Follow us

โครงการล้านความรู้ในตู้หนังสือมอบตู้หนังสือให้เด็กทั่วประเทศ

12 เยาวชนสุดเจ๋ง คว้าโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพฯ รัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โครงการล้านความรู้ ในตู้หนังสือ ส่งต่อปัญญาส่งต่อความรู้ มอบตู้หนังสือให้เพื่อนๆ 108 โรงเรียนทั่วประเทศ กระตุ้นเด็กไทยรักการอ่าน - สร้างแหล่งกำเนิดขุมปัญญา การอ่านคือบ่อเกิดแห่งปัญญา โครงการประกวดเรียงความ “ล้านความรู้ในตู้หนังสือ” นับเป็นอีกโครงการดีดี สร้างสังคมรักการอ่านให้แก่เด็กไทย เพื่อค้นหาฮีโร่เยาวชนคนเก่งประจำชุมชนที่สามารถ วาดลวดลาย ละเลงน้ำหมึก เล่าถึงประสบการณ์ จากการอ่านหนังสือของน้องๆเยาวชน ใน 4 หัวข้อ คือ 1.ล้านความรู้ใน ตู้หนังสือ 2.บ้านรักษ์พลังงานสิ่งแวดล้อม 3.ครอบครัวสุขสันต์กับการประกันภัย และ4.เยาวชนไทยร่วมคิดร่วมใช้ พลังงาน มาถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับเยาวชนคนคุณภาพ

 

ผลงานที่ส่งเข้าประกวดสร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการไม่น้อย น้องๆ เยาวชนส่งงานมาแบบอุ่นหนา ฝาคลั่ง ต่างส่งผลงานเข้าชิงชัยความเป็นสุดยอดมากถึง 2,186 เรื่อง จาก 235 โรงเรียนทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็น ผลสำเร็จของโครงการแบบเป็นรูปธรรมว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นให้เยาวชนไทยเริ่มหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับ การอ่านและเขียนหนังสืออย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรพันธมิตรร่วมจัดทั้ง 8 องค์กร อย่างน้อยได้เห็นอนาคตของประเทศที่เด็กไทยเราใส่ใจการอ่าน นับเป็นความตั้งใจของ 8 องค์กรร่วม ประกอบด้วย สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มมหพันธ์ผลิตภัณฑ์เฌอร่าและห้าห่วง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) มูลนิธิดร .เทียม โชควัฒนา และบริษัท อินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ จำกัด และดั๊บเบิ้ล เอ และหลังจากที่น้องๆกว่า 2,000 คน รอคอย มากว่า 3 เดือน และแล้วช่วงเวลาแห่งการรอคอยลุ้นระทึกก็มาถึง เมื่อกรรมการ ประกาศรายชื่อบรรดาฮีโร่ ซึ่งได้รับ รางวัลในระดับชั้นต่างๆ เริ่มจากระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 6 คน ได้แก่ 1.ด.ช.กรกช ไม้เกตุ จากโรงเรียน สารสาสน์ประชาอุทิศพิทยาคาร กรุงเทพ 2.ด.ญ.กนกพร จะจู จากโรงเรียนวัฒโนพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ 3.ด.ญ.จำเริญลักษณ์ ทองล้วน จากโรงเรียนพรหมานุสรณ์ จังหวัดเพชรบุรี 4.ด.ญ.ชนัดดา เปล่งผิว จากโรงเรียน บ้านวังทะลุ จังหวัดปราจีนบุรี 5.ด.ช.ธนาวุฒิ เมยท่าแค จากโรงเรียนบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ และ 6.ด.ญ.ชฎาธาร รักษ์แก้ว จากโรงเรียนคลองพนสฤษดิ์พิทยา จังหวัดกระบี่

 

ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 6 คนได้ แก่ 1.นางสาววราภรณ์ สว่างสาย จากโรงเรียนมัธยมวัดหัตสาร- เกษตร จังหวัดปทุมธานี 2.นางสาวอัจฉรา อยู่สินธุ์ จากโรงเรียนลำปางกัลยาณี จังหวัดลำปาง 3.นางสาวขวัญชนก ทองล้วน จากโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี 4.นางสาวธัญลักษณ์ เอกจิตร จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี 5. นางสาวอภิญญาภรณ์ อุ่นครบุรี จากโรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม จังหวัดนครราชสีมา และ 6.นางสาววิภารัตน์ รำภา จากโรงเรียนสิเกาประชาผดุงวิทย์ จังหวัดตรัง ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และนำความ ภาคภูมิใจมาสู่วงศ์ตระกูลของน้องๆเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเยาวชนคนเก่งทั้ง 12 คนจะได้รับรางวัลเป็นโล่ พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นอกจากนี้ยังมอบตู้พร้อมหนังสือ 108 ตู้ คลัง ความรู้แห่งใหม่ให้กับโรงเรียนของเยาวชนคนเก่งผู้ชนะในแต่ละภูมิภาค เพื่อนำไปแบ่งปันให้กับบรรดาหนอน หนังสือตัวน้อยๆได้อ่านกับแบบเพลินเจริญสมองอีกด้วย

 

หลังจากร่ายถึงโครงการมาซะยาว คราวนี้มาฟังเจ้าของโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เล่าถึงความรู้สึกกันบ้างว่าแต่ละคนรู้สึกอย่างไร เริ่มจาก น้องชฎาธาร รักษ์แก้ว เยาวชนคนเก่ง ชั้น ม.1/1 จากโรงเรียนคลองพนสฤษดิ์พิทยา จังหวัดกระบี่ น้องเล่าถึงความรู้สึกว่า “รู้สึกภูมิใจกับตัวเองเป็นอย่างมาก ที่ได้รับรางวัลเป็นโล่จากสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากรู้ผลการตัดสินเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาทั้งคุณพ่อ คุณแม่ อาจารย์ และเพื่อนๆที่โรงเรียน ก็ดีใจมากๆ ซึ่งหนูเลือกเขียนเรียงความในหัวข้อบ้านรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่อง จากต้องการเล่าเรื่องราว และสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่รอบๆบ้าน ให้เพื่อนๆได้รับรู้ว่า บ้านของหนูไม่มีมลพิษ ไม่มีน้ำเสีย มีแต่สระน้ำขนาดใหญ่ และต้นไม้เป็นจำนวนมาก ซึ่งหนูกำลังจะบอกกับทุกคนว่า หากเราช่วยกันปลูกต้นไม้ ยิ่งปลูก มากเท่าไหร่บ้านเราก็จะมีธรรมชาติที่สวยงามเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น”

 

ด้านน้องอภิญญาภรณ์ อุ่นครบุรี เจ้าของรางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนบ้านใหญ่ พิทยาคม จังหวัดนครราชสีมา เล่าให้ฟังว่า “หนูเขียนหัวข้อล้านความรู้ในตู้หนังสือ เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว โดย เปรียบเทียบให้เห็นถึงตู้หนังสือที่ไม่ได้รับการใส่ใจ ถูกปล่อยให้ฝุ่นและหยักใย่เกาะเต็มไปหมด ซึ่งบางบ้านเอาตู้ หนังสือมาวางไว้เพื่อประดับบ้านเท่านั้น โดยหนูอยากจะบอกว่าถ้าเรายิ่งเปิดตู้หนังสือบ่อยเท่าไหร่เราก็จะมีความรู้ เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และจะเป็นพื้นฐานที่ดีที่จะติดตัวเราไปตลอด และหนูอยากจะชวนเพื่อนทุกคนให้หันมาอ่านหนัง สือกันเยอะๆคะ เพราะความรู้ที่เราได้จากหนังสือไม่สามารถใช้เงินซื้อได้คะ แต่เราหาได้จากการอ่านจริงๆคะ” ขณะที่น้องพีรญา รินสาร นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ จ.อุตรดิตถ์ เล่าว่าได้เขียนเรียงความประกวด ในหัวข้อล้านความรู้ในตู้หนังสือเพราะเป็นเรื่องที่น่าสนใจและถนัด โดยเนื้อหาในเรียงความจะเน้นประโยชน์ของ หนังสือ และความรู้สึกที่มีต่อหนังสือว่าเป็นเสมือนผู้ให้ความรู้ ถ้าเรารู้จักสนใจ รู้จักศึกษาเราก็จะได้รับความรู้จาก หนังสือมากมาย และการได้รับรางวัลในครั้งนี้ก็มีความรู้สึกดีใจภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของโรงเรียน และมั่นใจว่าราง วัลตู้หนังสือที่ได้มาในครั้งนี้จะช่วยเป็นสื่อกลางในการพัฒนาความรู้ให้กับเพื่อนๆคนอื่นๆที่เข้ามาอ่านหนังสือใน ห้องสมุดต่อไป น้องธัญลักษณ์ เอกจิตร นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.จันทบุรี เล่าว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้ รับรางวัลไม่คาดคิดว่าตนเองจะได้ สำหรับรางวัลที่ได้รับครั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถ ช่วยกระจายความรู้ออกไปให้กับ เพื่อนๆในโรงเรียนได้ศึกษาเพราะตู้หนังสือที่ได้มาประกอบไปด้วยหนังสือมากมายหลายเล่ม และเชื่อว่าการอ่านหนัง สือช่วยพัฒนาสมองพัฒนาความรู้ไปเรื่อยๆเพราะว่าคนเราต้องค้นคว้าศึกษาความรู้ไปเรื่อยๆ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ สำคัญมาก ติดตัวเราไปจนตาย

 

 

ปิดท้ายด้วยน้องณัฐวุฒิ นาคแก้ว นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนทวีธาภิเศก กทม. เล่าว่าตนได้เขียนเรียงความ เรื่องล้านความรู้ในตู้หนังสือ โดยที่เลือกเขียนเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว ถนัดและน่าสนใจ และมั่นใจว่ารางวัลที่ ได้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งยวดต่อไปให้กับโรงเรียน เพื่อนๆ ในการสานต่อความรู้จากการได้อ่านหนังหนังสือ เพราะการอ่านหนังสือจะก่อให้เกิดประโยชน์ในทุกๆด้านทั้งด้านความรู้ การเรียน การดำเนินชีวิต ก็อยากเชิญชวน เพื่อนๆว่าการอ่านหนังสือมีประโยชน์ทำให้เรามีความรู้อยากให้อ่านหนังสือกันทุกคนการประกวดในครังนี้ไม่เพียง แต่น้องทั้ง 12 คน จะได้รับรางวัลเท่านั้น ยังมีเยาวชนอีก 90 คน ที่ได้รับรางวัลเช่นกัน โดยแบ่งเป็นรางวัลรองชนะ เลิศ 12 รางวัล จะได้รับโล่จากองคมนตรี พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ พร้อมตู้หนังสือ นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับรางวัล ชมเชยอีก 84 รางวัล จะได้รับประกาศเกียรติคุณจากองคมนตรี พร้อมตู้หนังสืออีกด้วย

โครงการล้านความรู้ในตู้หนังสือ อีกกิจกรรมหนึ่งที่จะเป็นตัวกระตุ้นที่ดีที่จะส่งเสริมให้เยาวชนไทยรักการ อ่าน และการเขียนเพิ่มมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับน้องๆเยาวชนทั้ง 2,186 คนที่ส่งผลงานเข้าประกวดในครั้งนี้เสมือน เป็นการส่งมอบความรู้อันล้ำค่าผ่านหนังสือดี ๆ เพื่อเป็นของขวัญให้กับเยาวชนของไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ คืนกำไรพาหนุ่มสาวชาวออฟฟิศดูหนังฟรี!

เมื่อเร็วๆ นี้ สาวๆ Double A I-Girls พาลูกค้าหนุ่มสาวชาวออฟฟิศผู้โชคดีที่ไว้วางใจในกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ เข้าชมภาพยนตร์คุณภาพจากฝรั่งเศส ในงานเทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศส ลาแฟ็ต (La Fete Bangkok 2012) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าที่เลือกใช้กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ และยังเป็นการพักผ่อนคลายเครียดจากการทำงาน ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษที่ส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนงานเทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศส ลาแฟ็ต เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนของทั้งสองวัฒนธรรมในครั้งนี้ด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ รวมพลังคนไทย ร่วมปิดไฟลดโลกร้อน Earth Hour 31 มี.ค.นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา ชวนคนไทยรวมพลังร่วมปิดไฟให้โลกพัก ในโครงการ Earth Hour 2012 พร้อมกันทั่วโลก ในวันเสาร์ที่ 31 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น.เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รณรงค์ให้สำนักงานและเครือข่ายดั๊บเบิ้ล เอ ทั่วโลก รวมทั้งพนักงานของดั๊บเบิ้ล เอ และชุมชนโดยรอบ ร่วมปิดไฟในครั้งนี้ด้วย เพื่อสร้างจิตสำนึกกระตุ้นให้ทุกคนช่วยกันดูแลโลกของเรามากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาโลกร้อน ทั้งนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้เดินหน้ารณรงค์ลดโลกร้อนที่มากกว่าการปิดไฟมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร่วมเป็นองค์กรประหยัดพลังงาน ที่ส่งเสริมให้พนักงานในองค์กรปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและปรับปรุงอาคารสำนักงานเพื่อลดการใช้พลังงาน เป็นต้น

ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ชวนคนไทยสร้างสุขที่ยั่งยืนจัดทัพเหล่ากูรูด้านสุขภาพและความงาม ให้ข้อคิดดีๆ ในงาน "มหัศจรรย์แห่งความสุข"

"ความสุข" คำสั้นๆ ที่ทุกคนในโลกนี้ต่างเสาะแสวงหา แต่หลายคนคงสงสัยว่า "ความสุข" คืออะไร บางคนว่าความสุข คือ ทรัพย์สิน เงินทอง เกียรติยศ การห้อมล้อมไปด้วยคนรัก ซึ่งต่างคนก็ต่างความคิด และต่างเหตุผลที่จะแสวงหาความสุขให้กับตัวเอง แต่หลายคนคงจะไม่รู้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น ไม่ได้หายากอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด แต่ความสุขที่แท้จริงกับอยู่ที่ใจของเรากำหนดเอง คุณแม่จูงลูกมาร่วมกิจกรรมดีๆ ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนได้มีความสุขอย่างยั่งยืน ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ จึงได้จัดเสวนา "มหัศจรรย์แห่งความสุข" เนรมิตเมืองหนังสือเป็นเมืองแห่งความสุขกับกิจกรรมดีๆ ที่เหล่าวิทยากรด้านสุขภาพมาร่วมให้เคล็ดลับการมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ โดยในงานเสวนาได้รับเกียรติจาก นายแพทย์วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน และ คุณสุนีรัตน์ ไม้ทิม บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Simply Living ได้แนะวิธีการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนว่า นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร และ คุณสุนีรัตน์ ไม้ทิม แนะเคล็ดลับการมีสุขภาพที่ดี "ร่างกายที่แข็งแรงต้องเริ่มมาจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกาย ซึ่งปัจจุบันคนเราป่วยเป็นโรคแปลกๆมากขึ้น เพราะเราขาดสองสิ่งนี้ และคนทำงานในปัจจุบันยังนิยมเป็นโรค "ออฟฟิศ ซินโดรม" ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานในท่าเดิมนานๆ ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งการจะรักษาให้หายจากโรคนี้ได้ เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง รู้จักพักผ่อนร่างกายและกล้ามเนื้อ เพราะเวลาทำงาน สมองและกล้ามเนื้อเกิดอาการตึงเครียด เราจึงต้องออกกำลังกาย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้ คนในยุคปัจจุบันยังไม่ค่อยรับประทานผักและผลไม้ บริโภคแต่วิตามินอัดเม็ด ซึ่งวิตามินเหล่านั้นไม่สามารถชดเชยวิตามินจากอาหารธรรมชาติได้อย่างที่คนทั่วไปคิด" บรรยากาศงานมหัศจรรย์แห่งความสุข นอกจากนี้ ยังได้รู้เทคนิคการยืดเส้นยืดสายง่ายๆ ที่สามารถฝึกได้เองใช้เวลาแค่วันละ 10 นาที จากคุณอาภาลักษณ์ พรรคสายชล ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดชั้นนำของเมืองไทย โดยมีท่าบริหาร อย่างการบริหารข้อมือด้วยการยื่นแขนไปข้างหน้า กางนิ้วมือออก เกร็งไว้สักครู่ สลับกับกำมือ ประมาณ 10 ครั้ง หรือท่าบริหารคอ โดยก้มศีรษะให้คางจรดกับหน้าอก ให้รู้สึกตึงบริเวณคอด้านหลัง ค้างไว้ 5-10 วินาที นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์นานๆ ควรเตือนตัวเอง ให้เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์บ้าง โดยให้มองออกไปไกลๆทุก 20 นาทีเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าของสายตา และผ่อนคลายความตึงเครียดอันเป็นสาเหตุของโรคออฟฟิศ ซินโดรมนี้ โรงพยาบาลนครธนมาร่วมตรวจสุขภาพกาย และเมื่อร่างกายได้รับอาหารดีมีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างถูกต้องแล้ว ก็ต้องรู้จักการบริหารใจให้ดีอีกด้วย ซึ่งงานนี้ "ดีเจพี่อ้อย" คุณนภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ดีเจชื่อดังจากคลื่นกรีนเวฟ มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ "สุขใจ สบายกาย" ซึ่งมาแนะนำวิธีการดีๆในการสร้างกำลังใจให้ตนเอง และรู้จักคิดบวกในสถานการณ์ต่างๆ ว่า "ดีเจพี่อ้อย" ร่วมพูดคุยวิธีสร้างเสริมกำลังใจ "คนเราทุกคนย่อมมีสภาวะจิตใจที่ต่างกัน มีวิธีคิดต่างกัน และก็ย่อมมีความสุข ความทุกข์ที่ต่างกันด้วย ดังเช่นในเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา คนต่างจังหวัดที่เคยประสบปัญหาอุทกภัย ต่างรับมือได้ และทุกข์น้อยกว่าคนกรุงเทพฯ ทั้งที่คนกรุงเทพฯน้ำมาสูงแค่เข่าเท่านั้นก็รู้สึกเป็นทุกข์มากเลย จากเหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า หากเราเข้าใจปัญหาทุกอย่าง สร้างกำลังใจให้เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้น เริ่มมองเห็นทางออกของปัญหา ยอมรับกับมันก็จะช่วยให้ปัญหาเหล่านั้นคลี่คลายจากหนักก็กลายเป็นเบาขึ้น ความสุขก็จะมีมาเอง แต่สิ่งที่ทุกคนประสบอยู่ นั่นคือ เข้าใจปัญหาดีอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถพาตนเองออกจากปัญหาหรือความทุกข์นั้นได้" ปัจจุบันปัญหาที่ผู้ฟังรายการ Club Friday มากที่สุด อันดับหนึ่งก็คือ เรื่องความรัก โดยเฉพาะการไปรักคนมีเจ้าของ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดศีลธรรมแต่ก็ยังพร้อมจะทำผิดศีลธรรมต่อไป และหลายๆคนยังเข้าใจผิดระหว่างคำว่า "คิดบวก" กับ "หลอกตนเอง" ซึ่งคิดบวกมากเกินไปก็อันตราย การคิดบวกนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง อย่างผู้หญิงคนหนึ่งชอบแต่งตัวเซ็กซี่ๆ แล้ววันหนึ่งคิดว่า เดินผ่านบริเวณที่มีการก่อสร้างหรือที่เปลี่ยวๆ คงไม่โดนข่มขืนหรอก เพราะคิดบวกโดยไม่ได้คิดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ถือว่าเป็นการหลอกตนเอง จริงๆแล้ว การคิดบวกคือการคิดไม่ประมาท และคิดเผื่อในด้านลบด้วยแล้วเตรียมรับมือกับสิ่งนั้น อย่างในกรณีนี้ เราควรคิดกลับกันว่า ถ้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับชั้นล่ะ ทำไมเราไม่เปลี่ยนเส้นทางเดินไปที่อื่นแทนการเดินทางไปยังที่ไม่ปลอดภัย หรือสถานที่เปลี่ยวๆ ยามค่ำคืน แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรแต่งตัวให้มิดชิดสักหน่อย" ข้อคิดดีๆ ที่ดีเจพี่อ้อยกล่าวทิ้งท้ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมฟังการเสวนา คุณจิรัฏฐ์ ฉายะจินดาวงศ์ กับเวิร์คชอป ซุปและสลัดเพื่อ หลังจากฟังวิธีการสร้างสุขที่ยั่งยืน สุขที่มาจากภายในกันแล้ว ในวันนั้น คุณจิรัฏฐ์ ฉายะจินดาวงศ์ อดีตกองบรรณาธิการ Health & Cuisine Magazine ที่ปัจจุบันเป็นกูรูสอนทำอาหารอิสระใน www.facebook.com/thebakingstory ยังได้มาร่วมสาธิตการทำซุปและสลัดเพื่อสุขภาพ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ซึ่งผู้ร่วมงานได้เข้าร่วมเวิร์กชอปทำอาหารร่วมกัน ทั้งเด็กๆ และผู้ปกครองต่างสนุกสนานประชันฝีมือทำอาหารกันอย่างน่าทานทีเดียว นอกจากนี้ สำหรับคนที่รักการอ่าน ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ยังจัดโซนหนังสือเพื่อสร้างความสุขทางด้านจิตใจและหนังสือสุขภาพต่างๆ มาแนะนำให้ผู้อ่านที่สนใจเลือกซื้อเลือกหาจากหลากหลายสำนักพิมพ์ ติดตามกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ได้ที่ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือบนถนนสาทร 12 หรือ www.DoubleAbooktower.com

จับรางวัลครั้งที่ 1 แคมเปญดั๊บเบิ้ล เอ ดั๊บเบิ้ล เฮ เที่ยวฟรีช้อปฟรีที่เกาหลี

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทดั๊บเบิ้ล เอ ( 1991 ) จำกัด (มหาชน) จับรางวัลมอบโชคครั้งที่ 1 ให้กับผู้โชคดี 5 คู่แรก ในแคมเปญ "ดั๊บเบิ้ล เอ ดั๊บเบิ้ล เฮ เที่ยวฟรี ช้อปฟรีที่เกาหลี 10 ล้านวอน" เพื่อรับรางวัลช้อปฟรีและแพ็คเกจท่องเที่ยวประเทศเกาหลีคู่ละ 10 ล้านวอน จำนวน 35 คู่ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 350 ล้านวอน เพียงตัดชิ้นส่วนเปลือกห่อกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ A4 80 แกรม หรือ ดั๊บเบิ้ล เอ คัลเลอร์ พริ้นท์ ขนาด 500 แผ่น พร้อมเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ รวมถึงชื่อร้านค้า พร้อมจังหวัดและราคาที่ซื้อ แล้วส่งมาที่ ตู้ ปณ.10 ปณ.บางปะกง ฉะเชิงเทรา 24130 โดยจับรางวัลทุกเดือนรวม 7 ครั้ง หมดเขตรับชิ้นส่วน 20 กันยายน 2555 ติดตามรายละเอียดและรายชื่อผู้โชคดีได้ที่ www.DoubleApaper.com หรือ 1759 ดั๊บเบิ้ล เอ ฮอตไลน์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะสำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดลพบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน ที่มีจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เปิดบ้านต้อนรับคณะเยี่ยมชมจากสำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดลพบุรี เพื่อเข้าเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตกระดาษอันทันสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมสนุกกับภาพยนตร์แบบ 4 มิติ เพื่อเรียนรู้โมเดล "กระดาษจากคันนา" มาตรฐานใหม่ของโลกในการผลิตกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถสร้างงานและสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรกว่า 1.5 ล้านราย ในการปลูกต้นกระดาษบนคันนาหรือตามพื้นที่ว่างทางการเกษตรที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการแก้ปัญหาโลกร้อน เพราะกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทุก 1 รีมจะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากบรรยากาศ 12.5 กิโลกรัม

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับรับคณะนักเรียนและคณาจารย์โรงเรียนสวนศรีวิทยา จังหวัดชุมพร

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน เปิดบ้านต้อนรับคณะนักเรียนและคณาจารย์โรงเรียนสวนศรีวิทยา จังหวัดชุมพร เยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยกระดาษดั๊บเบิ้ล เอทุก 1 รีมสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12.5 กิโลกรัม อีกทั้งได้เรียนรู้ปรัชญาการผลิตแบบ "ของเหลือใช้ ไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า" ผ่านการบรรยายและสื่อภาพยนตร์ 4 มิติ ทำให้คณะผู้เยี่ยมชมได้เข้าใจถึง "กระดาษบนคันนา" มากยิ่งขึ้น โดยนำผลพลอยได้จากการผลิต อาทิ เศษไม้ เปลือกไม้ น้ำมันยางไม้ ส่งไปใช้ประโยชน์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ที่ทำให้ได้พลังงานไฟฟ้ามากเพียงพอสำหรับการผลิตและเหลือเพียงพอกับการใช้ของชุมชนอีก 400,000 ครัวเรือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Double A Heroes ที่ผู้ใช้กระดาษทุกคนสามารถกลายเป็นฮีโร่ได้อย่างง่ายๆ