่ตีลูกจากเขตตั้งทีของหลุมนั้นต่อเนื่องไปจนกระทั่งลูกลงหลุมเรียกได้ว่าเล่นจบไปแล้วหนึ่งหลุม  โดยมีกำหนดมาตรฐาน (Par-พาร์) ของจำนวนครั้งที่ตี  และเป็นจำนวนแต้มที่ทำได้ เช่น หลุมที่ระบุว่าเป็นหลุมพาร์ 3 (Par 3) ถ้าผู้เล่นตีตั้งแต่เขตตั้งทีจนกระทั่งลูกลงหลุมในจำนวนตี 3 ครั้งก็เท่ากับว่ามีความสามารถเท่ากับแต้มมาตรฐานของหลุมนี้ เรียกว่าทำพาร์ได้ หากตีน้อยกว่าพาร์ 1 ครั้ง ก็จะเรียกว่า เบอร์ดี้ คือ -1 ถือว่าได้คะแนน และหากตีเพียงครั้งเดียวลงหลุมเลย จะมีชื่อเฉพาะเรียกว่าโฮลอินวัน เป็นต้น 

 

          รวมถึงมารยาทของผู้ชมในสนาม เช่น อย่าเดิน อย่าวิ่ง อย่าเคลื่อนไหว อย่าส่งเสียงขณะนักกอล์ฟกำลังเตรียมจะตีลูกจนกระทั่งจบวงสะวิง และหากยืนหรือนั่งชมอยู่รอบกรีน ถ้าผู้เล่นในก๊วนนั้นยังพัตไม่จบ อย่าเดินหรือวิ่งออกไป เพราะจะทำให้นักกอล์ฟเสียสมาธิและเสียเปรียบได้ อีกทั้งการตั้งระบบเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือให้เป็นแบบสั่น หรือแบบเงียบด้วยเช่นกัน


          นอกจากนี้ในช่วงท้ายของกิจกรรม“น้องวาด” เจ้าของถ้วยรางวัลกว่า 50 ถ้วย ยังได้บอกเทคนิคง่ายๆ สำหรับคนที่อยากเล่นกอล์ฟ “ โดยสิ่งแรกต้องเริ่มจากความชอบก่อน หลังจากนั้นอยู่ที่การฝึกฝนอย่างจริงจัง

นอกจากนี้สมาธิถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะนักกอล์ฟส่วนใหญ่ที่จะประสบความสำเร็จจะมีสมาธิในการตี และมีสมาธิกับเกมอย่างมาก ซึ่งเราสามารถนำสมาธิในการเล่นในเกมมาใช้ในการดำเนินชีวิตของเราได้อีกด้วย”


          งานนี้นอกจากน้องๆ จะได้เห็นสไตล์การเล่นของโปรแต่ละคน และได้เห็นถึงบรรยากาศการแข่งขันในระดับประเทศแล้ว ยังได้เทคนิคดีๆในการเล่นกอล์ฟจากนักกีฬาในระดับเยาวชน ที่ถือได้ว่ามากไปด้วยฝีมือและความสามารถแม้จะอายุเพียง 14 ปี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดั๊บเบิ้ล เอ นำมาเป็นแบบอย่างให้กับน้องๆ ที่ต้องการจะเดินเข้ามาในเส้นทางของการเป็นนักกีฬามืออาชีพได้เป็นอย่างดี

 
          กิจกรรม “ กระทบไหล่นักกอล์ฟ ระดับโลกกับดั๊บเบิ้ล เอ ” ที่ดั๊บเบิ้ล เอ จัดขึ้นไม่ใช่เป็นเพียงครั้งแรก ที่

ดั๊บเบิ้ล เอ ได้สานฝันให้กับน้องๆได้ก้าวไปสู่ความเป็นนักกีฬาอาชีพ เพราะเมื่อปี 2005 ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เปิดโอกาสให้

“โปรหนึ่ง” ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น ได้เข้าร่วมการแข่งขันดั๊บเบิ้ล เอ อินเตอร์เนชั่นแนล โอเพ่น 2005 จนคว้าแชมป์และเทิร์นโปรเข้าสู่การเป็นนักกอล์ฟระดับอาชีพด้วยอายุน้อยที่สุดในเอเชี่ยนทัวร์


         กิจกรรมต่างๆเหล่านี้ถือเป็นกิจกรรมที่ ดั๊บเบิ้ล เอ ตั้งใจจะสานฝันให้เหล่าน้องๆ ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ ได้มีสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันกอล์ฟระดับโลก เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะก้าวไปสู่การเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ และหวังว่าในอนาคตข้างหน้า ประเทศไทยจะมีนักกอล์ฟเยาวชน ติดอันดับต้นๆ ของโลกต่อไป

 

 

ภาพประกอบสกู๊ป

 

 

     

 

   คุณชาญวิทย์ ถ่ายรูปกับว่าที่นักกอล์ฟหน้าใหม่        พร้อมหน้าพร้อมตา“ครอบครัวศรีภัทรประสิทธิ์”

 

  

 

     “น้องวาด” เทรนน้องๆ ก่อนดูการแข่งขัน               ดูวงสวิงกันแบบใกล้ชิดติดขอบสนาม

 

                                                             

 

“น้องวาด” วาด แผ่วฉิมพลี นักกอล์ฟระดับเยาวชน        “น้องอาร์ม” กรินทร์ พงษ์เสถียรศักดิ์

 

       

 

3 พี่น้องนักกีฬา น้องภูมิ น้องแพรว และน้องภาค     ฝึกพัตกอล์ฟกับเจ้าของรางวัลกว่า 50 รายการ

 

    

 

         โฉมหน้าผู้คว้ารางวัลชนะเลิศ            คุณฐีระวิตต์ ลี้ถาวร ผู้บริหารดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมแสดงความยินดี

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ คืนกำไรพาหนุ่มสาวชาวออฟฟิศดูหนังฟรี!

เมื่อเร็วๆ นี้ สาวๆ Double A I-Girls พาลูกค้าหนุ่มสาวชาวออฟฟิศผู้โชคดีที่ไว้วางใจในกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ เข้าชมภาพยนตร์คุณภาพจากฝรั่งเศส ในงานเทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศส ลาแฟ็ต (La Fete Bangkok 2012) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าที่เลือกใช้กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ และยังเป็นการพักผ่อนคลายเครียดจากการทำงาน ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษที่ส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนงานเทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศส ลาแฟ็ต เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนของทั้งสองวัฒนธรรมในครั้งนี้ด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ รวมพลังคนไทย ร่วมปิดไฟลดโลกร้อน Earth Hour 31 มี.ค.นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา ชวนคนไทยรวมพลังร่วมปิดไฟให้โลกพัก ในโครงการ Earth Hour 2012 พร้อมกันทั่วโลก ในวันเสาร์ที่ 31 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น.เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รณรงค์ให้สำนักงานและเครือข่ายดั๊บเบิ้ล เอ ทั่วโลก รวมทั้งพนักงานของดั๊บเบิ้ล เอ และชุมชนโดยรอบ ร่วมปิดไฟในครั้งนี้ด้วย เพื่อสร้างจิตสำนึกกระตุ้นให้ทุกคนช่วยกันดูแลโลกของเรามากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาโลกร้อน ทั้งนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้เดินหน้ารณรงค์ลดโลกร้อนที่มากกว่าการปิดไฟมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร่วมเป็นองค์กรประหยัดพลังงาน ที่ส่งเสริมให้พนักงานในองค์กรปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและปรับปรุงอาคารสำนักงานเพื่อลดการใช้พลังงาน เป็นต้น

ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ชวนคนไทยสร้างสุขที่ยั่งยืนจัดทัพเหล่ากูรูด้านสุขภาพและความงาม ให้ข้อคิดดีๆ ในงาน "มหัศจรรย์แห่งความสุข"

"ความสุข" คำสั้นๆ ที่ทุกคนในโลกนี้ต่างเสาะแสวงหา แต่หลายคนคงสงสัยว่า "ความสุข" คืออะไร บางคนว่าความสุข คือ ทรัพย์สิน เงินทอง เกียรติยศ การห้อมล้อมไปด้วยคนรัก ซึ่งต่างคนก็ต่างความคิด และต่างเหตุผลที่จะแสวงหาความสุขให้กับตัวเอง แต่หลายคนคงจะไม่รู้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น ไม่ได้หายากอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด แต่ความสุขที่แท้จริงกับอยู่ที่ใจของเรากำหนดเอง คุณแม่จูงลูกมาร่วมกิจกรรมดีๆ ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนได้มีความสุขอย่างยั่งยืน ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ จึงได้จัดเสวนา "มหัศจรรย์แห่งความสุข" เนรมิตเมืองหนังสือเป็นเมืองแห่งความสุขกับกิจกรรมดีๆ ที่เหล่าวิทยากรด้านสุขภาพมาร่วมให้เคล็ดลับการมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ โดยในงานเสวนาได้รับเกียรติจาก นายแพทย์วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน และ คุณสุนีรัตน์ ไม้ทิม บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Simply Living ได้แนะวิธีการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนว่า นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร และ คุณสุนีรัตน์ ไม้ทิม แนะเคล็ดลับการมีสุขภาพที่ดี "ร่างกายที่แข็งแรงต้องเริ่มมาจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกาย ซึ่งปัจจุบันคนเราป่วยเป็นโรคแปลกๆมากขึ้น เพราะเราขาดสองสิ่งนี้ และคนทำงานในปัจจุบันยังนิยมเป็นโรค "ออฟฟิศ ซินโดรม" ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานในท่าเดิมนานๆ ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งการจะรักษาให้หายจากโรคนี้ได้ เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง รู้จักพักผ่อนร่างกายและกล้ามเนื้อ เพราะเวลาทำงาน สมองและกล้ามเนื้อเกิดอาการตึงเครียด เราจึงต้องออกกำลังกาย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้ คนในยุคปัจจุบันยังไม่ค่อยรับประทานผักและผลไม้ บริโภคแต่วิตามินอัดเม็ด ซึ่งวิตามินเหล่านั้นไม่สามารถชดเชยวิตามินจากอาหารธรรมชาติได้อย่างที่คนทั่วไปคิด" บรรยากาศงานมหัศจรรย์แห่งความสุข นอกจากนี้ ยังได้รู้เทคนิคการยืดเส้นยืดสายง่ายๆ ที่สามารถฝึกได้เองใช้เวลาแค่วันละ 10 นาที จากคุณอาภาลักษณ์ พรรคสายชล ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดชั้นนำของเมืองไทย โดยมีท่าบริหาร อย่างการบริหารข้อมือด้วยการยื่นแขนไปข้างหน้า กางนิ้วมือออก เกร็งไว้สักครู่ สลับกับกำมือ ประมาณ 10 ครั้ง หรือท่าบริหารคอ โดยก้มศีรษะให้คางจรดกับหน้าอก ให้รู้สึกตึงบริเวณคอด้านหลัง ค้างไว้ 5-10 วินาที นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์นานๆ ควรเตือนตัวเอง ให้เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์บ้าง โดยให้มองออกไปไกลๆทุก 20 นาทีเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าของสายตา และผ่อนคลายความตึงเครียดอันเป็นสาเหตุของโรคออฟฟิศ ซินโดรมนี้ โรงพยาบาลนครธนมาร่วมตรวจสุขภาพกาย และเมื่อร่างกายได้รับอาหารดีมีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างถูกต้องแล้ว ก็ต้องรู้จักการบริหารใจให้ดีอีกด้วย ซึ่งงานนี้ "ดีเจพี่อ้อย" คุณนภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ดีเจชื่อดังจากคลื่นกรีนเวฟ มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ "สุขใจ สบายกาย" ซึ่งมาแนะนำวิธีการดีๆในการสร้างกำลังใจให้ตนเอง และรู้จักคิดบวกในสถานการณ์ต่างๆ ว่า "ดีเจพี่อ้อย" ร่วมพูดคุยวิธีสร้างเสริมกำลังใจ "คนเราทุกคนย่อมมีสภาวะจิตใจที่ต่างกัน มีวิธีคิดต่างกัน และก็ย่อมมีความสุข ความทุกข์ที่ต่างกันด้วย ดังเช่นในเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา คนต่างจังหวัดที่เคยประสบปัญหาอุทกภัย ต่างรับมือได้ และทุกข์น้อยกว่าคนกรุงเทพฯ ทั้งที่คนกรุงเทพฯน้ำมาสูงแค่เข่าเท่านั้นก็รู้สึกเป็นทุกข์มากเลย จากเหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า หากเราเข้าใจปัญหาทุกอย่าง สร้างกำลังใจให้เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้น เริ่มมองเห็นทางออกของปัญหา ยอมรับกับมันก็จะช่วยให้ปัญหาเหล่านั้นคลี่คลายจากหนักก็กลายเป็นเบาขึ้น ความสุขก็จะมีมาเอง แต่สิ่งที่ทุกคนประสบอยู่ นั่นคือ เข้าใจปัญหาดีอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถพาตนเองออกจากปัญหาหรือความทุกข์นั้นได้" ปัจจุบันปัญหาที่ผู้ฟังรายการ Club Friday มากที่สุด อันดับหนึ่งก็คือ เรื่องความรัก โดยเฉพาะการไปรักคนมีเจ้าของ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดศีลธรรมแต่ก็ยังพร้อมจะทำผิดศีลธรรมต่อไป และหลายๆคนยังเข้าใจผิดระหว่างคำว่า "คิดบวก" กับ "หลอกตนเอง" ซึ่งคิดบวกมากเกินไปก็อันตราย การคิดบวกนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง อย่างผู้หญิงคนหนึ่งชอบแต่งตัวเซ็กซี่ๆ แล้ววันหนึ่งคิดว่า เดินผ่านบริเวณที่มีการก่อสร้างหรือที่เปลี่ยวๆ คงไม่โดนข่มขืนหรอก เพราะคิดบวกโดยไม่ได้คิดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ถือว่าเป็นการหลอกตนเอง จริงๆแล้ว การคิดบวกคือการคิดไม่ประมาท และคิดเผื่อในด้านลบด้วยแล้วเตรียมรับมือกับสิ่งนั้น อย่างในกรณีนี้ เราควรคิดกลับกันว่า ถ้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับชั้นล่ะ ทำไมเราไม่เปลี่ยนเส้นทางเดินไปที่อื่นแทนการเดินทางไปยังที่ไม่ปลอดภัย หรือสถานที่เปลี่ยวๆ ยามค่ำคืน แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรแต่งตัวให้มิดชิดสักหน่อย" ข้อคิดดีๆ ที่ดีเจพี่อ้อยกล่าวทิ้งท้ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมฟังการเสวนา คุณจิรัฏฐ์ ฉายะจินดาวงศ์ กับเวิร์คชอป ซุปและสลัดเพื่อ หลังจากฟังวิธีการสร้างสุขที่ยั่งยืน สุขที่มาจากภายในกันแล้ว ในวันนั้น คุณจิรัฏฐ์ ฉายะจินดาวงศ์ อดีตกองบรรณาธิการ Health & Cuisine Magazine ที่ปัจจุบันเป็นกูรูสอนทำอาหารอิสระใน www.facebook.com/thebakingstory ยังได้มาร่วมสาธิตการทำซุปและสลัดเพื่อสุขภาพ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ซึ่งผู้ร่วมงานได้เข้าร่วมเวิร์กชอปทำอาหารร่วมกัน ทั้งเด็กๆ และผู้ปกครองต่างสนุกสนานประชันฝีมือทำอาหารกันอย่างน่าทานทีเดียว นอกจากนี้ สำหรับคนที่รักการอ่าน ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ยังจัดโซนหนังสือเพื่อสร้างความสุขทางด้านจิตใจและหนังสือสุขภาพต่างๆ มาแนะนำให้ผู้อ่านที่สนใจเลือกซื้อเลือกหาจากหลากหลายสำนักพิมพ์ ติดตามกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ได้ที่ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือบนถนนสาทร 12 หรือ www.DoubleAbooktower.com

จับรางวัลครั้งที่ 1 แคมเปญดั๊บเบิ้ล เอ ดั๊บเบิ้ล เฮ เที่ยวฟรีช้อปฟรีที่เกาหลี

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทดั๊บเบิ้ล เอ ( 1991 ) จำกัด (มหาชน) จับรางวัลมอบโชคครั้งที่ 1 ให้กับผู้โชคดี 5 คู่แรก ในแคมเปญ "ดั๊บเบิ้ล เอ ดั๊บเบิ้ล เฮ เที่ยวฟรี ช้อปฟรีที่เกาหลี 10 ล้านวอน" เพื่อรับรางวัลช้อปฟรีและแพ็คเกจท่องเที่ยวประเทศเกาหลีคู่ละ 10 ล้านวอน จำนวน 35 คู่ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 350 ล้านวอน เพียงตัดชิ้นส่วนเปลือกห่อกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ A4 80 แกรม หรือ ดั๊บเบิ้ล เอ คัลเลอร์ พริ้นท์ ขนาด 500 แผ่น พร้อมเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ รวมถึงชื่อร้านค้า พร้อมจังหวัดและราคาที่ซื้อ แล้วส่งมาที่ ตู้ ปณ.10 ปณ.บางปะกง ฉะเชิงเทรา 24130 โดยจับรางวัลทุกเดือนรวม 7 ครั้ง หมดเขตรับชิ้นส่วน 20 กันยายน 2555 ติดตามรายละเอียดและรายชื่อผู้โชคดีได้ที่ www.DoubleApaper.com หรือ 1759 ดั๊บเบิ้ล เอ ฮอตไลน์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะสำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดลพบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน ที่มีจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เปิดบ้านต้อนรับคณะเยี่ยมชมจากสำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดลพบุรี เพื่อเข้าเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตกระดาษอันทันสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมสนุกกับภาพยนตร์แบบ 4 มิติ เพื่อเรียนรู้โมเดล "กระดาษจากคันนา" มาตรฐานใหม่ของโลกในการผลิตกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถสร้างงานและสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรกว่า 1.5 ล้านราย ในการปลูกต้นกระดาษบนคันนาหรือตามพื้นที่ว่างทางการเกษตรที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการแก้ปัญหาโลกร้อน เพราะกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทุก 1 รีมจะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากบรรยากาศ 12.5 กิโลกรัม

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับรับคณะนักเรียนและคณาจารย์โรงเรียนสวนศรีวิทยา จังหวัดชุมพร

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน เปิดบ้านต้อนรับคณะนักเรียนและคณาจารย์โรงเรียนสวนศรีวิทยา จังหวัดชุมพร เยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยกระดาษดั๊บเบิ้ล เอทุก 1 รีมสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12.5 กิโลกรัม อีกทั้งได้เรียนรู้ปรัชญาการผลิตแบบ "ของเหลือใช้ ไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า" ผ่านการบรรยายและสื่อภาพยนตร์ 4 มิติ ทำให้คณะผู้เยี่ยมชมได้เข้าใจถึง "กระดาษบนคันนา" มากยิ่งขึ้น โดยนำผลพลอยได้จากการผลิต อาทิ เศษไม้ เปลือกไม้ น้ำมันยางไม้ ส่งไปใช้ประโยชน์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ที่ทำให้ได้พลังงานไฟฟ้ามากเพียงพอสำหรับการผลิตและเหลือเพียงพอกับการใช้ของชุมชนอีก 400,000 ครัวเรือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Double A Heroes ที่ผู้ใช้กระดาษทุกคนสามารถกลายเป็นฮีโร่ได้อย่างง่ายๆ