Follow us

โครงการล้านความรู้ในตู้หนังสือมอบตู้หนังสือให้เด็กทั่วประเทศ

12 เยาวชนสุดเจ๋ง คว้าโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพฯ รัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โครงการล้านความรู้ ในตู้หนังสือ ส่งต่อปัญญาส่งต่อความรู้ มอบตู้หนังสือให้เพื่อนๆ 108 โรงเรียนทั่วประเทศ กระตุ้นเด็กไทยรักการอ่าน - สร้างแหล่งกำเนิดขุมปัญญา การอ่านคือบ่อเกิดแห่งปัญญา โครงการประกวดเรียงความ “ล้านความรู้ในตู้หนังสือ” นับเป็นอีกโครงการดีดี สร้างสังคมรักการอ่านให้แก่เด็กไทย เพื่อค้นหาฮีโร่เยาวชนคนเก่งประจำชุมชนที่สามารถ วาดลวดลาย ละเลงน้ำหมึก เล่าถึงประสบการณ์ จากการอ่านหนังสือของน้องๆเยาวชน ใน 4 หัวข้อ คือ 1.ล้านความรู้ใน ตู้หนังสือ 2.บ้านรักษ์พลังงานสิ่งแวดล้อม 3.ครอบครัวสุขสันต์กับการประกันภัย และ4.เยาวชนไทยร่วมคิดร่วมใช้ พลังงาน มาถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับเยาวชนคนคุณภาพ

 

ผลงานที่ส่งเข้าประกวดสร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการไม่น้อย น้องๆ เยาวชนส่งงานมาแบบอุ่นหนา ฝาคลั่ง ต่างส่งผลงานเข้าชิงชัยความเป็นสุดยอดมากถึง 2,186 เรื่อง จาก 235 โรงเรียนทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็น ผลสำเร็จของโครงการแบบเป็นรูปธรรมว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นให้เยาวชนไทยเริ่มหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับ การอ่านและเขียนหนังสืออย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรพันธมิตรร่วมจัดทั้ง 8 องค์กร อย่างน้อยได้เห็นอนาคตของประเทศที่เด็กไทยเราใส่ใจการอ่าน นับเป็นความตั้งใจของ 8 องค์กรร่วม ประกอบด้วย สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มมหพันธ์ผลิตภัณฑ์เฌอร่าและห้าห่วง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) มูลนิธิดร .เทียม โชควัฒนา และบริษัท อินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ จำกัด และดั๊บเบิ้ล เอ และหลังจากที่น้องๆกว่า 2,000 คน รอคอย มากว่า 3 เดือน และแล้วช่วงเวลาแห่งการรอคอยลุ้นระทึกก็มาถึง เมื่อกรรมการ ประกาศรายชื่อบรรดาฮีโร่ ซึ่งได้รับ รางวัลในระดับชั้นต่างๆ เริ่มจากระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 6 คน ได้แก่ 1.ด.ช.กรกช ไม้เกตุ จากโรงเรียน สารสาสน์ประชาอุทิศพิทยาคาร กรุงเทพ 2.ด.ญ.กนกพร จะจู จากโรงเรียนวัฒโนพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ 3.ด.ญ.จำเริญลักษณ์ ทองล้วน จากโรงเรียนพรหมานุสรณ์ จังหวัดเพชรบุรี 4.ด.ญ.ชนัดดา เปล่งผิว จากโรงเรียน บ้านวังทะลุ จังหวัดปราจีนบุรี 5.ด.ช.ธนาวุฒิ เมยท่าแค จากโรงเรียนบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ และ 6.ด.ญ.ชฎาธาร รักษ์แก้ว จากโรงเรียนคลองพนสฤษดิ์พิทยา จังหวัดกระบี่

 

ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 6 คนได้ แก่ 1.นางสาววราภรณ์ สว่างสาย จากโรงเรียนมัธยมวัดหัตสาร- เกษตร จังหวัดปทุมธานี 2.นางสาวอัจฉรา อยู่สินธุ์ จากโรงเรียนลำปางกัลยาณี จังหวัดลำปาง 3.นางสาวขวัญชนก ทองล้วน จากโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี 4.นางสาวธัญลักษณ์ เอกจิตร จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี 5. นางสาวอภิญญาภรณ์ อุ่นครบุรี จากโรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม จังหวัดนครราชสีมา และ 6.นางสาววิภารัตน์ รำภา จากโรงเรียนสิเกาประชาผดุงวิทย์ จังหวัดตรัง ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และนำความ ภาคภูมิใจมาสู่วงศ์ตระกูลของน้องๆเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเยาวชนคนเก่งทั้ง 12 คนจะได้รับรางวัลเป็นโล่ พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นอกจากนี้ยังมอบตู้พร้อมหนังสือ 108 ตู้ คลัง ความรู้แห่งใหม่ให้กับโรงเรียนของเยาวชนคนเก่งผู้ชนะในแต่ละภูมิภาค เพื่อนำไปแบ่งปันให้กับบรรดาหนอน หนังสือตัวน้อยๆได้อ่านกับแบบเพลินเจริญสมองอีกด้วย

 

หลังจากร่ายถึงโครงการมาซะยาว คราวนี้มาฟังเจ้าของโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เล่าถึงความรู้สึกกันบ้างว่าแต่ละคนรู้สึกอย่างไร เริ่มจาก น้องชฎาธาร รักษ์แก้ว เยาวชนคนเก่ง ชั้น ม.1/1 จากโรงเรียนคลองพนสฤษดิ์พิทยา จังหวัดกระบี่ น้องเล่าถึงความรู้สึกว่า “รู้สึกภูมิใจกับตัวเองเป็นอย่างมาก ที่ได้รับรางวัลเป็นโล่จากสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากรู้ผลการตัดสินเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาทั้งคุณพ่อ คุณแม่ อาจารย์ และเพื่อนๆที่โรงเรียน ก็ดีใจมากๆ ซึ่งหนูเลือกเขียนเรียงความในหัวข้อบ้านรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่อง จากต้องการเล่าเรื่องราว และสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่รอบๆบ้าน ให้เพื่อนๆได้รับรู้ว่า บ้านของหนูไม่มีมลพิษ ไม่มีน้ำเสีย มีแต่สระน้ำขนาดใหญ่ และต้นไม้เป็นจำนวนมาก ซึ่งหนูกำลังจะบอกกับทุกคนว่า หากเราช่วยกันปลูกต้นไม้ ยิ่งปลูก มากเท่าไหร่บ้านเราก็จะมีธรรมชาติที่สวยงามเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น”

 

ด้านน้องอภิญญาภรณ์ อุ่นครบุรี เจ้าของรางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนบ้านใหญ่ พิทยาคม จังหวัดนครราชสีมา เล่าให้ฟังว่า “หนูเขียนหัวข้อล้านความรู้ในตู้หนังสือ เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว โดย เปรียบเทียบให้เห็นถึงตู้หนังสือที่ไม่ได้รับการใส่ใจ ถูกปล่อยให้ฝุ่นและหยักใย่เกาะเต็มไปหมด ซึ่งบางบ้านเอาตู้ หนังสือมาวางไว้เพื่อประดับบ้านเท่านั้น โดยหนูอยากจะบอกว่าถ้าเรายิ่งเปิดตู้หนังสือบ่อยเท่าไหร่เราก็จะมีความรู้ เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และจะเป็นพื้นฐานที่ดีที่จะติดตัวเราไปตลอด และหนูอยากจะชวนเพื่อนทุกคนให้หันมาอ่านหนัง สือกันเยอะๆคะ เพราะความรู้ที่เราได้จากหนังสือไม่สามารถใช้เงินซื้อได้คะ แต่เราหาได้จากการอ่านจริงๆคะ” ขณะที่น้องพีรญา รินสาร นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ จ.อุตรดิตถ์ เล่าว่าได้เขียนเรียงความประกวด ในหัวข้อล้านความรู้ในตู้หนังสือเพราะเป็นเรื่องที่น่าสนใจและถนัด โดยเนื้อหาในเรียงความจะเน้นประโยชน์ของ หนังสือ และความรู้สึกที่มีต่อหนังสือว่าเป็นเสมือนผู้ให้ความรู้ ถ้าเรารู้จักสนใจ รู้จักศึกษาเราก็จะได้รับความรู้จาก หนังสือมากมาย และการได้รับรางวัลในครั้งนี้ก็มีความรู้สึกดีใจภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของโรงเรียน และมั่นใจว่าราง วัลตู้หนังสือที่ได้มาในครั้งนี้จะช่วยเป็นสื่อกลางในการพัฒนาความรู้ให้กับเพื่อนๆคนอื่นๆที่เข้ามาอ่านหนังสือใน ห้องสมุดต่อไป น้องธัญลักษณ์ เอกจิตร นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.จันทบุรี เล่าว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้ รับรางวัลไม่คาดคิดว่าตนเองจะได้ สำหรับรางวัลที่ได้รับครั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถ ช่วยกระจายความรู้ออกไปให้กับ เพื่อนๆในโรงเรียนได้ศึกษาเพราะตู้หนังสือที่ได้มาประกอบไปด้วยหนังสือมากมายหลายเล่ม และเชื่อว่าการอ่านหนัง สือช่วยพัฒนาสมองพัฒนาความรู้ไปเรื่อยๆเพราะว่าคนเราต้องค้นคว้าศึกษาความรู้ไปเรื่อยๆ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ สำคัญมาก ติดตัวเราไปจนตาย

 

 

ปิดท้ายด้วยน้องณัฐวุฒิ นาคแก้ว นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนทวีธาภิเศก กทม. เล่าว่าตนได้เขียนเรียงความ เรื่องล้านความรู้ในตู้หนังสือ โดยที่เลือกเขียนเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว ถนัดและน่าสนใจ และมั่นใจว่ารางวัลที่ ได้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งยวดต่อไปให้กับโรงเรียน เพื่อนๆ ในการสานต่อความรู้จากการได้อ่านหนังหนังสือ เพราะการอ่านหนังสือจะก่อให้เกิดประโยชน์ในทุกๆด้านทั้งด้านความรู้ การเรียน การดำเนินชีวิต ก็อยากเชิญชวน เพื่อนๆว่าการอ่านหนังสือมีประโยชน์ทำให้เรามีความรู้อยากให้อ่านหนังสือกันทุกคนการประกวดในครังนี้ไม่เพียง แต่น้องทั้ง 12 คน จะได้รับรางวัลเท่านั้น ยังมีเยาวชนอีก 90 คน ที่ได้รับรางวัลเช่นกัน โดยแบ่งเป็นรางวัลรองชนะ เลิศ 12 รางวัล จะได้รับโล่จากองคมนตรี พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ พร้อมตู้หนังสือ นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับรางวัล ชมเชยอีก 84 รางวัล จะได้รับประกาศเกียรติคุณจากองคมนตรี พร้อมตู้หนังสืออีกด้วย

โครงการล้านความรู้ในตู้หนังสือ อีกกิจกรรมหนึ่งที่จะเป็นตัวกระตุ้นที่ดีที่จะส่งเสริมให้เยาวชนไทยรักการ อ่าน และการเขียนเพิ่มมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับน้องๆเยาวชนทั้ง 2,186 คนที่ส่งผลงานเข้าประกวดในครั้งนี้เสมือน เป็นการส่งมอบความรู้อันล้ำค่าผ่านหนังสือดี ๆ เพื่อเป็นของขวัญให้กับเยาวชนของไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวแคมเปญ “Double A QR Rewards แจกใหญ่ ฟินไกลถึงเกาหลี”

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวแคมเปญ "Double A QR Rewards แจกใหญ่ ฟินไกลถึงเกาหลี” ชวนลูกค้าร่วมสนุกลุ้นรางวัลตั๋วเครื่องบินฟรี ไป - กลับ ประเทศเกาหลี จำนวน 200 ที่นั่ง รวมมูลค่า 3 ล้านบาท เพียงสแกน QR Code ข้างกล่องกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ผ่านไลน์ @DoubleAThailand สะสมแต้ม แลกสิทธิ์ลุ้นตั๋วเครื่องบิน เดือนละ 25 รางวัลๆละ 2 ที่นั่ง หรือใช้แต้มแลกของรางวัลมากมายทั้ง เที่ยว กิน ช้อป ได้เลยแบบไม่ต้องลุ้น ไม่ว่าจะเป็น e-voucher ร้านอาหารต่าง ๆ ส่วนลดร้านค้า บัตรเติมน้ำมัน อุปกรณ์สำนักงาน เป็นต้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมแคมเปญได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธ.ค. 66 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.DoubleArewards.com หรือ Facebook Double A Thailand

ดั๊บเบิ้ล เอ โชว์ผลงานครึ่งแรกปี 66 กวาดกำไรกว่า 1,011 ล้านบาท โตขึ้น 600%

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2566 ยังคงยืนหนึ่งรักษายอดขายอยู่ในระดับสูง ด้วยยอดขายกว่า 288,306 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 65 ที่ 277,759 ตัน ทำให้มีกำไรสุทธิ 1,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 872 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 139 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 627.34 ของกำไรสุทธิของงวดเดียวกับปีก่อน อันเป็นผลมาจากความสามารถในการรักษายอดขายรวมติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีแผนขยายธุรกิจการลงทุนไปยังอีกหลายประเทศ อาทิ อินเดีย ออสเตรเลีย ทำให้ในอนาคตบริษัทจึงยังสามารถทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้วางนโยบายการบริหารจัดการตามแนว ESG เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นผู้นำอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษที่ครบวงจร ทำให้เกิดการผสานพลัง (Synergy) และช่วยควบคุมต้นทุน รวมทั้งการมีสินค้าที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและในต่างประเทศกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งและการครองใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ

Double A มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2050 เดินหน้าโรดแมป ขับเคลื่อนธุรกิจ ลดโลกร้อน

ดั๊บเบิ้ล เอ ประกาศเจตนารมณ์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2050 เดินหน้าRoadmap ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งเสริมใช้รถไฟฟ้า (EV) ในการขนส่ง และตอกย้ำการขับเคลื่อนธุรกิจบนแนวนโยบาย ESG ชู 3S เพื่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “กลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ ตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องของภาวะโลกร้อนมาอย่างต่อเนื่อง เราจึงตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กร โดยแบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ได้แก่ มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 25% ภายในปี 2030 บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศที่กำหนดไว้ในปี 2065 โดยแผนงานและการประเมินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้กำหนดให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการ โดยยังคงคุณภาพระดับพรีเมียมเพื่อผู้บริโภคเหมือนเดิม” นายโยธินกล่าวต่อว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติมาโดยตลอด รวมถึง นำแนวทาง ESG มาขับเคลื่อนธุรกิจ และ ด้วยโมเดลทางธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานคาร์บอนต่ำ ตั้งแต่เริ่มแรก เน้น การดำเนินการอย่างยั่งยืน ใน 3 ด้าน (3S) ได้แก่ Sustainable Sourcing โดยการใช้วัตถุดิบจากต้นกระดาษของเกษตรกร และไม่ใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ ซึ่งต้นกระดาษเหล่านี้มีส่วนช่วยในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมากและต่อเนื่อง Social Harmony โดยเกษตรกรที่ปลูกต้นกระดาษสามารถมีรายได้เสริมที่ยั่งยืน อันจะเป็นการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของสังคมไทยไปพร้อม ๆ กัน Self Sufficient นำของเหลือจากการผลิตมาสร้างเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด โดยทุกขั้นตอนในการผลิตเรามี By product หรือ ผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการผลิต มาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนเช่น การส่งน้ำมันยางไม้ (Black liquor) จากการผลิตเยื่อ นำมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าชีวมวล (Biomass) นอกจากนี้ยังมีโครงการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ในการผลิต และการใช้รถขนส่งไฟฟ้า (EV)ในด้านโลจิสติกส์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกทางหนึ่ง และเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า บนหลัก 4R ได้แก่ Reduce Reuse Recycle และ Renewable จากการดำเนินการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นสำคัญ ทำให้ผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับมาตรฐานระดับนานาชาติจาก FSC (Forest Stewardship Council) และ PEFC ( Programme for the Endorsement of Forest Certification) รับรองแหล่งที่มาของวัตถุดิบจากไม้เพื่อการพาณิชย์ และกระบวนการผลิตที่ถูกจัดการอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้เข้าร่วมเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network – TCNN) ที่มีองค์กรชั้นนำระดับประเทศจากภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่นกว่า 500 องค์กร ที่จะช่วยผลักดันให้มีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการลดก๊าซเรือนกระจกให้บรรลุเป้าหมายทางคาร์บอนของประเทศด้วย “แม้จะเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะให้บรรลุเป้าหมาย เราเชื่อว่า ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เราจะสามารถช่วยกันขับเคลื่อนให้ประเทศบรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้เร็วขึ้น เพื่อช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกของเรา” นายโยธินกล่าว

Double A Care ร่วมออกบูธงานมหกรรมแสดงสินค้าร้านยาแห่งชาติ ครั้งที่ 1

ดั๊บเบิ้ล เอ ยกขบวนผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อสุขอนามัย ภายใต้แบรนด์ Double A Care ร่วมออกบูธในงาน “มหกรรมแสดงสินค้าร้านขายยาแห่งชาติ ครั้งที่ 1 (Thailand Pharmacist Medical Health Exhibition) และงานประชุมใหญ่สามัญสมาคมร้านขายยา ประจำปี 2565” ของสมาคมร้านขายยา ณ ห้องภิรัชฮอล์ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งภายในบูธดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับผู้ประกอบการร้านขายยา เภสัชกรและประชาชนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย 3 D ราคาพิเศษ กิจกรรมแจก Double A Care เพียว & พรีเมียมทิชชู หนา 3 ชั้น เหนียวนุ่ม ผลิตจากเยื่อบริสุทธิ์ 100% แบบมินิพ็อกเกต ให้กับผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองใช้อีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์สามารถติดตามโปรโมชั่นดีๆได้ทาง www.DoubleAdelivery.com หรือร้านค้าออนไลน์ของดั๊บเบิ้ล เอ ในช่องทาง Lazada, Shopee และ Tiktok Shop

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะจากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สวทช.

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่จากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ดร. กฤษดา ประภากร รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะฯ เข้าเยี่ยมชมการผลิตเยื่อและกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนจากไม้ปลูกของเกษตรกรที่ผ่านการพัฒนาและวิจัยสายพันธุ์เพื่อผลิตกระดาษคุณภาพ และได้เรียนรู้โมเดลการใช้ทรัพยากรอย่างหมุนเวียน ตามหลัก Circular Economy รวมถึงระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ที่สะท้อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมี นายประพันธ์ จันทร์ไทยศรี นายด่านศุลกากรอรัญประเทศพร้อมคณะ เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษคุณภาพครบวงจร ตามมาตรฐาน ISO 9001 และมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO14001 รวมทั้งเข้าใจถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบจากต้นกระดาษของเกษตรกรที่ช่วยสร้างรายได้ และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยลดโลกร้อน โดยต้นกระดาษ 1 ต้น สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 17.86 กิโลกรัม/ปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นแบรนด์กระดาษคุณภาพที่ครองใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศทั่วโลก