Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

    นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมมือกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย จัดโครงการประกวด “สื่อรณรงค์”การใช้กระดาษจาก “ไม้ปลูก” เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และเป็นโอกาสในการเรียนรู้เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าใจเกี่ยวกับที่มาของวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นกระดาษในปัจจุบันมากขึ้น   เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนทั่วไป ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกระดาษในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกระดาษต้องมาจากการตัดไม้ทำลายป่าจากธรรมชาติเท่านั้น

    จากข้อมูลของ The International Institute for Environment and Development พบว่า วัตถุดิบในการผลิตกระดาษของโลก ส่วนใหญ่ยังคงใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ โดยเป็นกระดาษที่ผลิตจากการตัดป่าธรรมชาติและปล่อยให้ป่าฟื้นตัวเองในสัดส่วนประมาณ 17 % กระดาษที่ผลิตจากป่าธรรมชาติและมีการปลูกป่าทดแทน 37 % และผลิตจากป่าฝนเมืองร้อน 1 % แต่สำหรับผู้ผลิตกระดาษในประเทศไทยหลายราย สามารถใช้วัตถุดิบจากไม้ปลูกในการผลิตได้แล้ว โดยไม่ต้องอาศัยไม้จากป่าธรรมชาติ

    “ดั๊บเบิ้ล เอใช้เวลากว่า 25 ปีในการพัฒนาพันธุ์ไม้ปลูกสำหรับเกษตรกร เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษในประเทศไทยได้อย่างมีคุณภาพ โดยมีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกแล้วกว่า 1 ล้านครอบครัว ใช้เวลาปลูกเพียง 3-5 ปี ขณะที่ผู้ผลิตบางประเทศยังต้องอาศัยไม้จากธรรมชาติอายุนับร้อยปีเป็นวัตถุดิบ ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นการทำลายป่าไม้แล้ว การส่งเสริมให้มีการปลูกไม้ ยังเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนกับเกษตรกรภายในประเทศไทยจากการปลูกไม้ และงานต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี” นายชาญวิทย์กล่าว

    สำหรับการประกวดสื่อรณรงค์ “การใช้กระดาษจากไม้ปลูก” จะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1.ประเภทการออกแบบโปสเตอร์ และ2.ประเภทภาพยนตร์โฆษณา ความยาว  30 วินาที หรือ 45 วินาที ไม่จำกัดเทคนิคโดยทั้ง 2 ประเภท จะมีการประกวด 2 ระดับ คือ ระดับอุดมศึกษา และระดับประชาชนทั่วไป  ส่วนประเภทที่ 3 คือ ประเภทลายสกรีนเสื้อยืด จะประกวด 1 ระดับ คือ ระดับมัธยมศึกษา โดยสื่อทุกประเภทที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีเนื้อหารณรงค์ชักชวนให้คนไทยคำนึงถึงแหล่งที่มาที่แน่ชัดของวัตถุดิบกระดาษก่อนตัดสินใจเลือกใช้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกระดาษจาก “ไม้ปลูก”ของเกษตรกร รวมทั้งต้องสามารถกระตุ้นให้ผู้ที่ได้รับสื่อตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรกระดาษอย่างถูกต้องและคุ้มค่า โดยจะเปิดรับผลงานตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2550 นี้

    ดร.ไชยยศ  บุญญากิจ รองประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน และผู้บริโภค เกี่ยวกับวัตถุดิบที่นำมาผลิตกระดาษ ว่ามิได้มาจากการทำลายป่าไม้เพียงอย่างเดียว ยังมีกระดาษที่สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกไม้ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนรักษ์ธรรมชาติอีกทางหนึ่ง โดยในภาพรวมหากผู้บริโภคกระดาษทั่วโลกสนับสนุนการใช้หรือการผลิตกระดาษจากไม้ปลูก ก็จะกลายเป็นแรงผลักดันให้ลดการตัดไม้จากป่าธรรมชาติมาผลิตกระดาษได้ โดยเฉพาะในขณะที่ทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะโลกร้อน การไม่ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ ก็ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี

    สำหรับผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวดต้องส่งผลงานด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ มาที่ โครงการประกวดสื่อรณรงค์“การใช้กระดาษจากไม้ปลูก” Paper From Farmed Trees เลขที่ 238/3-4 ซ.สายน้ำทิพย์ 2 ถ.สุขุมวิท 22 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม.10110 หรือ โทร.0-2663-3226 ต่อ 64  ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2550

 ---------------------------

Source of Paper Production in the world

By The International Institute for Environment and Development.

 37% from natural forest that is logged and then re-generated via seedling

17% from logging natural forest and left to regenerate without human assistance

15% from original boreal forest (boreal forest are located in the high latitudes of the northern hemisphere and are untouched by human intervention)

1% from the tropical rainforest

1% original temperate hardwood forest (forest found in temperate regions of the world)

29% from managed plantations

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ รับรางวัลสุดยอดแบรนด์ชั้นนำ "Superbrands" 4 ปีซ้อน

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ รับรางวัลสุดยอดแบรนด์ชั้นนำ “Superbrands” ประจำปี 2013 จากมร.ไมค์ อิงลิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ องค์กรซุปเปอร์แบรนด์ โดย ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งผ่านการคัดเลือกจากผู้บริโภคและคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในหลากหลายสาขาอาชีพ ให้ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นสุดยอดแบรนด์ด้วยความเป็นผู้นำตลาด ความแข็งแกร่งของแบรนด์ ความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค จากการสำรวจทางการตลาดทั้งหมดกว่า 650 แบรนด์ ใน 37 กลุ่มผลิตภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอและกทม. ชวนบรรณารักษ์ สร้างห้องสมุดในฝัน ส่งเสริมเด็กไทยรักการอ่าน

การอ่านคือการเปิดโลกกว้าง เปิดมุมมองจากความคิดของผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือ และสำนวนที่หลากหลายชวนติดตาม โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาชี้ว่าร้อยละ 80-90 ของความรู้และข้อมูลที่มนุษย์ต้องการ ค้นหาได้จากการอ่าน นอกจากนี้ การอ่านยังเป็นช่องทางในการเสริมสร้างจินตนาการและความคิด ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์อีกด้วย ดั๊บเบิ้ล เอ เล็งเห็นความสำคัญของการอ่านและได้มีการส่งเสริมสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จัดงานสัมมนาบรรณารักษ์ประจำปี 2556 ภายใต้หัวข้อ “ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ชวนบรรณารักษ์ สร้างห้องสมุดในฝัน” เพื่อส่งเสริมให้อาจารย์และบรรณารักษ์ได้นำความรู้ไปพัฒนาห้องสมุดภายในโรงเรียนและในชุมชนให้เป็นห้องสมุดในฝันของเด็กๆ โดยมี ศาสตราจารย์คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต นายกสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย และอาจารย์เจริญ มุศิริ ครูเกียรติยศ สาขาบรรณารักษศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ให้เกียรติมาเป็นวิทยากรสร้างสรรค์สังคมรักการอ่าน ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากครูบรรณารักษ์จากโรงเรียนต่างๆ และเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ห้องสมุดชุมชน กรุงเทพมหานคร มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก การสัมมนาเริ่มด้วยการบรรยายของอาจารย์เจริญ มุศิริ ที่ชักชวนเหล่าบรรณารักษ์จัดกิจกรรมในห้องสมุดเพื่อเป็นการจูงใจเด็กๆ เข้ามาใช้ห้องสมุดมากยิ่งขึ้น โดยการนำบทเรียนมาบูรณาการเข้ากับกิจกรรมที่สนุกสนานทั้งร้อง เล่น เต้น รำ สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เด็กๆสนใจในกิจกรรมและซึมซับเนื้อหาสาระไปโดยไม่รู้ตัวและเกิดการจดจำได้ง่าย “การสร้างห้องสมุดในฝันจำเป็นต้องมีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือการมีส่วนร่วมของคนในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐและเอกชน โดยเริ่มจากครอบครัวที่จะต้องปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านตั้งแต่เด็ก ซึ่งควรเริ่มจากการอ่านจากภาพ เพื่อสร้างจินตนาการในการคิด แล้วค่อยพัฒนาการอ่านเป็นหนังสือประเภทอื่นๆต่อไป ในส่วนของโรงเรียนก็ควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการความรู้กับกิจกรรมสันทนาการเพื่อจูงใจเด็กนักเรียน เช่นการจัดประกวดทักษะต่างๆ หรือกิจกรรมบันทึกการอ่าน โดยมีการเสริมเรื่องของรางวัลเพื่อจูงใจ และส่วนสุดท้ายชุมชนต้องให้ความสำคัญกับการอ่านด้วยเช่นกัน มีกิจกรรมให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง” อาจารย์เจริญ กล่าว ขณะที่คุณสุนิสา ปานเจริญ เจ้าพนักงานห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ กรุงเทพมหานคร (เขตลาดกระบัง) เล่าว่า “การได้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ได้ความรู้และแนวทางในการจัดบรรยากาศห้องสมุดให้ดึงดูดประชาชนเข้ามาใช้บริการ โดยปกติห้องสมุดประชาชน เขตลาดกระบัง ก็มีการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดประชาชนอยู่แล้ว แต่การได้เข้าร่วมการอบรมทำให้มีแนวคิดทางด้านการจัดกิจกรรมใหม่ๆ เปิดมุมมองใหม่ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของบรรณารักษ์อีกด้วย” ต่อด้วยช่วงบ่ายที่เป็นการบรรยายของผู้ทรงคุณวุฒิที่อยู่ในวงการศึกษาไทยมานานอย่าง ศ.คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต นายกสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ที่นำประสบการณ์ในการทำงานมาเล่าสู่กันฟัง ถึงการผลักดันกิจกรรมห้องสมุดให้เป็นที่แพร่หลาย โดยท่านได้ให้แนวคิดของการจัดห้องสมุดให้เป็นห้องสมุดในฝันว่า “การจัดห้องสมุดให้อยู่ในพื้นที่เข้าถึงได้ง่าย สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ให้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่ายขึ้น ซึ่งห้องสมุดระดับโลกมักจะสร้างรูปลักษณ์การดีไซน์ที่ทันสมัย อย่างเช่น Salt Lake City Public Library ในสหรัฐอเมริกา ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามใหญ่โต และยังมีการสร้างบรรยากาศด้วยการเปิดเพลงคลอให้ผู้ใช้บริการเพลิดเพลิน รวมถึงการจัดหาหนังสือให้ครอบคลุมความต้องการของผู้อ่าน และที่สำคัญการสร้างห้องสมุดในประเทศไทย ภาครัฐควรส่งเสริมงบประมาณที่จะสามารถจัดหาหนังสือดีมีคุณภาพ สื่ออิเล็กโทรนิกส์ และการเพิ่มจำนวนห้องสมุดให้มีเพียงพอใช้งาน หรือเพียงแบ่งงบประมาณร้อยละ 5 ของงบประมาณแผ่นดินก็สามารถสร้างห้องสมุดที่ดีมีคุณภาพไว้ให้ประชาชนใช้บริการได้แล้ว” ส่วนผู้ร่วมเข้าฟังสัมมนาอย่าง คุณเอื้อมพร พรหมนรกิจ ครูบรรณารักษ์ โรงเรียนประดิษฐารามวิทยาคม กล่าวว่า จากการสัมมนาในวันนี้ก็ได้ความคิดใหม่ๆ ที่จะนำไปเป็นเทคนิคปรับใช้กระตุ้นความคิดของเด็กนักเรียนให้เกิดความสนใจ ก็จะช่วยนำไปสู่การอ่านให้มีมากขึ้น เช่น ผ่านการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ที่สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ ซึ่งจะทำให้เด็กนักเรียนเข้ามาใช้ห้องสมุดมากขึ้น การสัมมนา “ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ชวนบรรณารักษ์ สร้างห้องสมุดในฝัน” ในครั้งนี้ จะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนหนึ่ง ที่ดั๊บเบิ้ล เอ และกรุงเทพมหานคร ต้องการส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมอุดมปัญญา ปลูกฝังให้เกิดนิสัยรักการอ่านอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเยาวชนไทย ซึ่งเป็นอนาคตอันสำคัญของประเทศชาติ เราคงไม่อยากหยุดสถิติการอ่านของคนไทยไว้ที่ปีละ 5 เล่มเท่านั้น แต่เราหวังไว้ว่านิสัยรักการอ่านจะอยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของคนไทยทุกเพศและทุกวัย

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบรางวัลพนักงานจัดส่งดีเด่นด้านประหยัดเชื้อเพลิง

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน ทำพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับพนักงานจัดส่งดีเด่นด้านประหยัดเชื้อเพลิง โดยมีนายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ ให้เกียรติมอบเกียรติบัตรและเงินรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจและยกย่องพนักงานที่มีผลงานด้านการควบคุมปริมาณการใช้เชื้อเพลิงดีเยี่ยม โดยกิจกรรมนี้ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 1.2 ล้านบาท เทียบเท่ากับการลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 44,502 กิโลกรัม และจะยังคงดำเนินการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหนึ่งในการมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงานและใช้พลังงานสะอาด หลังจากเมื่อปี 2549 ดั๊บเบิ้ล เอ มีโมเดลความสำเร็จในการพัฒนารถบรรทุกที่ติดตั้งและใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซ NGV เป็นรายแรกของประเทศไทย

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน เปิดบ้านต้อนรับคณะนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือ AIT (Asian Institute of Technology) เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และศึกษาโมเดล “กระดาษจากคันนา” ช่วยสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรจากการปลูกต้นกระดาษบนคันนาหรือพื้นที่ว่างทางการเกษตรให้เกิดประโยชน์และเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยลดโลกร้อน พร้อมทั้งเรียนรู้แนวคิดของเหลือใช้ไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า ด้วยการนำของเหลือจากการผลิตเยื่อและกระดาษมาเป็นเชี้อเพลิงชีวมวลผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าใช้ในกลุ่มโรงงานและเหลือพอกับการใช้ของชุมชนโดยรอบ

ดั๊บเบิ้ล เอ รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว CSR-DIW Award

อิมแพค เมืองทองธานี - นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เข้ารับรางวัล CSR-DIW Award ปี 2556 จากกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้โครงการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างมีส่วนร่วม (Corporate Social Responsibility, Department of Industrial Works: CSR-DIW) ซึ่งต้องการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมนำแนวคิดด้านความรับผิดชอบต่อสังคมมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สามารถเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน โดยดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมเกษตรกรให้มีรายได้เสริมจากการปลูกต้นกระดาษบนคันนาที่ว่างเปล่า และมีส่วนช่วยลดโลกร้อน