Follow us

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรมส่งเสริมเยาวชนรักษ์ภาษาไทย

ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผู้คนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม จากการพบปะพูดคุยกัน มาเป็นการสื่อสารข้อความตัวอักษรผ่านอุปกรณ์สื่อสารในโลกออนไลน์ ส่งผลให้การใช้ภาษาไทยผิดเพี้ยน โดยเฉพาะการอ่านและเขียน ที่ใช้ตัวสะกดและคำศัพท์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ภาษาไทย อันเป็นเอกลักษณ์ล้ำค่าที่บ่งบอกความเป็นไทย จะถูกกลืนไปตามเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่


ด้วยเหตุนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จึงร่วมสนับสนุนการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ ของศาลอุทธรณ์ภาค 3 โดยมีกิจกรรมการแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย พร้อมทั้งการจัดเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยร่วมกันอนุรักษ์ภาษาไทยและใช้ภาษาอย่างถูกต้องตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ณ อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กรุงเทพมหานคร

คุณสมพงษ์ คุณกรรณิกา และคุณกนก ร่วมเสวนา หัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา"

สำหรับงานในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 จัดขึ้น ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีนักเรียนเข้าร่วมงานกว่า 200 คน จากทั้งหมด 10 โรงเรียน โดยช่วงแรกเป็นการเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ที่ได้รับเกียรติจากคุณสมพงษ์ เหมวิมล ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นผู้ดำเนินการเสวนา และคุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้ผลิตรายการเวทีวาที พร้อมด้วยคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์และผู้บริหารในเครือเดอะเนชั่น ให้เกียรติร่วมเสวนาในครั้งนี้ ซึ่งมีข้อคิดดีๆในมุมมองนักสื่อสารมวลชนเกี่ยวกับภาษาไทยในยุคนี้ที่น่าสนใจเลยทีเดียว

คุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ ถ่ายภาพร่วมกับคุณบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ คุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตพิธีกร และน้องๆ นักเรียน

"ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาของความรู้สึก ส่วนใหญ่เรามักจะใช้ภาษาไทยไปอย่างไม่มีสติ เช่น เจอหน้าเพื่อน ก็ทักไปว่า มาแล้วเหรอ ทั้งที่เห็นเขาเดินมา การใช้ภาษาลักษณะนี้ถือว่าใช้อย่างฟุ่มเฟือย ไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้ ถ้าถามว่า ไปไหนมา หรือ ทานข้าวแล้วหรือยัง จะดูถูกต้องกว่า" คุณกรรณิกา อดีตพิธีกรชื่อดัง ผู้ซึ่งคร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์ไทยมานาน และเป็นผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลเมขลา เกริ่นนำการเสวนา และเพิ่มเติมว่า ที่ตนเองพูดจาเพราะ และออกเสียงได้ชัดถ้อยชัดคำ เพราะผู้ใหญ่สมัยนั้นพูดจากันไพเราะมาก เด็กจึงหัดจำและเลียนแบบกันมา นอกจากนี้คุณกรรณิกายังแนะนำให้ฝึกฝนการใช้ภาษาไทย ด้วยการ "จำแต่สิ่งดีๆ แล้วนำมาใช้" ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่เพียงเฉพาะการฝึกภาษาไทยเท่านั้น

บรรยากาศงานเสวนา

คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ก็ได้เสริมเรื่องการใช้ภาษาไทยเพิ่มเติมว่า "เด็กในปัจจุบันต่างพูดไม่จบคำ ไม่จบประโยค ออกเสียงไม่ถูกอักขรวิธีเหมือนคนสมัยก่อน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เด็กใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเองและหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีปฏิสัมพันธ์กับรอบข้างน้อยลง ทำให้เด็กขาดความมั่นใจตนเอง ไม่กล้าสบตาผู้อื่นเวลาพูด และไม่สามารถเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ถ่ายทอดออกมาให้ผู้ฟังได้" ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยตรงกับหลานของคุณกนกเองที่อยู่ชั้นมัธยมศึกษา และเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้น คุณกนกก็พยายามพัฒนาหลานตนเอง ด้วยการฝึกให้หลานเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในโรงเรียนให้ฟังทุกวัน เพื่อให้มีความมั่นใจและกล้าพูดกล้าแสดงออกมากขึ้น นอกจากนี้ด้วยวิธีการเรียนของเด็กในปัจจุบันก็มีส่วนให้ทักษะการใช้ภาษาไทยแย่ลง ไม่มีการฝึกท่องอาขยาน หรือฝึกเขียนไทย เหมือนเด็กสมัยก่อนอีกด้วย


สถานการณ์ที่คุณกนกกล่าวมา เป็นปัญหาสำคัญของเด็กไทยสมัยนี้ และมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมจัดงานเสวนา "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ขึ้น ด้วยหวังว่า น้องๆ นักเรียนซึ่งต่อไปจะเป็นอนาคตของชาติ ได้เป็นตัวแทนในการช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทยที่ถูกต้องต่อไป

บรรยากาศการแข่งขัน

ในขณะที่นักเรียนส่วนหนึ่งกำลังรับฟังการเสวนา อีกห้องหนึ่งก็มีกิจกรรมแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย ซึ่งก็ได้เปิดรับสมัครนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เข้าร่วมแข่งขัน มีผู้ผ่านคัดเลือกเข้าสู่รอบตัดสินทั้งสิ้น 20 คน โดยทุกคนต่างก็เตรียมตัวกันเต็มที่ เพื่อประลองแข่งขันเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง ซึ่งจะกำหนดให้เขียนประเภทละ 15 คำ รวมทั้งหมด 30 คำ โดยคำศัพท์ที่นำมาแข่งขันในคราวนี้ นอกจากเป็นคำภาษาไทยที่ใช้กันทั่วไปแล้ว ยังนำภาษากฏหมายที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นหรือใช้มาก่อน ถือได้ว่าเป็นการวัดความรู้ความสามารถของแต่ละคนกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะภาษากฏหมายที่ไม่ได้อยู่ในตำราเรียนของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

น้องสุธัญญา ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน และน้องศรีนรัตน์ ได้รับรางวัลชมเชย

โดยผู้ชนะการแข่งขันอันดับที่ 1 ในครั้งนี้ คือ นางสาวสุธัญญา สนธยาสาระ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหอวัง ซึ่งสมัครเข้ามาร่วมแข่งขัน เพราะสนใจด้านกฏหมาย และอยากเป็นผู้พิพากษา "หนูชอบกฏหมายมากเลยค่ะ พออาจารย์บอกว่า เปิดแข่งขันอยู่ ก็ไม่ลังเลรีบสมัครเข้ามาเลย โดยหนูเตรียมตัวด้วยการอ่านหนังสือประมวลกฏหมายค่ะ ประมาน 1 สัปดาห์ การแข่งขันครั้งนี้คำศัพท์ยากมากเลย ยกตัวอย่างเช่นคำว่า ฉัททันต์ ที่แปลว่า ช้าง เป็นคำที่หนูไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ"

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ มอบกระดาษและอุปกรณ์เครื่องเขียนแก่ นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓

และผู้ที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะของน้องสุธัญญาคือ อาจารย์อรินยา สถิรชาติ หัวหน้ากลุ่มสาระภาษาไทย โรงเรียนหอวัง ซึ่งอาจารย์ได้บอกว่า "ชัยชนะครั้งนี้เหนือความคาดหมายมาก เพราะเวลากระชั้นชิด ไม่ทันได้เตรียมตัว แต่ก็ให้ลูกศิษย์พยายามทำให้ดีที่สุด" และเมื่อถามถึงความเห็นของอาจารย์ต่อการใช้ภาษาในอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน อาจารย์ได้ให้ความเห็นไว้ว่า "โดยส่วนตัวครูไม่ว่าถ้านักเรียนจะใช้คำศัพท์แปลกๆในอินเทอร์เน็ต แต่ควรพิจารณาด้วยว่า คำเหล่านั้นสามารถนำมาใช้กับบุคคลทั่วไปได้หรือไม่ ควรใช้ภาษาแบบใดจึงจะถูกกาลเทศะ และควรคำนึงถึงสังคม สถาบัน ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของตนเองด้วย"

อย่างไรก็ตามน้องๆ ผู้ที่พลาดจากการแข่งขันนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพราะการมาแข่งขันเขียนไทยคราวนี้ เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้น้องๆ รู้ว่า การเข้ามาทำงานในโลกของศาลยุติธรรมนั้น น้องๆ จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง และรู้คำศัพท์เพิ่มเติมที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต่อในอนาคต ดังเช่นความเห็นของน้องศรีนรัตน์ พงษ์ประภาชื่น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ที่ได้รับรางวัลชมเชยในครั้งนี้ "หนูต้องขอขอบคุณศาลอุทธรณ์ภาค 3 และผู้ใหญ่ทุกท่านมากค่ะ ที่ให้โอกาสหนูมาร่วมงานนี้ และได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเตรียมสอบเป็นผู้พิพากษาอย่างที่หนูใฝ่ฝันไว้ค่ะ ก่อนหน้านี้หนูก็เคยมาแข่งอ่านกฏหมายที่นี่ และถ้าทางศาลจัดงานอะไรในอนาคต หนูก็จะมาอีกค่ะ"

นายวัฒนา วิทยกุล รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ และผู้ได้รับรางวัลการแข่งขันเขียนไทย

งานแข่งขันเขียนไทยในวันนั้นจบลงด้วยดี และน้องๆ นักเรียนทุกคนก็ได้ให้คำปฏิญาณว่า ทุกคนจะช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้อย่างสุดความสามารถ ตามคำกล่าวของคุณกรรณิกาที่ว่า "โปรดจงอย่าลืมรากเหง้าของความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษาไทยที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้เรา และยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน"

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ สนับสนุนความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบผลิตภัณฑ์ Double A Care อาทิ สเปรย์แอลกอฮอล์, เจลแอลกอฮอล์ และทิชชูเปียก เพื่อดูแลสุขอนามัย พร้อมเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานในจุดตรวจช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ทั้ง 16 จุด โดยเป็นจุดตรวจบนเส้นทางหลัก 2 จุด และเส้นทางรอง 14 จุด ในพื้นที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ตามมาตรการลด-ป้องกันอุบัติเหตุ โดยมี นายคเชนทร์ เที่ยงมณี ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้แทนรับมอบในครั้งนี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะจาก ASEAN FORESTRY DEAN FORUM

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม ASEAN FORESTRY DEAN FORUM ซึ่งประกอบด้วยคณาจารย์ และผู้แทนนิสิตจากคณะวนศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน นำโดยดร. กฤษฎาพันธุ์ ผลากิจ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตกระดาษคุณภาพด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ทั่วโลก ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ พร้อมกันนี้ ยังได้เข้าใจถึงที่มาของวัตถุดิบจากไม้ปลูกของเกษตรกรไทยที่ช่วยสร้างรายได้เสริมและเพิ่มพื้นที่สีเขียว มีส่วนช่วยลดโลกร้อน ผ่านการนำเสนอด้วยภาพยนตร์ระบบ 4 มิติ ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ ผนึก ศุภาลัย ชวนทำดีในโครงการ Hero Zero เพื่อสิ่งแวดล้อมและการศึกษา

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลังร่วมกับ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการ Hero Zero by Double A X Supalai ชวนเก็บกระดาษใช้แล้ว นำไปรีไซเคิล ตั้งเป้ารวมกระดาษใช้งานแล้ว 12,000 กิโลกรัม ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการนำกลับไปรีไซเคิลได้ถึง 1,710 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และร่วมส่งมอบสมุดเพื่อการศึกษา 24,000 เล่มให้โรงเรียนที่ขาดแคลน พร้อมยังชวนเก็บห่อกระดาษ ส่งต่อให้ผู้ด้อยโอกาสพับถุงยาสร้างรายได้ เพื่อมอบให้โรงพยาบาล ใส่ยาให้คนไข้ตามนโยบายภาครัฐที่ลดการใช้ถุงพลาสติก ลดโลกร้อน และช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทาง ESG และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ที่มีพันธมิตรธุรกิจร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (CARBON NEUTRALITY) ในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ( NET ZERO GHG EMISSIONS ) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) โดยโครงการ Hero Zero by Double A X Supalai ได้ผนึกกำลังร่วมกับ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในการดูแลใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ยั่งยืน ซึ่งโครงการนี้ต่อยอดมาจากโครงการที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินการภายใต้ชื่อ “Blue Hero Zero Waste by Double A” เป็นโครงการนำกระดาษสำนักงานที่ใช้แล้ว กล่องพัสดุที่ไม่ใช้ คืนกลับสู่กระบวนการรีไซเคิล ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2564 มีผู้เข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้วทั้งสิ้นกว่า 10 หน่วยงาน โดยผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมา สามารถรวบรวมกระดาษเพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลไปได้ทั้งสิ้นกว่า 1,000 กิโลกรัม (1 ตัน) รวมไปถึงโครงการ ”กระดาษแปลงร่าง ถุงยารักษ์โลก” ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 โดยเชิญชวนบริจาคห่อกระดาษเพื่อจัดทำเป็นถุงใส่ยาให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาล ลดการใช้ถุงพลาสติกตามนโยบายรัฐ และช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสมีรายได้เสริมจากการพับถุงยาให้กับโครงการด้วย นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานก่อสร้างอาคารสูง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่บริษัทฯ มีเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กรด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดก๊าซเรือนกระจก 25% ภายใน 3 ปีและมีเป้าหมายความยั่งยืนด้านสังคมเพื่อสร้างความสุขสู่สังคมไทย ครอบคลุมทุก Stakeholders ภายใต้โครงการ ศุภาลัย สร้างดี มุ่งหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนโลกไปด้วยกัน ด้วยการพัฒนาสังคม สร้างอาชีพ ให้โอกาสทางการศึกษา และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน พันธมิตรธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับศุภาลัย เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก อย่างเช่นการเลือกใช้กระดาษสำนักงานทั้งในอาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ สำนักงานขายและสำนักงานก่อสร้างทั่วประเทศนั้น ทางบริษัทฯ ได้เลือกใช้สินค้าจาก ดั๊บเบิ้ล เอ เนื่องจากเป็นกระดาษรักษ์โลกที่ผลิตจากต้นไม้ปลูกเอง ไม่รบกวนไม้จากธรรมชาติ ล่าสุดมีแนวคิดนำกระดาษที่ใช้งานแล้วมารีไซเคิลกลับมาใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการ Hero Zero by Double AX Supalai โดยกระดาษทุก 1 กิโลกรัมที่เก็บกลับ เท่ากับทางศุภาลัยได้ร่วมมอบสมุดเพื่อการศึกษา จำนวน 1 เล่ม และ ดั๊บเบิ้ล เอ สมทบอีก 1 เล่ม เพื่อส่งมอบให้กับน้อง ๆ ในโรงเรียนที่ขาดแคลน คาดว่าจะสามารถรวมกระดาษใช้งานแล้วจำนวนทั้งสิ้น 12,000 กิโลกรัม เท่ากับการมอบสมุดเพื่อการศึกษา 24,000 เล่ม ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ครัวเรือนกว่า 300,000 บาท ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,710 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี พร้อมรวมพลังสร้างดีกันต่ออีก 1 โครงการ คือ ถุงยารักษ์โลก ด้วยการเก็บห่อกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ พับเป็นถุงยา และนำไปมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ เพื่อใช้ใส่ยาให้คนไข้ ลดการใช้ถุงพลาสติก ลดปริมาณขยะ บริษัทฯ ตั้งกล่องรับกระดาษอยู่ที่กรีนโซน ชั้นล็อบบี้ อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ ถนนพระราม 3 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนธันวาคม 2566 เป็นเวลา 11 เดือน และในอนาคตยังเตรียมขยายโครงการไปยังสำนักงานขายและสำนักงานก่อสร้างทั่วประเทศต่อไป สำหรับโครงการ Hero Zero by Double A X Supalai ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับศุภาลัย นับเป็นก้าวสำคัญที่ก่อให้เกิดเครือข่ายความมีส่วนร่วมในการช่วยกันสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ บนความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยเฉพาะทางด้านการศึกษา ที่นอกจากจะนำกระดาษใช้แล้วคืนกลับสู่กระบวนรีไซเคิล ยังได้ร่วมกันส่งมอบสมุดให้กับน้อง ๆ ในโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อต่อยอดการสร้างโอกาส สร้างอนาคตทางการศึกษาอีกด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบรางวัลกิจกรรม Double A Display Contest 2022

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับ BeTrend 6 สาขา จัดกิจกรรมประกวดตั้งกองกระดาษ "Double A Display Contest 2022" โดยทั้ง 6 สาขาได้จัดวางรีมกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ตามจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความสนใจของสินค้า ณ จุดขาย ซึ่งกิจกรรมได้จัดขึ้นตั้งแต่ พฤศจิกายน 2565-มกราคม 2566 พร้อมเชิญชวนลูกค้าที่ช้อปสินค้า Double A ในร้าน BeTrend สาขาที่ร่วมกิจกรรมได้ร่วมสนุกถ่ายภาพสินค้าที่ซื้อคู่กับจุดตั้งกองกระดาษ Double A เพื่อรับของที่ระลึกอีกด้วย และล่าสุดดั๊บเบิ้ล เอ ได้มอบรางวัลให้กับสาขาที่ชนะการประกวด อันดับ 1 คือ สาขาสยามพารากอน ,อันดับ 2 คือ สาขาเดอะมอลล์โคราช และอันดับ 3 คือ สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ สามารถติดตามกิจกรรมดั๊บเบิ้ล เอ อย่างต่อเนื่องได้ทาง Facebook Double A Club

ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนคนไทย ปิดไฟพร้อมกัน Earth Hour 25 มี.ค.นี้

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนคนไทยร่วมปิดไฟที่ไม่ใช้ กับกิจกรรม "Earth Hour 2023" เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 20.30 -21.30 น. พร้อมกับเมืองต่างๆทั่วโลก โดยปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น และลดการใช้พลังงาน เช่น ถอดปลั๊ก ปิดพัดลมและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รณรงค์สร้างจิตสำนึกรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ทำมากกว่าการปิดไฟมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้พนักงานตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า รวมทั้งลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง อาทิ แก้วน้ำ และกล่องโฟมใส่อาหาร เป็นต้น