Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

    นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมมือกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย จัดโครงการประกวด “สื่อรณรงค์”การใช้กระดาษจาก “ไม้ปลูก” เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และเป็นโอกาสในการเรียนรู้เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าใจเกี่ยวกับที่มาของวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นกระดาษในปัจจุบันมากขึ้น   เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนทั่วไป ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกระดาษในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกระดาษต้องมาจากการตัดไม้ทำลายป่าจากธรรมชาติเท่านั้น

    จากข้อมูลของ The International Institute for Environment and Development พบว่า วัตถุดิบในการผลิตกระดาษของโลก ส่วนใหญ่ยังคงใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ โดยเป็นกระดาษที่ผลิตจากการตัดป่าธรรมชาติและปล่อยให้ป่าฟื้นตัวเองในสัดส่วนประมาณ 17 % กระดาษที่ผลิตจากป่าธรรมชาติและมีการปลูกป่าทดแทน 37 % และผลิตจากป่าฝนเมืองร้อน 1 % แต่สำหรับผู้ผลิตกระดาษในประเทศไทยหลายราย สามารถใช้วัตถุดิบจากไม้ปลูกในการผลิตได้แล้ว โดยไม่ต้องอาศัยไม้จากป่าธรรมชาติ

    “ดั๊บเบิ้ล เอใช้เวลากว่า 25 ปีในการพัฒนาพันธุ์ไม้ปลูกสำหรับเกษตรกร เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษในประเทศไทยได้อย่างมีคุณภาพ โดยมีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกแล้วกว่า 1 ล้านครอบครัว ใช้เวลาปลูกเพียง 3-5 ปี ขณะที่ผู้ผลิตบางประเทศยังต้องอาศัยไม้จากธรรมชาติอายุนับร้อยปีเป็นวัตถุดิบ ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นการทำลายป่าไม้แล้ว การส่งเสริมให้มีการปลูกไม้ ยังเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนกับเกษตรกรภายในประเทศไทยจากการปลูกไม้ และงานต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี” นายชาญวิทย์กล่าว

    สำหรับการประกวดสื่อรณรงค์ “การใช้กระดาษจากไม้ปลูก” จะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1.ประเภทการออกแบบโปสเตอร์ และ2.ประเภทภาพยนตร์โฆษณา ความยาว  30 วินาที หรือ 45 วินาที ไม่จำกัดเทคนิคโดยทั้ง 2 ประเภท จะมีการประกวด 2 ระดับ คือ ระดับอุดมศึกษา และระดับประชาชนทั่วไป  ส่วนประเภทที่ 3 คือ ประเภทลายสกรีนเสื้อยืด จะประกวด 1 ระดับ คือ ระดับมัธยมศึกษา โดยสื่อทุกประเภทที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีเนื้อหารณรงค์ชักชวนให้คนไทยคำนึงถึงแหล่งที่มาที่แน่ชัดของวัตถุดิบกระดาษก่อนตัดสินใจเลือกใช้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกระดาษจาก “ไม้ปลูก”ของเกษตรกร รวมทั้งต้องสามารถกระตุ้นให้ผู้ที่ได้รับสื่อตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรกระดาษอย่างถูกต้องและคุ้มค่า โดยจะเปิดรับผลงานตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2550 นี้

    ดร.ไชยยศ  บุญญากิจ รองประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน และผู้บริโภค เกี่ยวกับวัตถุดิบที่นำมาผลิตกระดาษ ว่ามิได้มาจากการทำลายป่าไม้เพียงอย่างเดียว ยังมีกระดาษที่สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกไม้ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนรักษ์ธรรมชาติอีกทางหนึ่ง โดยในภาพรวมหากผู้บริโภคกระดาษทั่วโลกสนับสนุนการใช้หรือการผลิตกระดาษจากไม้ปลูก ก็จะกลายเป็นแรงผลักดันให้ลดการตัดไม้จากป่าธรรมชาติมาผลิตกระดาษได้ โดยเฉพาะในขณะที่ทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะโลกร้อน การไม่ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ ก็ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี

    สำหรับผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวดต้องส่งผลงานด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ มาที่ โครงการประกวดสื่อรณรงค์“การใช้กระดาษจากไม้ปลูก” Paper From Farmed Trees เลขที่ 238/3-4 ซ.สายน้ำทิพย์ 2 ถ.สุขุมวิท 22 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม.10110 หรือ โทร.0-2663-3226 ต่อ 64  ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2550

 ---------------------------

Source of Paper Production in the world

By The International Institute for Environment and Development.

 37% from natural forest that is logged and then re-generated via seedling

17% from logging natural forest and left to regenerate without human assistance

15% from original boreal forest (boreal forest are located in the high latitudes of the northern hemisphere and are untouched by human intervention)

1% from the tropical rainforest

1% original temperate hardwood forest (forest found in temperate regions of the world)

29% from managed plantations

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ ได้รับมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ 3 ปีซ้อน

เมื่อเร็วๆ นี้ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบรางวัลมาตรฐานคุณภาพธุรกิจแฟรนไชส์ ประจำปี 2012 (Thailand Franchise Quality Award 2012) ให้กับ ศูนย์ถ่ายเอกสาร ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ โดยมีนายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เข้ารับมอบ เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองว่าเป็นธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ มีความน่าเชื่อถือ สามารถตัดสินใจเข้าร่วมทำธุรกิจเป็นแฟรนไชส์ได้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ได้รับการรับรองมาตรฐานมา 3 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2552 จากการประเมินทุก 2 ปี สำหรับดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ เป็นธุรกิจศูนย์ถ่ายเอกสารครบวงจร ด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวมทั้งมีการจัดการและการทำตลาดอย่างเป็นระบบ ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดเล็กให้อยู่รอดอย่างมั่นคง ปัจจุบันมีศูนย์ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์กว่า 500 ศูนย์ทั่วประเทศ

ดั๊บเบิ้ล เอ สนับสนุนจัดแรลลี่เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินี เพื่อลดโลกร้อน

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ ( 1991 ) จำกัด (มหาชน) มอบต้นกระดาษให้กับ นายจรัลธาดา กรรณสูต ที่ปรึกษาสำนักราชเลขาธิการ พร้อมงบประมาณเพื่อสนับสนุนจัดแรลลี่เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ "80 พรรษามหาราชินี" ของราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย โดยมีกิจกรรมให้ผู้เข้าแข่งขันร่วมกันปลูกต้นกระดาษ เพื่อลดโลกร้อน ณ วัดเขาพระ จ.สระบุรี ในเส้นทางแรลลี่สู่เขาใหญ่ โดยรายได้จากการจัดแรลลี่จะนำทูลเกล้าถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ส่งเสริมรักการอ่าน ต้อนรับโรงเรียนเบญจวรรณศึกษา

เมื่อเร็วๆ นี้ ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทยบนถนนสาทร 12 จัดกิจกรรมพาคณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนเบญจวรรณศึกษา เยี่ยมชมเมืองหนังสือ ที่รวบรวมหนังสือหลากหลายประเภทจากสำนักพิมพ์ต่างๆกว่า 1,000 แห่งให้เยาวชนไทยได้เลือกสรร และเป็นแหล่งพักผ่อนให้เยาวชนไทยได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมทำกิจกรรมสันทนาการเพื่อฝึกทักษะตามหมวดวิชา และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนให้เด็กไทยรักการอ่าน และเตรียมตัวเข้าสู่เมืองหนังสือโลก ในฐานะที่ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เป็นหนึ่งในภาคีผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งการอ่าน ในปี พ.ศ.2556 (World Book Capital 2013) ตามนโยบายของ UNESCO สำหรับผู้สนใจสามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.doubleabooktower.com

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมโครงการ "รวมแรงไทย รักษาน้ำใสทุกคูคลอง"

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา เพื่อลดโลกร้อน รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณในโครงการ "รวมแรงไทย รักษาน้ำใสทุกคูคลอง" จาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ดั๊บเบิ้ล เอ เข้าร่วมสนับสนุนโครงการเพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนในชุมชนช่วยกันดูแลรักษาคูคลองอันเป็นเส้นทางระบายน้ำในเขตกรุงเทพมหานครให้มีประสิทธิภาพ ลดปัญหาการอุดตัน ไม่ให้เกิดผลกระทบดังเช่นมหาอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว ณ ลานเอนกประสงค์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

Double A ชวนร่วมสนุก รับฟรี!! บัตรชมภาพยนตร์ 60 ที่นั่ง พร้อมลุ้นรับรางวัลกว่า 20,000 บาท

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการตัดสินคัดเลือกผลงานของผู้ที่มีไอเดียเด็ดๆ โดนๆ เกี่ยวกับวิธีลดโลกร้อน สร้างโลกสีเขียวแล้ว สำหรับกิจกรรม "ปลูกรอยยิ้มกับกระดาษจากคันนา" ชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า 20,000 บาท และเจ้าของผลงานที่เข้ารอบ จำนวน 20 ผลงาน ยังสามารถชวนเพื่อน เพื่อไปร่วมทริปสุด excusive กับซุป’ตา คมเข้ม พี่ปอ-ทฤษฎี อีกด้วย แค่นี้ยังไม่พอ Double A ใจดี อยากแจกแบบดั๊บเบิ้ล! พิเศษสำหรับ 30 ท่านแรกที่ส่งผลงานทั้งภาพนิ่งและคลิปวิธีโอ ภายใต้แนวคิด "คุณก็ปลูกรอยยิ้มได้" ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายนนี้ รับไปเลย..บัตรชมภาพยนตร์ 60 ที่นั่ง!! ฟรี!! ผู้ที่ส่งผลงานแล้วกรุณาส่งมาแจ้งมาที่ eventinfo@doublea1991.com แล้วทางทีมงานจะติดต่อกลับไป อ่านกติการ่วมสนุกและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ปลูกรอยยิ้มกับกระดาษจากคันนา.com *ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงของรางวัลในมูลค่าที่เท่ากันโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมสนับสนุน โครงการ "ประติมากรรมใต้ทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ" แห่งแรกในไทย ฟื้นฟูธรรมชาติใต้ท้องทะเลอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ส่งผลกระทบต่อโลกของเราอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตแผ่นดินไหว อุทกภัย การเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ทั้งจากความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติด้วยกันเอง และที่สำคัญคือจากฝีมือมนุษย์ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อรักษาโลกของเรา ด้วยเหตุนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา เพื่อลดโลกร้อน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและแนวคิดในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง จึงร่วมกับจังหวัดตราด สนับสนุนโครงการ "ประติมากรรมใต้ทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ" ขึ้น เนื่องจากปัญหาความเสื่อมโทรมใต้ทะเล โดยเฉพาะปะการัง ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ปะการังฟอกขาว ทำให้ปลาน้อยใหญ่และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลดจำนวนลงเรื่อยๆ โครงการนี้จึงเป็นอีกทางหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูและอนุรักษ์ธรรมชาติใต้ทะเลให้กลับคืนมา และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สวยงามอีกด้วย