Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนน้องกระทบไหล่นักกอล์ฟระดับโลก หนึ่งแรงบันดาลใจให้เด็กไทยก้าวไปสู่โปรกอล์ฟระดับมืออาชีพ

ผ่านไปแล้วสำหรับการแข่งขันกอล์ฟหญิง Honda-PTT LPGA Thailand 2010 กอล์ฟหญิงรายการที่ใหญ่

ที่สุดในประเทศไทย ที่ได้รับการตอบรับในการเข้าแข่งขันจากโปรสาวระดับโลก อาทิ มิเชล วี โปรสาวจากสหรัฐฯ  ลอเรน่า โอโชอา มือหนึ่งของโลกและแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว และอาอิ มิยาซาโตะ นักกอล์ฟสาวดาวรุ่งจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่ล่าสุดคว้าแชมป์รายการHonda-PTT LPGA Thailand 2010 ไปครอง ด้วยสกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 


         ดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะผู้ร่วมให้การสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟครั้งนี้ ไม่พลาดที่จะจัดกิจกรรมดีๆ ให้กับน้องๆ ที่สนใจกีฬากอล์ฟ โดยนำน้องๆ ที่ผ่านการคัดเลือกจากกิจกรรม “กระทบไหล่นักกอล์ฟ ระดับโลกกับดั๊บเบิ้ล เอ” กว่า 10 คน เดินทางมายังสนามสยามคันทรี่ คลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส งานนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้นำ “น้องวาด” ด.ญ.วาด แผ่วฉิมพลี นักกอล์ฟระดับเยาวชน วัย 14 ปี ซึ่งคว้ารางวัลการแข่งขันมากมาย และมีคะแนนสะสมอันดับ 1 ของสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ประจำภาคตะวันออก มาให้คำแนะนำเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟให้กับน้องๆในครั้งนี้  ซึ่งมีนักกอล์ฟระดับโลกมาโชว์วงสวิงให้น้องๆได้เห็นกันแบบใกล้ชิดทำเอาน้องๆได้ทั้งความรู้ และลุ้นการแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน แต่ดูเหมือนนักกอล์ฟที่เป็นขวัญใจของน้องๆเห็นจะหนีไม่พ้น ลอเรน่า โอโชอา มือหนึ่งของโลกและแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบลีลาการตีของโปรสาวผู้นี้


          โดย “ น้องอาร์ม ”กรินทร์ พงษ์เสถียรศักดิ์ หนุ่มน้อยวัย 15 ปี หนึ่งในเยาวชนที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟและเข้าร่วมกิจกรรมกับดั๊บเบิ้ล เอ ในครั้งนี้ว่า “ วันนี้ผมตั้งใจมาดูลอเรน่า โอโชอา เป็นพิเศษ เพราะชื่นชอบสไตล์การตีของเขา และอยากจะขอลายเซ็นต์เก็บเอาไว้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง โดยผมเริ่มเล่นกอล์ฟและสะสมประสบการณ์ได้ 3 ปี ซึ่งการมาร่วมกิจกรรมกับดั๊บเบิ้ล เอ ในวันนี้ ทำให้ผมได้เห็นบรรยากาศจริงของการแข่งขันในระดับใหญ่แบบนี้ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่าอยากเป็นแบบพี่ๆ นักกีฬาบ้าง และการมาดูในวันนี้คิดว่าจะนำประสบการณ์และรูปแบบการเล่นของนักกีฬาแต่ละคนมาปรับใช้กับการเล่นกอล์ฟของตัวเองต่อไป โดยผมตั้งเป้า-หมายว่าอยากจะเป็นโปรกอล์ฟในระดับโลกให้ได้ครับ ” 

 
          งานนี้นอกจากจะมีน้องๆให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกับดั๊บเบิ้ล เอ แล้ว ยังมีครอบครัวที่สนใจกีฬากอล์ฟ อย่าง“ ครอบครัวศรีภัทรประสิทธิ์ ” เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวนักกีฬากอล์ฟตัวจริง เสียงจริง เพราะสมาชิกทั้ง

5 คน เริ่มตั้งแต่ คุณพ่อ ดร.ประดิษฐ์  คุณแม่ประภาพร และน้องๆ ทั้ง 3 คน ต่างสนใจและรักกีฬากอล์ฟเป็นอย่างมาก โดยในวันนี้ คุณพ่อได้พูดถึงกิจกรรมดีๆที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดขึ้นว่า


          “ ลูกๆทั้ง 3 คน ทั้งน้องภูมิ ( อาทิตยพงศ์) น้องภาค (สิทธิพงศ์) และน้องแพรว (ภัทราพร ) สนใจและชอบเล่นกีฬากอล์ฟมาก และได้รับรางวัลมาหลายรายการ ซึ่งวันนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ดีที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เปิดโอกาสให้เด็กที่มีความสนใจได้มาเห็นและมาสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันในระดับประเทศ และถือเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของเด็กๆให้สามารถก้าวไปในระดับอาชีพ และระดับโลกได้ โดยวันนี้น้องแพรว อยากจะมาดู  “มิเชล วี” เพราะชื่นชอบในสไตล์การตีมาก นอกจากนี้คุณพ่อมองว่ากีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่คนไทยสามารถทำได้ดี เพราะเป็นกีฬาที่ใช้ความสามารถส่วนบุคคล ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง เชื่อว่าประเทศไทยจะมีนักกอล์ฟที่มีฝีมือและสามารถก้าวไปในระดับโลกอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้ต้องขอบคุณดั๊บเบิ้ล เอ ที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ที่รักกีฬากอล์ฟ”


          สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่ได้จัดขึ้นเฉพาะน้องๆที่เล่นกอล์ฟเป็นอยู่แล้วเท่านั้น แต่ยังจัดขึ้นสำหรับน้องๆ ที่เริ่มสนใจกีฬากอล์ฟ และอยากจะเข้ามาสัมผัสกีฬากอล์ฟ โดยเฉพาะน้องๆเยาวชนจาก จ.ปราจีนบุรี โดยทุกคนสนใจและได้ความรู้เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ เช่น การนับคะแนนซึ่งสนามกอล์ฟมาตรฐานปกติจะมีจำนวน 18 หลุม การเล่นหนึ่งหลุมจะนับตั้งแต่ตีลูกจากเขตตั้งทีของหลุมนั้นต่อเนื่องไปจนกระทั่งลูกลงหลุมเรียกได้ว่าเล่นจบไปแล้วหนึ่งหลุม  โดยมีกำหนดมาตรฐาน (Par-พาร์) ของจำนวนครั้งที่ตี  และเป็นจำนวนแต้มที่ทำได้ เช่น หลุมที่ระบุว่าเป็นหลุมพาร์ 3 (Par 3) ถ้าผู้เล่นตีตั้งแต่เขตตั้งทีจนกระทั่งลูกลงหลุมในจำนวนตี 3 ครั้งก็เท่ากับว่ามีความสามารถเท่ากับแต้มมาตรฐานของหลุมนี้ เรียกว่าทำพาร์ได้ หากตีน้อยกว่าพาร์ 1 ครั้ง ก็จะเรียกว่า เบอร์ดี้ คือ -1 ถือว่าได้คะแนน และหากตีเพียงครั้งเดียวลงหลุมเลย จะมีชื่อเฉพาะเรียกว่าโฮลอินวัน เป็นต้น 

 

          รวมถึงมารยาทของผู้ชมในสนาม เช่น อย่าเดิน อย่าวิ่ง อย่าเคลื่อนไหว อย่าส่งเสียงขณะนักกอล์ฟกำลังเตรียมจะตีลูกจนกระทั่งจบวงสะวิง และหากยืนหรือนั่งชมอยู่รอบกรีน ถ้าผู้เล่นในก๊วนนั้นยังพัตไม่จบ อย่าเดินหรือวิ่งออกไป เพราะจะทำให้นักกอล์ฟเสียสมาธิและเสียเปรียบได้ อีกทั้งการตั้งระบบเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือให้เป็นแบบสั่น หรือแบบเงียบด้วยเช่นกัน


          นอกจากนี้ในช่วงท้ายของกิจกรรม“น้องวาด” เจ้าของถ้วยรางวัลกว่า 50 ถ้วย ยังได้บอกเทคนิคง่ายๆ สำหรับคนที่อยากเล่นกอล์ฟ “ โดยสิ่งแรกต้องเริ่มจากความชอบก่อน หลังจากนั้นอยู่ที่การฝึกฝนอย่างจริงจัง

นอกจากนี้สมาธิถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะนักกอล์ฟส่วนใหญ่ที่จะประสบความสำเร็จจะมีสมาธิในการตี และมีสมาธิกับเกมอย่างมาก ซึ่งเราสามารถนำสมาธิในการเล่นในเกมมาใช้ในการดำเนินชีวิตของเราได้อีกด้วย”


          งานนี้นอกจากน้องๆ จะได้เห็นสไตล์การเล่นของโปรแต่ละคน และได้เห็นถึงบรรยากาศการแข่งขันในระดับประเทศแล้ว ยังได้เทคนิคดีๆในการเล่นกอล์ฟจากนักกีฬาในระดับเยาวชน ที่ถือได้ว่ามากไปด้วยฝีมือและความสามารถแม้จะอายุเพียง 14 ปี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดั๊บเบิ้ล เอ นำมาเป็นแบบอย่างให้กับน้องๆ ที่ต้องการจะเดินเข้ามาในเส้นทางของการเป็นนักกีฬามืออาชีพได้เป็นอย่างดี

 
          กิจกรรม “ กระทบไหล่นักกอล์ฟ ระดับโลกกับดั๊บเบิ้ล เอ ” ที่ดั๊บเบิ้ล เอ จัดขึ้นไม่ใช่เป็นเพียงครั้งแรก ที่

ดั๊บเบิ้ล เอ ได้สานฝันให้กับน้องๆได้ก้าวไปสู่ความเป็นนักกีฬาอาชีพ เพราะเมื่อปี 2005 ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เปิดโอกาสให้

“โปรหนึ่ง” ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น ได้เข้าร่วมการแข่งขันดั๊บเบิ้ล เอ อินเตอร์เนชั่นแนล โอเพ่น 2005 จนคว้าแชมป์และเทิร์นโปรเข้าสู่การเป็นนักกอล์ฟระดับอาชีพด้วยอายุน้อยที่สุดในเอเชี่ยนทัวร์


         กิจกรรมต่างๆเหล่านี้ถือเป็นกิจกรรมที่ ดั๊บเบิ้ล เอ ตั้งใจจะสานฝันให้เหล่าน้องๆ ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ ได้มีสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันกอล์ฟระดับโลก เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะก้าวไปสู่การเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ และหวังว่าในอนาคตข้างหน้า ประเทศไทยจะมีนักกอล์ฟเยาวชน ติดอันดับต้นๆ ของโลกต่อไป

 

 

ภาพประกอบสกู๊ป

 

 

     

 

   คุณชาญวิทย์ ถ่ายรูปกับว่าที่นักกอล์ฟหน้าใหม่        พร้อมหน้าพร้อมตา“ครอบครัวศรีภัทรประสิทธิ์”

 

  

 

     “น้องวาด” เทรนน้องๆ ก่อนดูการแข่งขัน               ดูวงสวิงกันแบบใกล้ชิดติดขอบสนาม

 

                                                             

 

“น้องวาด” วาด แผ่วฉิมพลี นักกอล์ฟระดับเยาวชน        “น้องอาร์ม” กรินทร์ พงษ์เสถียรศักดิ์

 

       

 

3 พี่น้องนักกีฬา น้องภูมิ น้องแพรว และน้องภาค     ฝึกพัตกอล์ฟกับเจ้าของรางวัลกว่า 50 รายการ

 

    

 

         โฉมหน้าผู้คว้ารางวัลชนะเลิศ            คุณฐีระวิตต์ ลี้ถาวร ผู้บริหารดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมแสดงความยินดี

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมรักการอ่าน โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " เพราะเป็นองค์กรที่ส่งเสริมด้านสังคมรักการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่หยุดยั้งที่จะเดินหน้า ส่งเสริมโครงการดีๆ ที่จะกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาใส่ใจและรักการอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม และโรงเรียนคลองบางกะสี 2 โรงเรียนที่มีความคิดสร้างสรรค์ของ จ.สมุทรปราการ จัดทำโครงการ "สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง" ด้วยการนำกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้แล้วด้านเดียว มาทำหนังสือหน้าสองให้เป็นหนังสือที่น่าอ่าน น่าติดตาม และที่สำคัญน้องๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สำหรับโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ อาจารย์นางภาวนา มีกลิ่นหอม อาจารย์โรงเรียนคลองบางกะสี จ.สมุทรปราการ ได้เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนได้จัดทำโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มาตั้งแต่ปี 2546 โดยทางโรงเรียนมองว่าในแต่ละวันเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก และส่วน-ใหญ่เป็นการใช้กระดาษเพียงหน้าเดียว ส่วนอีกหน้าที่เหลือไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะอีกด้วย ดังนั้นทางโรงเรียนจึงเกิดแนวคิดในการนำกระดาษอีก 1 หน้าที่เหลืออยู่มาทำให้เกิดประโยชน์ จึงนำกระดาษที่เหลือมาทำหนังสือในรูปแบบของหนังสือทำมือ โดยนำไปสอดแทรกในวิชาศิลปะเพื่อให้เด็กๆได้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้น้องๆ ในโรงเรียนหันมาสนใจการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกด้วย จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2546 โดยรูปแบบของสื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง จะเน้นการนำเรื่องราวต่างๆที่เป็นความรู้ ไม่ว่าจะเป็น นิทาน การละ-เล่น ขนบธรรมเนียมประเพณี ชื่อสัตว์ ชื่อผลไม้ คำศัพท์ต่างๆ มาประกอบรูปภาพ และจัดทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจดึงดูดอยากหยิบมาอ่าน เช่น หนังสือ POP-UP หนังสือยืด หนังสือหน้าเดียว หนังสือกล่อง หนังสือโคม เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมรักการอ่านแล้ว ยังทำให้เด็กนักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความอดทน รู้จักวิเคราะห์และจับประเด็นให้เนื้อหาอยู่ในหน้ากระดาษที่จำกัดได้ โดยไม่ละทิ้งใจความสำคัญ และยังทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย ส่วนโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม ได้นำโครงการผลิตสื่อหนังสือทำมือสอดแทรกในวิชาภาษาไทย โดยให้นักเรียนทำหนังสือทำมือให้รุ่นน้องและเพื่อนในโรงเรียนได้อ่าน จัดเป็นมุมหนังสือต่างๆ ทั่วโรงเรียน และทุกห้องเรียนจะต้องมีมุมหนังสือ เพื่อให้เด็กๆได้สร้างนิสัยรักการอ่านให้เป็นกิจวัตรติดตัวไปจนโต โดยความโดดเด่นของหนังสือทำมือของโรงเรียนจะนำเนื้อหาที่ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ในท้องถิ่นของอำเภอบางบ่อ เช่น การละเล่นท้องถิ่นของบางบ่อที่เรียกว่า "ผะหมี" (โจ๊ก) เป็นร้อยกรองปริศนาให้ทายกัน ซึ่งเป็นการละเล่นที่นับวันจะค่อยๆ สูญหายไปจากอำเภอหากไม่มีการสืบทอดกันไว้ สำหรับการละเล่น "ผะหมี" อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า น้องๆ จะนำเนื้อหาต่างๆ มาแต่งเป็นร้อยกรอง ปริศนาคำทาย ตัวอย่างเช่น พระ หนึ่งชำนาญด้าน ดนตรี (คำตอบ พระอภัยมณี) พระ หนึ่งหลงสาวศรี พี่น้อง (คำตอบ พระลอ) พระ หนึ่งวุ่นราวี ดึงนุช มานา คำตอบ พระราม) พระ หนึ่งโปรยทานก้อง ส่ำสร้างผลบุญ (คำตอบ พระเวสสันดร) ซึ่งนอกจากจะสร้างความรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนทำและคนทายแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในกลุ่มของนักเรียนในโรงเรียน ส่งผลให้ได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2548 โดยในเรื่องนี้ "น้องชนะพล ปานสมบัติ" นักเรียนชั้น ม.5 รร.บางบ่อพิทยาคม ได้เล่าให้ฟังว่า "โครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมรักการอ่านได้มาก เพราะมีรูปแบบและสีสันที่สวยงามน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนก็ให้ความสนใจ มีการสอนการทำให้กับรุ่นน้องๆ ด้วย เพราะม.4-ม.6 จะจัดทำให้น้องๆ ม.ต้นได้อ่าน ซึ่งผมจะชอบเนื้อหาเป็นเรื่องเอกลักษณ์ไทย เพราะส่วนใหญ่รุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก เช่น ขนมไทย วรรณคดีไทย ประวัติศาสตร์ และเนื้อหาธรรมะ เพราะปัจจุบันคนเรามีความเครียดมาก ถ้าได้อ่านหนังสือธรรมะก็ช่วยให้จิตใจดีขึ้น" โครงการดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นสร้างสรรค์จากผลงานภายในโรงเรียน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่หลายๆ โรงเรียนสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการนำไปปฏิบัติได้ เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้น้องๆรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ ประกาศเปิดจองหุ้นกู้ 8-10 มิ.ย.นี้ อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี

หลังจากที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ประกาศเลื่อนวันเปิดจองหุ้นกู้ จากกำหนดเดิม 24-26 พ.ค. ออกไปนั้น ขณะนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย 6% อายุ 3 ปี เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ผ่านธนาคารกรุงไทย และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษ "ดั๊บเบิ้ล เอ" ซึ่งมีตลาดส่งออกทั่วโลก เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะสงบแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี เป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน วงเงินรวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2556 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนด