Follow us

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรมส่งเสริมเยาวชนรักษ์ภาษาไทย

ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผู้คนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม จากการพบปะพูดคุยกัน มาเป็นการสื่อสารข้อความตัวอักษรผ่านอุปกรณ์สื่อสารในโลกออนไลน์ ส่งผลให้การใช้ภาษาไทยผิดเพี้ยน โดยเฉพาะการอ่านและเขียน ที่ใช้ตัวสะกดและคำศัพท์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ภาษาไทย อันเป็นเอกลักษณ์ล้ำค่าที่บ่งบอกความเป็นไทย จะถูกกลืนไปตามเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่


ด้วยเหตุนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จึงร่วมสนับสนุนการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ ของศาลอุทธรณ์ภาค 3 โดยมีกิจกรรมการแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย พร้อมทั้งการจัดเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยร่วมกันอนุรักษ์ภาษาไทยและใช้ภาษาอย่างถูกต้องตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ณ อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กรุงเทพมหานคร

คุณสมพงษ์ คุณกรรณิกา และคุณกนก ร่วมเสวนา หัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา"

สำหรับงานในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 จัดขึ้น ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีนักเรียนเข้าร่วมงานกว่า 200 คน จากทั้งหมด 10 โรงเรียน โดยช่วงแรกเป็นการเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ที่ได้รับเกียรติจากคุณสมพงษ์ เหมวิมล ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นผู้ดำเนินการเสวนา และคุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้ผลิตรายการเวทีวาที พร้อมด้วยคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์และผู้บริหารในเครือเดอะเนชั่น ให้เกียรติร่วมเสวนาในครั้งนี้ ซึ่งมีข้อคิดดีๆในมุมมองนักสื่อสารมวลชนเกี่ยวกับภาษาไทยในยุคนี้ที่น่าสนใจเลยทีเดียว

คุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ ถ่ายภาพร่วมกับคุณบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ คุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตพิธีกร และน้องๆ นักเรียน

"ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาของความรู้สึก ส่วนใหญ่เรามักจะใช้ภาษาไทยไปอย่างไม่มีสติ เช่น เจอหน้าเพื่อน ก็ทักไปว่า มาแล้วเหรอ ทั้งที่เห็นเขาเดินมา การใช้ภาษาลักษณะนี้ถือว่าใช้อย่างฟุ่มเฟือย ไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้ ถ้าถามว่า ไปไหนมา หรือ ทานข้าวแล้วหรือยัง จะดูถูกต้องกว่า" คุณกรรณิกา อดีตพิธีกรชื่อดัง ผู้ซึ่งคร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์ไทยมานาน และเป็นผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลเมขลา เกริ่นนำการเสวนา และเพิ่มเติมว่า ที่ตนเองพูดจาเพราะ และออกเสียงได้ชัดถ้อยชัดคำ เพราะผู้ใหญ่สมัยนั้นพูดจากันไพเราะมาก เด็กจึงหัดจำและเลียนแบบกันมา นอกจากนี้คุณกรรณิกายังแนะนำให้ฝึกฝนการใช้ภาษาไทย ด้วยการ "จำแต่สิ่งดีๆ แล้วนำมาใช้" ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่เพียงเฉพาะการฝึกภาษาไทยเท่านั้น

บรรยากาศงานเสวนา

คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ก็ได้เสริมเรื่องการใช้ภาษาไทยเพิ่มเติมว่า "เด็กในปัจจุบันต่างพูดไม่จบคำ ไม่จบประโยค ออกเสียงไม่ถูกอักขรวิธีเหมือนคนสมัยก่อน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เด็กใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเองและหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีปฏิสัมพันธ์กับรอบข้างน้อยลง ทำให้เด็กขาดความมั่นใจตนเอง ไม่กล้าสบตาผู้อื่นเวลาพูด และไม่สามารถเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ถ่ายทอดออกมาให้ผู้ฟังได้" ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยตรงกับหลานของคุณกนกเองที่อยู่ชั้นมัธยมศึกษา และเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้น คุณกนกก็พยายามพัฒนาหลานตนเอง ด้วยการฝึกให้หลานเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในโรงเรียนให้ฟังทุกวัน เพื่อให้มีความมั่นใจและกล้าพูดกล้าแสดงออกมากขึ้น นอกจากนี้ด้วยวิธีการเรียนของเด็กในปัจจุบันก็มีส่วนให้ทักษะการใช้ภาษาไทยแย่ลง ไม่มีการฝึกท่องอาขยาน หรือฝึกเขียนไทย เหมือนเด็กสมัยก่อนอีกด้วย


สถานการณ์ที่คุณกนกกล่าวมา เป็นปัญหาสำคัญของเด็กไทยสมัยนี้ และมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมจัดงานเสวนา "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ขึ้น ด้วยหวังว่า น้องๆ นักเรียนซึ่งต่อไปจะเป็นอนาคตของชาติ ได้เป็นตัวแทนในการช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทยที่ถูกต้องต่อไป

บรรยากาศการแข่งขัน

ในขณะที่นักเรียนส่วนหนึ่งกำลังรับฟังการเสวนา อีกห้องหนึ่งก็มีกิจกรรมแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย ซึ่งก็ได้เปิดรับสมัครนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เข้าร่วมแข่งขัน มีผู้ผ่านคัดเลือกเข้าสู่รอบตัดสินทั้งสิ้น 20 คน โดยทุกคนต่างก็เตรียมตัวกันเต็มที่ เพื่อประลองแข่งขันเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง ซึ่งจะกำหนดให้เขียนประเภทละ 15 คำ รวมทั้งหมด 30 คำ โดยคำศัพท์ที่นำมาแข่งขันในคราวนี้ นอกจากเป็นคำภาษาไทยที่ใช้กันทั่วไปแล้ว ยังนำภาษากฏหมายที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นหรือใช้มาก่อน ถือได้ว่าเป็นการวัดความรู้ความสามารถของแต่ละคนกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะภาษากฏหมายที่ไม่ได้อยู่ในตำราเรียนของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

น้องสุธัญญา ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน และน้องศรีนรัตน์ ได้รับรางวัลชมเชย

โดยผู้ชนะการแข่งขันอันดับที่ 1 ในครั้งนี้ คือ นางสาวสุธัญญา สนธยาสาระ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหอวัง ซึ่งสมัครเข้ามาร่วมแข่งขัน เพราะสนใจด้านกฏหมาย และอยากเป็นผู้พิพากษา "หนูชอบกฏหมายมากเลยค่ะ พออาจารย์บอกว่า เปิดแข่งขันอยู่ ก็ไม่ลังเลรีบสมัครเข้ามาเลย โดยหนูเตรียมตัวด้วยการอ่านหนังสือประมวลกฏหมายค่ะ ประมาน 1 สัปดาห์ การแข่งขันครั้งนี้คำศัพท์ยากมากเลย ยกตัวอย่างเช่นคำว่า ฉัททันต์ ที่แปลว่า ช้าง เป็นคำที่หนูไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ"

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ มอบกระดาษและอุปกรณ์เครื่องเขียนแก่ นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓

และผู้ที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะของน้องสุธัญญาคือ อาจารย์อรินยา สถิรชาติ หัวหน้ากลุ่มสาระภาษาไทย โรงเรียนหอวัง ซึ่งอาจารย์ได้บอกว่า "ชัยชนะครั้งนี้เหนือความคาดหมายมาก เพราะเวลากระชั้นชิด ไม่ทันได้เตรียมตัว แต่ก็ให้ลูกศิษย์พยายามทำให้ดีที่สุด" และเมื่อถามถึงความเห็นของอาจารย์ต่อการใช้ภาษาในอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน อาจารย์ได้ให้ความเห็นไว้ว่า "โดยส่วนตัวครูไม่ว่าถ้านักเรียนจะใช้คำศัพท์แปลกๆในอินเทอร์เน็ต แต่ควรพิจารณาด้วยว่า คำเหล่านั้นสามารถนำมาใช้กับบุคคลทั่วไปได้หรือไม่ ควรใช้ภาษาแบบใดจึงจะถูกกาลเทศะ และควรคำนึงถึงสังคม สถาบัน ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของตนเองด้วย"

อย่างไรก็ตามน้องๆ ผู้ที่พลาดจากการแข่งขันนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพราะการมาแข่งขันเขียนไทยคราวนี้ เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้น้องๆ รู้ว่า การเข้ามาทำงานในโลกของศาลยุติธรรมนั้น น้องๆ จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง และรู้คำศัพท์เพิ่มเติมที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต่อในอนาคต ดังเช่นความเห็นของน้องศรีนรัตน์ พงษ์ประภาชื่น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ที่ได้รับรางวัลชมเชยในครั้งนี้ "หนูต้องขอขอบคุณศาลอุทธรณ์ภาค 3 และผู้ใหญ่ทุกท่านมากค่ะ ที่ให้โอกาสหนูมาร่วมงานนี้ และได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเตรียมสอบเป็นผู้พิพากษาอย่างที่หนูใฝ่ฝันไว้ค่ะ ก่อนหน้านี้หนูก็เคยมาแข่งอ่านกฏหมายที่นี่ และถ้าทางศาลจัดงานอะไรในอนาคต หนูก็จะมาอีกค่ะ"

นายวัฒนา วิทยกุล รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ และผู้ได้รับรางวัลการแข่งขันเขียนไทย

งานแข่งขันเขียนไทยในวันนั้นจบลงด้วยดี และน้องๆ นักเรียนทุกคนก็ได้ให้คำปฏิญาณว่า ทุกคนจะช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้อย่างสุดความสามารถ ตามคำกล่าวของคุณกรรณิกาที่ว่า "โปรดจงอย่าลืมรากเหง้าของความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษาไทยที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้เรา และยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน"

ข่าวประชาสัมพันธ์

แคมเปญ 1Dream1Tree

ดั๊บเบิ้ล เอ มีการดำเนินธุรกิจภายใต้โมเดล “กระดาษจากคันนา” เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการใช้พื้นที่ว่างเปล่าบนคันนา ซึ่งช่วยให้ชาวนามีรายได้เสริมและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้นได้ส่งผลกระทบที่หลายๆประเทศต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วม หมอกควันจากไฟป่า ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากฝีมือมนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดั๊บเบิ้ลเอ จึงอยากรณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงพลังของผู้บริโภคที่จะดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อม สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายป่า ไม่ตัดไม้จากป่า อันเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาภัยธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “Double A One Dream One Tree” เพื่อปลุกกระแสรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนทุกคนตระหนักว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับนักศึกษา สถาบันพระปกเกล้า

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการบริหารงานพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืนรุ่นที่ 6 นำโดย นายภควัต อัจฉริยปัญญา ผู้อำนวยการวิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า เข้าเยี่ยมชมโรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี เพื่อเข้าใจถึงกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่เลือกใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรชั้นนำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการบริหารจัดการธุรกิจอย่างยั่งยืนบนแนวทาง ESG ในด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล รวมถึงวัตถุดิบที่มาจากไม้ปลูกของเกษตรกร โดยไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และเพิ่มพื้นที่สีเขียวช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นอุตสาหกรรมกระดาษที่เติบโตอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน สำหรับสถานศึกษาหรือองค์กรที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://openhouse.doubleapaper.com/

ดั๊บเบิ้ล เอ รับรางวัลดีเด่น โครงการขับเคลื่อนความปลอดภัย อาชีวอนามัยฯด้านขนส่ง กระทรวงแรงงาน

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัลระดับดีเด่น ในโครงการขับเคลื่อนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ในงานที่มีการประสบอันตรายสูง (งานขนส่ง) ประจำปี 2567 กระทรวงแรงงาน จากนางวัชรี มากหวาน รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่มีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของหน่วยงานขนส่งทางบกอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานสากล และข้อกำหนดของกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ณ ห้องประชุม ชั้น 5 กระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Q Mark) จากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมอีกด้วย นับเป็นการตอกย้ำในการยกระดับมาตรการความปลอดภัยของหน่วยงานขนส่งให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวสินค้าใหม่ “Double A Evo Zinc" คุ้มค่า เต็มพลัง

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน "Double A Evo Zinc" ถ่านคาร์บอนซิงค์ 1.5 V บรรจุแพ็ค 4 ก้อน มีทั้ง AA และ AAA คุณสมบัติให้พลังเต็มประสิทธิภาพด้วยคาร์บอนซิงค์บริสุทธิ์ มีอายุการเก็บรักษายาวนาน 4 ปีจากวันที่ผลิตและมีระบบป้องกันการรั่วซึมของของเหลวถึง 3 ชั้น (Anti leak protection) ช่วยปกป้องและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ เหมาะสำหรับใช้งานกับนาฬิกา รีโมท ไฟฉาย และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ทั้งนี้ การเลือกใช้ถ่านให้เหมาะกับอุปกรณ์จะช่วยประหยัดคุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน สามารถดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ www.DoubleAdelivery.com หรือที่ร้าน BeTrend, Medium&More, ร้านนายอินทร์ และ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับนักเรียนจากรร.ช่างฝีมือทหาร

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะนักเรียน ระดับชั้นปีที่ 3 ภาคปกติและภาคสมทบ โรงเรียนช่างฝีมือทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษ ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี ได้เข้าใจถึงขั้นตอนการผลิตกระดาษคุณภาพ ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นนำควบคู่กับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และที่มาของวัตถุดิบ “ต้นกระดาษ” จากไม้ปลูกของเกษตรกร โดยไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ รวมทั้งช่วยสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร นอกจากนี้ยังได้รู้จักโมเดลการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า (Circular Economy) ผ่านการนำเสนอด้วยรูปแบบภาพยนตร์ระบบ 4 มิติ นับเป็นกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนและประสบการณ์ใหม่ๆเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา สำหรับสถานศึกษาหรือองค์กรที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://openhouse.doubleapaper.com/

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะนักเรียน รร.หทัยชาติ

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับน้องๆนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหทัยชาติ จ.ปราจีนบุรี เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษคุณภาพที่เลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตชั้นนำเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเข้าใจวัตถุดิบที่มาจากไม้ปลูกของเกษตรกร โดยไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ เป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และยังเพิ่มพื้นที่สีเขียว มีส่วนช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นอุตสาหกรรมกระดาษที่เติบโตอยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยน้องๆได้ชมการบรรยายด้วยรูปแบบภาพยนตร์ระบบ 4 มิติ สำหรับการเยี่ยมชมครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียน เพิ่มพูนประสบการณ์ใหม่ๆให้กับเยาวชน ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี สำหรับสถานศึกษาหรือองค์กรที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://openhouse.doubleapaper.com/

ดั๊บเบิ้ล เอ รับข่าวดีทริสเรตติ้งปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “บวก” พร้อมเผยผลกำไร Q2’67 พุ่ง 23%

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร็จอีกครั้งเมื่อทริสเรตติ้งประกาศปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับเครดิตองค์กรเป็น BBB แนวโน้ม “Positive” (บวก) จากเดิม “Stable” (คงที่) สะท้อนถึงสถานะทางการเงินของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง มีผลกำไรที่แข็งแกร่ง และมีนโยบายทางการเงินที่รัดกุม ในขณะที่ผลกำไรไตรมาส 2 ของปี 67 พุ่ง 23% เพิ่มขึ้น 118 ล้านบาท มั่นใจกางแผนขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวทาง ESG ที่เน้นการให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพ ควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม หลักธรรมาภิบาล และยังเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี 2567 ดั๊บเบิ้ล เอ มีรายได้รวม 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.08% และมีกำไรสุทธิ 634 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.87% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทำให้ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 494 ล้านบาท หรือ 4.14 % และมีกำไรสุทธิ 1,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152 ล้านบาท หรือ 15.03% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากการพัฒนาปรับปรุงเครื่องจักรทำให้มีประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนด้านพลังงานลดลง รวมถึงการขายกระดาษของบริษัทฯ ไปยังประเทศหลักในแถบเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง