Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

    นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมมือกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย จัดโครงการประกวด “สื่อรณรงค์”การใช้กระดาษจาก “ไม้ปลูก” เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และเป็นโอกาสในการเรียนรู้เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าใจเกี่ยวกับที่มาของวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นกระดาษในปัจจุบันมากขึ้น   เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนทั่วไป ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกระดาษในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกระดาษต้องมาจากการตัดไม้ทำลายป่าจากธรรมชาติเท่านั้น

    จากข้อมูลของ The International Institute for Environment and Development พบว่า วัตถุดิบในการผลิตกระดาษของโลก ส่วนใหญ่ยังคงใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ โดยเป็นกระดาษที่ผลิตจากการตัดป่าธรรมชาติและปล่อยให้ป่าฟื้นตัวเองในสัดส่วนประมาณ 17 % กระดาษที่ผลิตจากป่าธรรมชาติและมีการปลูกป่าทดแทน 37 % และผลิตจากป่าฝนเมืองร้อน 1 % แต่สำหรับผู้ผลิตกระดาษในประเทศไทยหลายราย สามารถใช้วัตถุดิบจากไม้ปลูกในการผลิตได้แล้ว โดยไม่ต้องอาศัยไม้จากป่าธรรมชาติ

    “ดั๊บเบิ้ล เอใช้เวลากว่า 25 ปีในการพัฒนาพันธุ์ไม้ปลูกสำหรับเกษตรกร เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษในประเทศไทยได้อย่างมีคุณภาพ โดยมีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกแล้วกว่า 1 ล้านครอบครัว ใช้เวลาปลูกเพียง 3-5 ปี ขณะที่ผู้ผลิตบางประเทศยังต้องอาศัยไม้จากธรรมชาติอายุนับร้อยปีเป็นวัตถุดิบ ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นการทำลายป่าไม้แล้ว การส่งเสริมให้มีการปลูกไม้ ยังเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนกับเกษตรกรภายในประเทศไทยจากการปลูกไม้ และงานต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี” นายชาญวิทย์กล่าว

    สำหรับการประกวดสื่อรณรงค์ “การใช้กระดาษจากไม้ปลูก” จะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1.ประเภทการออกแบบโปสเตอร์ และ2.ประเภทภาพยนตร์โฆษณา ความยาว  30 วินาที หรือ 45 วินาที ไม่จำกัดเทคนิคโดยทั้ง 2 ประเภท จะมีการประกวด 2 ระดับ คือ ระดับอุดมศึกษา และระดับประชาชนทั่วไป  ส่วนประเภทที่ 3 คือ ประเภทลายสกรีนเสื้อยืด จะประกวด 1 ระดับ คือ ระดับมัธยมศึกษา โดยสื่อทุกประเภทที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีเนื้อหารณรงค์ชักชวนให้คนไทยคำนึงถึงแหล่งที่มาที่แน่ชัดของวัตถุดิบกระดาษก่อนตัดสินใจเลือกใช้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกระดาษจาก “ไม้ปลูก”ของเกษตรกร รวมทั้งต้องสามารถกระตุ้นให้ผู้ที่ได้รับสื่อตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรกระดาษอย่างถูกต้องและคุ้มค่า โดยจะเปิดรับผลงานตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2550 นี้

    ดร.ไชยยศ  บุญญากิจ รองประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน และผู้บริโภค เกี่ยวกับวัตถุดิบที่นำมาผลิตกระดาษ ว่ามิได้มาจากการทำลายป่าไม้เพียงอย่างเดียว ยังมีกระดาษที่สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกไม้ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนรักษ์ธรรมชาติอีกทางหนึ่ง โดยในภาพรวมหากผู้บริโภคกระดาษทั่วโลกสนับสนุนการใช้หรือการผลิตกระดาษจากไม้ปลูก ก็จะกลายเป็นแรงผลักดันให้ลดการตัดไม้จากป่าธรรมชาติมาผลิตกระดาษได้ โดยเฉพาะในขณะที่ทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะโลกร้อน การไม่ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ ก็ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี

    สำหรับผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวดต้องส่งผลงานด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ มาที่ โครงการประกวดสื่อรณรงค์“การใช้กระดาษจากไม้ปลูก” Paper From Farmed Trees เลขที่ 238/3-4 ซ.สายน้ำทิพย์ 2 ถ.สุขุมวิท 22 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม.10110 หรือ โทร.0-2663-3226 ต่อ 64  ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2550

 ---------------------------

Source of Paper Production in the world

By The International Institute for Environment and Development.

 37% from natural forest that is logged and then re-generated via seedling

17% from logging natural forest and left to regenerate without human assistance

15% from original boreal forest (boreal forest are located in the high latitudes of the northern hemisphere and are untouched by human intervention)

1% from the tropical rainforest

1% original temperate hardwood forest (forest found in temperate regions of the world)

29% from managed plantations

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ รวมพลังคนไทย ร่วมปิดไฟลดโลกร้อน Earth Hour 31 มี.ค.นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา ชวนคนไทยรวมพลังร่วมปิดไฟให้โลกพัก ในโครงการ Earth Hour 2012 พร้อมกันทั่วโลก ในวันเสาร์ที่ 31 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น.เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รณรงค์ให้สำนักงานและเครือข่ายดั๊บเบิ้ล เอ ทั่วโลก รวมทั้งพนักงานของดั๊บเบิ้ล เอ และชุมชนโดยรอบ ร่วมปิดไฟในครั้งนี้ด้วย เพื่อสร้างจิตสำนึกกระตุ้นให้ทุกคนช่วยกันดูแลโลกของเรามากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาโลกร้อน ทั้งนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้เดินหน้ารณรงค์ลดโลกร้อนที่มากกว่าการปิดไฟมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ร่วมเป็นองค์กรประหยัดพลังงาน ที่ส่งเสริมให้พนักงานในองค์กรปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและปรับปรุงอาคารสำนักงานเพื่อลดการใช้พลังงาน เป็นต้น

ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ชวนคนไทยสร้างสุขที่ยั่งยืนจัดทัพเหล่ากูรูด้านสุขภาพและความงาม ให้ข้อคิดดีๆ ในงาน "มหัศจรรย์แห่งความสุข"

"ความสุข" คำสั้นๆ ที่ทุกคนในโลกนี้ต่างเสาะแสวงหา แต่หลายคนคงสงสัยว่า "ความสุข" คืออะไร บางคนว่าความสุข คือ ทรัพย์สิน เงินทอง เกียรติยศ การห้อมล้อมไปด้วยคนรัก ซึ่งต่างคนก็ต่างความคิด และต่างเหตุผลที่จะแสวงหาความสุขให้กับตัวเอง แต่หลายคนคงจะไม่รู้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น ไม่ได้หายากอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด แต่ความสุขที่แท้จริงกับอยู่ที่ใจของเรากำหนดเอง คุณแม่จูงลูกมาร่วมกิจกรรมดีๆ ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนได้มีความสุขอย่างยั่งยืน ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ จึงได้จัดเสวนา "มหัศจรรย์แห่งความสุข" เนรมิตเมืองหนังสือเป็นเมืองแห่งความสุขกับกิจกรรมดีๆ ที่เหล่าวิทยากรด้านสุขภาพมาร่วมให้เคล็ดลับการมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ โดยในงานเสวนาได้รับเกียรติจาก นายแพทย์วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน และ คุณสุนีรัตน์ ไม้ทิม บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Simply Living ได้แนะวิธีการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนว่า นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร และ คุณสุนีรัตน์ ไม้ทิม แนะเคล็ดลับการมีสุขภาพที่ดี "ร่างกายที่แข็งแรงต้องเริ่มมาจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกาย ซึ่งปัจจุบันคนเราป่วยเป็นโรคแปลกๆมากขึ้น เพราะเราขาดสองสิ่งนี้ และคนทำงานในปัจจุบันยังนิยมเป็นโรค "ออฟฟิศ ซินโดรม" ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานในท่าเดิมนานๆ ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งการจะรักษาให้หายจากโรคนี้ได้ เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง รู้จักพักผ่อนร่างกายและกล้ามเนื้อ เพราะเวลาทำงาน สมองและกล้ามเนื้อเกิดอาการตึงเครียด เราจึงต้องออกกำลังกาย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้ คนในยุคปัจจุบันยังไม่ค่อยรับประทานผักและผลไม้ บริโภคแต่วิตามินอัดเม็ด ซึ่งวิตามินเหล่านั้นไม่สามารถชดเชยวิตามินจากอาหารธรรมชาติได้อย่างที่คนทั่วไปคิด" บรรยากาศงานมหัศจรรย์แห่งความสุข นอกจากนี้ ยังได้รู้เทคนิคการยืดเส้นยืดสายง่ายๆ ที่สามารถฝึกได้เองใช้เวลาแค่วันละ 10 นาที จากคุณอาภาลักษณ์ พรรคสายชล ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดชั้นนำของเมืองไทย โดยมีท่าบริหาร อย่างการบริหารข้อมือด้วยการยื่นแขนไปข้างหน้า กางนิ้วมือออก เกร็งไว้สักครู่ สลับกับกำมือ ประมาณ 10 ครั้ง หรือท่าบริหารคอ โดยก้มศีรษะให้คางจรดกับหน้าอก ให้รู้สึกตึงบริเวณคอด้านหลัง ค้างไว้ 5-10 วินาที นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์นานๆ ควรเตือนตัวเอง ให้เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์บ้าง โดยให้มองออกไปไกลๆทุก 20 นาทีเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าของสายตา และผ่อนคลายความตึงเครียดอันเป็นสาเหตุของโรคออฟฟิศ ซินโดรมนี้ โรงพยาบาลนครธนมาร่วมตรวจสุขภาพกาย และเมื่อร่างกายได้รับอาหารดีมีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างถูกต้องแล้ว ก็ต้องรู้จักการบริหารใจให้ดีอีกด้วย ซึ่งงานนี้ "ดีเจพี่อ้อย" คุณนภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ดีเจชื่อดังจากคลื่นกรีนเวฟ มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ "สุขใจ สบายกาย" ซึ่งมาแนะนำวิธีการดีๆในการสร้างกำลังใจให้ตนเอง และรู้จักคิดบวกในสถานการณ์ต่างๆ ว่า "ดีเจพี่อ้อย" ร่วมพูดคุยวิธีสร้างเสริมกำลังใจ "คนเราทุกคนย่อมมีสภาวะจิตใจที่ต่างกัน มีวิธีคิดต่างกัน และก็ย่อมมีความสุข ความทุกข์ที่ต่างกันด้วย ดังเช่นในเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา คนต่างจังหวัดที่เคยประสบปัญหาอุทกภัย ต่างรับมือได้ และทุกข์น้อยกว่าคนกรุงเทพฯ ทั้งที่คนกรุงเทพฯน้ำมาสูงแค่เข่าเท่านั้นก็รู้สึกเป็นทุกข์มากเลย จากเหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า หากเราเข้าใจปัญหาทุกอย่าง สร้างกำลังใจให้เกิดความรู้สึกที่ดีขึ้น เริ่มมองเห็นทางออกของปัญหา ยอมรับกับมันก็จะช่วยให้ปัญหาเหล่านั้นคลี่คลายจากหนักก็กลายเป็นเบาขึ้น ความสุขก็จะมีมาเอง แต่สิ่งที่ทุกคนประสบอยู่ นั่นคือ เข้าใจปัญหาดีอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถพาตนเองออกจากปัญหาหรือความทุกข์นั้นได้" ปัจจุบันปัญหาที่ผู้ฟังรายการ Club Friday มากที่สุด อันดับหนึ่งก็คือ เรื่องความรัก โดยเฉพาะการไปรักคนมีเจ้าของ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดศีลธรรมแต่ก็ยังพร้อมจะทำผิดศีลธรรมต่อไป และหลายๆคนยังเข้าใจผิดระหว่างคำว่า "คิดบวก" กับ "หลอกตนเอง" ซึ่งคิดบวกมากเกินไปก็อันตราย การคิดบวกนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง อย่างผู้หญิงคนหนึ่งชอบแต่งตัวเซ็กซี่ๆ แล้ววันหนึ่งคิดว่า เดินผ่านบริเวณที่มีการก่อสร้างหรือที่เปลี่ยวๆ คงไม่โดนข่มขืนหรอก เพราะคิดบวกโดยไม่ได้คิดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ถือว่าเป็นการหลอกตนเอง จริงๆแล้ว การคิดบวกคือการคิดไม่ประมาท และคิดเผื่อในด้านลบด้วยแล้วเตรียมรับมือกับสิ่งนั้น อย่างในกรณีนี้ เราควรคิดกลับกันว่า ถ้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับชั้นล่ะ ทำไมเราไม่เปลี่ยนเส้นทางเดินไปที่อื่นแทนการเดินทางไปยังที่ไม่ปลอดภัย หรือสถานที่เปลี่ยวๆ ยามค่ำคืน แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรแต่งตัวให้มิดชิดสักหน่อย" ข้อคิดดีๆ ที่ดีเจพี่อ้อยกล่าวทิ้งท้ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมฟังการเสวนา คุณจิรัฏฐ์ ฉายะจินดาวงศ์ กับเวิร์คชอป ซุปและสลัดเพื่อ หลังจากฟังวิธีการสร้างสุขที่ยั่งยืน สุขที่มาจากภายในกันแล้ว ในวันนั้น คุณจิรัฏฐ์ ฉายะจินดาวงศ์ อดีตกองบรรณาธิการ Health & Cuisine Magazine ที่ปัจจุบันเป็นกูรูสอนทำอาหารอิสระใน www.facebook.com/thebakingstory ยังได้มาร่วมสาธิตการทำซุปและสลัดเพื่อสุขภาพ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ซึ่งผู้ร่วมงานได้เข้าร่วมเวิร์กชอปทำอาหารร่วมกัน ทั้งเด็กๆ และผู้ปกครองต่างสนุกสนานประชันฝีมือทำอาหารกันอย่างน่าทานทีเดียว นอกจากนี้ สำหรับคนที่รักการอ่าน ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ยังจัดโซนหนังสือเพื่อสร้างความสุขทางด้านจิตใจและหนังสือสุขภาพต่างๆ มาแนะนำให้ผู้อ่านที่สนใจเลือกซื้อเลือกหาจากหลากหลายสำนักพิมพ์ ติดตามกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ได้ที่ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือบนถนนสาทร 12 หรือ www.DoubleAbooktower.com

จับรางวัลครั้งที่ 1 แคมเปญดั๊บเบิ้ล เอ ดั๊บเบิ้ล เฮ เที่ยวฟรีช้อปฟรีที่เกาหลี

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทดั๊บเบิ้ล เอ ( 1991 ) จำกัด (มหาชน) จับรางวัลมอบโชคครั้งที่ 1 ให้กับผู้โชคดี 5 คู่แรก ในแคมเปญ "ดั๊บเบิ้ล เอ ดั๊บเบิ้ล เฮ เที่ยวฟรี ช้อปฟรีที่เกาหลี 10 ล้านวอน" เพื่อรับรางวัลช้อปฟรีและแพ็คเกจท่องเที่ยวประเทศเกาหลีคู่ละ 10 ล้านวอน จำนวน 35 คู่ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 350 ล้านวอน เพียงตัดชิ้นส่วนเปลือกห่อกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ A4 80 แกรม หรือ ดั๊บเบิ้ล เอ คัลเลอร์ พริ้นท์ ขนาด 500 แผ่น พร้อมเขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ รวมถึงชื่อร้านค้า พร้อมจังหวัดและราคาที่ซื้อ แล้วส่งมาที่ ตู้ ปณ.10 ปณ.บางปะกง ฉะเชิงเทรา 24130 โดยจับรางวัลทุกเดือนรวม 7 ครั้ง หมดเขตรับชิ้นส่วน 20 กันยายน 2555 ติดตามรายละเอียดและรายชื่อผู้โชคดีได้ที่ www.DoubleApaper.com หรือ 1759 ดั๊บเบิ้ล เอ ฮอตไลน์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะสำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดลพบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน ที่มีจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เปิดบ้านต้อนรับคณะเยี่ยมชมจากสำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดลพบุรี เพื่อเข้าเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตกระดาษอันทันสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมสนุกกับภาพยนตร์แบบ 4 มิติ เพื่อเรียนรู้โมเดล "กระดาษจากคันนา" มาตรฐานใหม่ของโลกในการผลิตกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถสร้างงานและสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรกว่า 1.5 ล้านราย ในการปลูกต้นกระดาษบนคันนาหรือตามพื้นที่ว่างทางการเกษตรที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการแก้ปัญหาโลกร้อน เพราะกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทุก 1 รีมจะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากบรรยากาศ 12.5 กิโลกรัม

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับรับคณะนักเรียนและคณาจารย์โรงเรียนสวนศรีวิทยา จังหวัดชุมพร

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน เปิดบ้านต้อนรับคณะนักเรียนและคณาจารย์โรงเรียนสวนศรีวิทยา จังหวัดชุมพร เยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยกระดาษดั๊บเบิ้ล เอทุก 1 รีมสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12.5 กิโลกรัม อีกทั้งได้เรียนรู้ปรัชญาการผลิตแบบ "ของเหลือใช้ ไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า" ผ่านการบรรยายและสื่อภาพยนตร์ 4 มิติ ทำให้คณะผู้เยี่ยมชมได้เข้าใจถึง "กระดาษบนคันนา" มากยิ่งขึ้น โดยนำผลพลอยได้จากการผลิต อาทิ เศษไม้ เปลือกไม้ น้ำมันยางไม้ ส่งไปใช้ประโยชน์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ที่ทำให้ได้พลังงานไฟฟ้ามากเพียงพอสำหรับการผลิตและเหลือเพียงพอกับการใช้ของชุมชนอีก 400,000 ครัวเรือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Double A Heroes ที่ผู้ใช้กระดาษทุกคนสามารถกลายเป็นฮีโร่ได้อย่างง่ายๆ

โวยาจพาเที่ยว3 สไตล์ ใกล้กรุง

โวยาจ นิตยสารท่องเที่ยวสำหรับคนทำงานรุ่นใหม่ พาไปเที่ยวนอนดูฟ้าใส ท้าแดดสวย ใกล้ๆ กรุง กับ 3 เส้นทาง 3 สไตล์การท่องเที่ยว ได้แก่ นอนเอนกาย ดูดาว เข้าโบราณสถาน เข้าวัดและพิพิธภัณฑ์ที่เขาใหญ่ ว่ายน้ำกลางทะเลใสๆ นอนอาบแดด เดินเล่นบนชายหาดขาวๆ ที่เกาะล้าน หรือไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยที่องค์พระปฐมเจดีย์ ก่อนจะแวะชมหุ่นขี้ผึ้งและช้อปชิมอาหารอร้อยอร่อยและที่นครปฐม 3 เส้นทางสุดฮิตที่เรียกได้ว่า ไม่ไกล ไปง่าย และเที่ยวได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ยังแถมอีก 3 ทริปผจญภัย เริ่มต้นไปดำน้ำที่เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามด้วย Unseen in Thailand พาขึ้นเขาสามพันโบก จ.อุบลราชธานี และปิดท้ายด้วยไปชิมน้ำตาลมะพร้าว หอมหวาน ที่แม่กลอง จ.สมุทรสงคราม