Follow us

โครงการล้านความรู้ในตู้หนังสือมอบตู้หนังสือให้เด็กทั่วประเทศ

12 เยาวชนสุดเจ๋ง คว้าโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพฯ รัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โครงการล้านความรู้ ในตู้หนังสือ ส่งต่อปัญญาส่งต่อความรู้ มอบตู้หนังสือให้เพื่อนๆ 108 โรงเรียนทั่วประเทศ กระตุ้นเด็กไทยรักการอ่าน - สร้างแหล่งกำเนิดขุมปัญญา การอ่านคือบ่อเกิดแห่งปัญญา โครงการประกวดเรียงความ “ล้านความรู้ในตู้หนังสือ” นับเป็นอีกโครงการดีดี สร้างสังคมรักการอ่านให้แก่เด็กไทย เพื่อค้นหาฮีโร่เยาวชนคนเก่งประจำชุมชนที่สามารถ วาดลวดลาย ละเลงน้ำหมึก เล่าถึงประสบการณ์ จากการอ่านหนังสือของน้องๆเยาวชน ใน 4 หัวข้อ คือ 1.ล้านความรู้ใน ตู้หนังสือ 2.บ้านรักษ์พลังงานสิ่งแวดล้อม 3.ครอบครัวสุขสันต์กับการประกันภัย และ4.เยาวชนไทยร่วมคิดร่วมใช้ พลังงาน มาถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับเยาวชนคนคุณภาพ

 

ผลงานที่ส่งเข้าประกวดสร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการไม่น้อย น้องๆ เยาวชนส่งงานมาแบบอุ่นหนา ฝาคลั่ง ต่างส่งผลงานเข้าชิงชัยความเป็นสุดยอดมากถึง 2,186 เรื่อง จาก 235 โรงเรียนทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็น ผลสำเร็จของโครงการแบบเป็นรูปธรรมว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นให้เยาวชนไทยเริ่มหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับ การอ่านและเขียนหนังสืออย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรพันธมิตรร่วมจัดทั้ง 8 องค์กร อย่างน้อยได้เห็นอนาคตของประเทศที่เด็กไทยเราใส่ใจการอ่าน นับเป็นความตั้งใจของ 8 องค์กรร่วม ประกอบด้วย สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มมหพันธ์ผลิตภัณฑ์เฌอร่าและห้าห่วง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) มูลนิธิดร .เทียม โชควัฒนา และบริษัท อินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ จำกัด และดั๊บเบิ้ล เอ และหลังจากที่น้องๆกว่า 2,000 คน รอคอย มากว่า 3 เดือน และแล้วช่วงเวลาแห่งการรอคอยลุ้นระทึกก็มาถึง เมื่อกรรมการ ประกาศรายชื่อบรรดาฮีโร่ ซึ่งได้รับ รางวัลในระดับชั้นต่างๆ เริ่มจากระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 6 คน ได้แก่ 1.ด.ช.กรกช ไม้เกตุ จากโรงเรียน สารสาสน์ประชาอุทิศพิทยาคาร กรุงเทพ 2.ด.ญ.กนกพร จะจู จากโรงเรียนวัฒโนพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ 3.ด.ญ.จำเริญลักษณ์ ทองล้วน จากโรงเรียนพรหมานุสรณ์ จังหวัดเพชรบุรี 4.ด.ญ.ชนัดดา เปล่งผิว จากโรงเรียน บ้านวังทะลุ จังหวัดปราจีนบุรี 5.ด.ช.ธนาวุฒิ เมยท่าแค จากโรงเรียนบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ และ 6.ด.ญ.ชฎาธาร รักษ์แก้ว จากโรงเรียนคลองพนสฤษดิ์พิทยา จังหวัดกระบี่

 

ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 6 คนได้ แก่ 1.นางสาววราภรณ์ สว่างสาย จากโรงเรียนมัธยมวัดหัตสาร- เกษตร จังหวัดปทุมธานี 2.นางสาวอัจฉรา อยู่สินธุ์ จากโรงเรียนลำปางกัลยาณี จังหวัดลำปาง 3.นางสาวขวัญชนก ทองล้วน จากโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี 4.นางสาวธัญลักษณ์ เอกจิตร จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี 5. นางสาวอภิญญาภรณ์ อุ่นครบุรี จากโรงเรียนบ้านใหญ่พิทยาคม จังหวัดนครราชสีมา และ 6.นางสาววิภารัตน์ รำภา จากโรงเรียนสิเกาประชาผดุงวิทย์ จังหวัดตรัง ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และนำความ ภาคภูมิใจมาสู่วงศ์ตระกูลของน้องๆเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเยาวชนคนเก่งทั้ง 12 คนจะได้รับรางวัลเป็นโล่ พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นอกจากนี้ยังมอบตู้พร้อมหนังสือ 108 ตู้ คลัง ความรู้แห่งใหม่ให้กับโรงเรียนของเยาวชนคนเก่งผู้ชนะในแต่ละภูมิภาค เพื่อนำไปแบ่งปันให้กับบรรดาหนอน หนังสือตัวน้อยๆได้อ่านกับแบบเพลินเจริญสมองอีกด้วย

 

หลังจากร่ายถึงโครงการมาซะยาว คราวนี้มาฟังเจ้าของโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เล่าถึงความรู้สึกกันบ้างว่าแต่ละคนรู้สึกอย่างไร เริ่มจาก น้องชฎาธาร รักษ์แก้ว เยาวชนคนเก่ง ชั้น ม.1/1 จากโรงเรียนคลองพนสฤษดิ์พิทยา จังหวัดกระบี่ น้องเล่าถึงความรู้สึกว่า “รู้สึกภูมิใจกับตัวเองเป็นอย่างมาก ที่ได้รับรางวัลเป็นโล่จากสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากรู้ผลการตัดสินเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาทั้งคุณพ่อ คุณแม่ อาจารย์ และเพื่อนๆที่โรงเรียน ก็ดีใจมากๆ ซึ่งหนูเลือกเขียนเรียงความในหัวข้อบ้านรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่อง จากต้องการเล่าเรื่องราว และสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่รอบๆบ้าน ให้เพื่อนๆได้รับรู้ว่า บ้านของหนูไม่มีมลพิษ ไม่มีน้ำเสีย มีแต่สระน้ำขนาดใหญ่ และต้นไม้เป็นจำนวนมาก ซึ่งหนูกำลังจะบอกกับทุกคนว่า หากเราช่วยกันปลูกต้นไม้ ยิ่งปลูก มากเท่าไหร่บ้านเราก็จะมีธรรมชาติที่สวยงามเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น”

 

ด้านน้องอภิญญาภรณ์ อุ่นครบุรี เจ้าของรางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนบ้านใหญ่ พิทยาคม จังหวัดนครราชสีมา เล่าให้ฟังว่า “หนูเขียนหัวข้อล้านความรู้ในตู้หนังสือ เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว โดย เปรียบเทียบให้เห็นถึงตู้หนังสือที่ไม่ได้รับการใส่ใจ ถูกปล่อยให้ฝุ่นและหยักใย่เกาะเต็มไปหมด ซึ่งบางบ้านเอาตู้ หนังสือมาวางไว้เพื่อประดับบ้านเท่านั้น โดยหนูอยากจะบอกว่าถ้าเรายิ่งเปิดตู้หนังสือบ่อยเท่าไหร่เราก็จะมีความรู้ เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และจะเป็นพื้นฐานที่ดีที่จะติดตัวเราไปตลอด และหนูอยากจะชวนเพื่อนทุกคนให้หันมาอ่านหนัง สือกันเยอะๆคะ เพราะความรู้ที่เราได้จากหนังสือไม่สามารถใช้เงินซื้อได้คะ แต่เราหาได้จากการอ่านจริงๆคะ” ขณะที่น้องพีรญา รินสาร นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนท่าปลาประชาอุทิศ จ.อุตรดิตถ์ เล่าว่าได้เขียนเรียงความประกวด ในหัวข้อล้านความรู้ในตู้หนังสือเพราะเป็นเรื่องที่น่าสนใจและถนัด โดยเนื้อหาในเรียงความจะเน้นประโยชน์ของ หนังสือ และความรู้สึกที่มีต่อหนังสือว่าเป็นเสมือนผู้ให้ความรู้ ถ้าเรารู้จักสนใจ รู้จักศึกษาเราก็จะได้รับความรู้จาก หนังสือมากมาย และการได้รับรางวัลในครั้งนี้ก็มีความรู้สึกดีใจภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของโรงเรียน และมั่นใจว่าราง วัลตู้หนังสือที่ได้มาในครั้งนี้จะช่วยเป็นสื่อกลางในการพัฒนาความรู้ให้กับเพื่อนๆคนอื่นๆที่เข้ามาอ่านหนังสือใน ห้องสมุดต่อไป น้องธัญลักษณ์ เอกจิตร นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.จันทบุรี เล่าว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้ รับรางวัลไม่คาดคิดว่าตนเองจะได้ สำหรับรางวัลที่ได้รับครั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถ ช่วยกระจายความรู้ออกไปให้กับ เพื่อนๆในโรงเรียนได้ศึกษาเพราะตู้หนังสือที่ได้มาประกอบไปด้วยหนังสือมากมายหลายเล่ม และเชื่อว่าการอ่านหนัง สือช่วยพัฒนาสมองพัฒนาความรู้ไปเรื่อยๆเพราะว่าคนเราต้องค้นคว้าศึกษาความรู้ไปเรื่อยๆ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ สำคัญมาก ติดตัวเราไปจนตาย

 

 

ปิดท้ายด้วยน้องณัฐวุฒิ นาคแก้ว นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนทวีธาภิเศก กทม. เล่าว่าตนได้เขียนเรียงความ เรื่องล้านความรู้ในตู้หนังสือ โดยที่เลือกเขียนเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว ถนัดและน่าสนใจ และมั่นใจว่ารางวัลที่ ได้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งยวดต่อไปให้กับโรงเรียน เพื่อนๆ ในการสานต่อความรู้จากการได้อ่านหนังหนังสือ เพราะการอ่านหนังสือจะก่อให้เกิดประโยชน์ในทุกๆด้านทั้งด้านความรู้ การเรียน การดำเนินชีวิต ก็อยากเชิญชวน เพื่อนๆว่าการอ่านหนังสือมีประโยชน์ทำให้เรามีความรู้อยากให้อ่านหนังสือกันทุกคนการประกวดในครังนี้ไม่เพียง แต่น้องทั้ง 12 คน จะได้รับรางวัลเท่านั้น ยังมีเยาวชนอีก 90 คน ที่ได้รับรางวัลเช่นกัน โดยแบ่งเป็นรางวัลรองชนะ เลิศ 12 รางวัล จะได้รับโล่จากองคมนตรี พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ พร้อมตู้หนังสือ นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับรางวัล ชมเชยอีก 84 รางวัล จะได้รับประกาศเกียรติคุณจากองคมนตรี พร้อมตู้หนังสืออีกด้วย

โครงการล้านความรู้ในตู้หนังสือ อีกกิจกรรมหนึ่งที่จะเป็นตัวกระตุ้นที่ดีที่จะส่งเสริมให้เยาวชนไทยรักการ อ่าน และการเขียนเพิ่มมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับน้องๆเยาวชนทั้ง 2,186 คนที่ส่งผลงานเข้าประกวดในครั้งนี้เสมือน เป็นการส่งมอบความรู้อันล้ำค่าผ่านหนังสือดี ๆ เพื่อเป็นของขวัญให้กับเยาวชนของไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนปันความสุขกันอย่างต่อเนื่องกับ "แต้มปันสุข ครั้งที่ 3"

ดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรม "แต้มปันสุข ครั้งที่ 3" เชิญชวน​​ลูกค้ากระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมสแกน QR Code ข้างกล่อง ผ่านแอปพลิเคชั่น Double A QR Lucky หรือส่งรหัสด้านในห่อกระดาษ ผ่านช่องทาง Line@DoubleAThailand ​​เพื่อเป็นแต้มสะสม โดยทุก 10 แต้ม​ที่แลก จะเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์สเปรย์ Double A Care ขนาด 60 ml. จำนวน 1 ขวด และดั๊บเบิ้ล เอ​ ​สมทบเพิ่มให้อีก 60 ml. เพื่อส่ง​ต่อความห่วงใยและกำลังใจให้กับผู้ป่วยโรคเอดส์​ ​รวมถึงเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบ​และเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วย​ ​ผ่านมูลนิธิธรรมรักษ์ (วัดพระบาทน้ำพุ) สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ - 17 มี.ค. 65 ​ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Double A Club

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดขายหุ้นกู้ 1/2565 อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 4.85% ต่อปี

ดั๊บเบิ้ล เอ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท สำรองขายไม่เกิน 2,000 ล้านบาท กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 17, 18 และ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เผยธุรกิจกำไรโตรวม 3 ไตรมาส กำไรสุทธิ 1,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน แม้เผชิญวิกฤติโควิด-19 ขณะที่ทริสเรทติ้งจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้เป็น BBB (Stable) สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1 / 2565 ให้ประชาชนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และ/ หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยแบ่งเป็นหุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 4 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.25 ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2570 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2572 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.85 ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด มีหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขาย ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท สำรองขายไม่เกิน 2,000 ล้านบาท สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อนำไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และ / หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ฯ โดยก่อนหน้านี้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เผยผลประกอบการใน 3 ไตรมาสของปี 2564 มีกำไรสุทธิที่ 1,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน บริษัทมีการวางแผนปรับกลยุทธ์และปรับการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ ธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาแบรนด์สินค้าเพื่อสุขอนามัย Double A Care ภายใต้แนวคิด “ห่วงใยกันและกัน ทำให้ใจแข็งแรง” อาทิ หน้ากากอนามัย , แอลกอฮอล์ , ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เป็นต้น และขยายการลงทุนในธุรกิจต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขัน ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคและตลาดในยุคปัจจุบัน หุ้นกู้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 เป็น BBB (Stable) สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมกระดาษ และแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ ดั๊บเบิ้ล เอ ควบคู่การรักษาระดับความสามารถในการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน ผู้ที่สนใจสามารถแสดงความจำนงซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวได้ระหว่างวันที่ 17,18 และ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 11 ราย ได้แก่ 1. บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (YUANTA) 2. บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FNSR) 3. บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (UOBKH) 4. บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GLOBLEX) 5. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด (KTZ) 6. บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) 7. บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) 8. บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (ASP) 9. บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (Nomura) 10. บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด (ASL) 11.บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คำเตือน : ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ดั๊บเบิ้ล เอ กำไรโต! ฝ่าวิกฤติโควิด-19

ดั๊บเบิ้ล เอ เผยรวม 3 ไตรมาสกำไรสุทธิ 1,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน สวนกระแสเศรษฐกิจช่วงโควิด-19 สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจ พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจใหม่ วางกลยุทธ์ช่องทางการตลาดเต็มรูปแบบ ตอบโจทย์คนยุคดิจิทัล นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในปีที่ผ่านมาเป็นอีกปีที่ ดั๊บเบิ้ล เอ จะต้องเผชิญกับพิษเศรษฐกิจซบเซาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเรามีการติดตามและวางแผนปรับกลยุทธ์บริหารจัดการได้รวดเร็วทันกับสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทำให้ผลประกอบการใน 3 ไตรมาสของปี 64 มีกำไรสุทธิที่ 1,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน” ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อและกระดาษพิมพ์เขียน เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน และในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาได้เปิดธุรกิจใหม่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยแบรนด์ Double A Care ภายใต้แนวคิด “ห่วงใยกันและกัน ทำให้ใจแข็งแรง” อาทิ หน้ากากอนามัย , แอลกอฮอล์ , ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีในส่วนธุรกิจบริการงานพรินต์ Double A Fastprint ที่สามารถพรินต์งานได้ด้วยตัวคุณเองผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะพรินต์แบบขาวดำหรือแบบสีด้วยกระดาษคุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ สะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเมื่อไร มีจุดบริการทั่วประเทศ 1,950 จุด และล่าสุดได้เพิ่มช่องทางการชำระเงินในรูปแบบคริปโตให้กับผู้ใช้บริการ Double A Fastprint ในสกุลเงินดิจิทัลไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Etherum ,USDT เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่มีการพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตในกระแสโลกดิจิทัล รวมถึงการวางกลยุทธ์ช่องทางการขายรูปแบบใหม่ อาทิ การสั่งซื้อสินค้าผ่าน E-Commerce ทั้งเว็บไซต์ดั๊บเบิ้ล เอ ดิลิเวอรี่ ช่องทางร้านค้าออนไลน์ใน E-Marketplace การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ "Chat & Shop" บนแอปพลิเคชั่น Line สามารถสั่งซื้อสินค้าได้สะดวกง่ายขึ้น และมีการเปิดตัว “ตู้กดสินค้า Double A” เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าสามารถกดซื้อสินค้าที่ต้องการได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน เช่น สมุด ปากกา เครื่องเย็บกระดาษ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย Double A Care พร้อมช่องทางชำระเงินทั้งแบบออนไลน์และเงินสด โดยมีจุดติดตั้งตู้กดสินค้าตามสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ อาทิ MRT สถานีสุขุมวิท , เพชรบุรี และจตุจักร , BTS สถานีสยาม และ Co-working space อย่าง SAMYAN CO-OP ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาแบรนด์สินค้า Double A และขยายการลงทุนในธุรกิจต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขัน ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคและตลาดในยุคปัจจุบัน โดยผลประกอบการในปี พ.ศ. 2564 ได้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจและสถานะการเงิน รวมถึงความสำเร็จจากการวางกลยุทธ์การปรับตัว ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายในยุคปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ ดั๊บเบิ้ล เอ ควบคู่การรักษาระดับความสามารถในการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน