Follow us

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรมส่งเสริมเยาวชนรักษ์ภาษาไทย

ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผู้คนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม จากการพบปะพูดคุยกัน มาเป็นการสื่อสารข้อความตัวอักษรผ่านอุปกรณ์สื่อสารในโลกออนไลน์ ส่งผลให้การใช้ภาษาไทยผิดเพี้ยน โดยเฉพาะการอ่านและเขียน ที่ใช้ตัวสะกดและคำศัพท์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ภาษาไทย อันเป็นเอกลักษณ์ล้ำค่าที่บ่งบอกความเป็นไทย จะถูกกลืนไปตามเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่


ด้วยเหตุนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จึงร่วมสนับสนุนการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ ของศาลอุทธรณ์ภาค 3 โดยมีกิจกรรมการแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย พร้อมทั้งการจัดเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยร่วมกันอนุรักษ์ภาษาไทยและใช้ภาษาอย่างถูกต้องตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ณ อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กรุงเทพมหานคร

คุณสมพงษ์ คุณกรรณิกา และคุณกนก ร่วมเสวนา หัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา"

สำหรับงานในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 จัดขึ้น ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีนักเรียนเข้าร่วมงานกว่า 200 คน จากทั้งหมด 10 โรงเรียน โดยช่วงแรกเป็นการเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ที่ได้รับเกียรติจากคุณสมพงษ์ เหมวิมล ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นผู้ดำเนินการเสวนา และคุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้ผลิตรายการเวทีวาที พร้อมด้วยคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์และผู้บริหารในเครือเดอะเนชั่น ให้เกียรติร่วมเสวนาในครั้งนี้ ซึ่งมีข้อคิดดีๆในมุมมองนักสื่อสารมวลชนเกี่ยวกับภาษาไทยในยุคนี้ที่น่าสนใจเลยทีเดียว

คุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ ถ่ายภาพร่วมกับคุณบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ คุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตพิธีกร และน้องๆ นักเรียน

"ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาของความรู้สึก ส่วนใหญ่เรามักจะใช้ภาษาไทยไปอย่างไม่มีสติ เช่น เจอหน้าเพื่อน ก็ทักไปว่า มาแล้วเหรอ ทั้งที่เห็นเขาเดินมา การใช้ภาษาลักษณะนี้ถือว่าใช้อย่างฟุ่มเฟือย ไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้ ถ้าถามว่า ไปไหนมา หรือ ทานข้าวแล้วหรือยัง จะดูถูกต้องกว่า" คุณกรรณิกา อดีตพิธีกรชื่อดัง ผู้ซึ่งคร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์ไทยมานาน และเป็นผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลเมขลา เกริ่นนำการเสวนา และเพิ่มเติมว่า ที่ตนเองพูดจาเพราะ และออกเสียงได้ชัดถ้อยชัดคำ เพราะผู้ใหญ่สมัยนั้นพูดจากันไพเราะมาก เด็กจึงหัดจำและเลียนแบบกันมา นอกจากนี้คุณกรรณิกายังแนะนำให้ฝึกฝนการใช้ภาษาไทย ด้วยการ "จำแต่สิ่งดีๆ แล้วนำมาใช้" ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่เพียงเฉพาะการฝึกภาษาไทยเท่านั้น

บรรยากาศงานเสวนา

คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ก็ได้เสริมเรื่องการใช้ภาษาไทยเพิ่มเติมว่า "เด็กในปัจจุบันต่างพูดไม่จบคำ ไม่จบประโยค ออกเสียงไม่ถูกอักขรวิธีเหมือนคนสมัยก่อน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เด็กใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเองและหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีปฏิสัมพันธ์กับรอบข้างน้อยลง ทำให้เด็กขาดความมั่นใจตนเอง ไม่กล้าสบตาผู้อื่นเวลาพูด และไม่สามารถเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ถ่ายทอดออกมาให้ผู้ฟังได้" ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยตรงกับหลานของคุณกนกเองที่อยู่ชั้นมัธยมศึกษา และเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้น คุณกนกก็พยายามพัฒนาหลานตนเอง ด้วยการฝึกให้หลานเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในโรงเรียนให้ฟังทุกวัน เพื่อให้มีความมั่นใจและกล้าพูดกล้าแสดงออกมากขึ้น นอกจากนี้ด้วยวิธีการเรียนของเด็กในปัจจุบันก็มีส่วนให้ทักษะการใช้ภาษาไทยแย่ลง ไม่มีการฝึกท่องอาขยาน หรือฝึกเขียนไทย เหมือนเด็กสมัยก่อนอีกด้วย


สถานการณ์ที่คุณกนกกล่าวมา เป็นปัญหาสำคัญของเด็กไทยสมัยนี้ และมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมจัดงานเสวนา "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ขึ้น ด้วยหวังว่า น้องๆ นักเรียนซึ่งต่อไปจะเป็นอนาคตของชาติ ได้เป็นตัวแทนในการช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทยที่ถูกต้องต่อไป

บรรยากาศการแข่งขัน

ในขณะที่นักเรียนส่วนหนึ่งกำลังรับฟังการเสวนา อีกห้องหนึ่งก็มีกิจกรรมแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย ซึ่งก็ได้เปิดรับสมัครนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เข้าร่วมแข่งขัน มีผู้ผ่านคัดเลือกเข้าสู่รอบตัดสินทั้งสิ้น 20 คน โดยทุกคนต่างก็เตรียมตัวกันเต็มที่ เพื่อประลองแข่งขันเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง ซึ่งจะกำหนดให้เขียนประเภทละ 15 คำ รวมทั้งหมด 30 คำ โดยคำศัพท์ที่นำมาแข่งขันในคราวนี้ นอกจากเป็นคำภาษาไทยที่ใช้กันทั่วไปแล้ว ยังนำภาษากฏหมายที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นหรือใช้มาก่อน ถือได้ว่าเป็นการวัดความรู้ความสามารถของแต่ละคนกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะภาษากฏหมายที่ไม่ได้อยู่ในตำราเรียนของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

น้องสุธัญญา ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน และน้องศรีนรัตน์ ได้รับรางวัลชมเชย

โดยผู้ชนะการแข่งขันอันดับที่ 1 ในครั้งนี้ คือ นางสาวสุธัญญา สนธยาสาระ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหอวัง ซึ่งสมัครเข้ามาร่วมแข่งขัน เพราะสนใจด้านกฏหมาย และอยากเป็นผู้พิพากษา "หนูชอบกฏหมายมากเลยค่ะ พออาจารย์บอกว่า เปิดแข่งขันอยู่ ก็ไม่ลังเลรีบสมัครเข้ามาเลย โดยหนูเตรียมตัวด้วยการอ่านหนังสือประมวลกฏหมายค่ะ ประมาน 1 สัปดาห์ การแข่งขันครั้งนี้คำศัพท์ยากมากเลย ยกตัวอย่างเช่นคำว่า ฉัททันต์ ที่แปลว่า ช้าง เป็นคำที่หนูไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ"

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ มอบกระดาษและอุปกรณ์เครื่องเขียนแก่ นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓

และผู้ที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะของน้องสุธัญญาคือ อาจารย์อรินยา สถิรชาติ หัวหน้ากลุ่มสาระภาษาไทย โรงเรียนหอวัง ซึ่งอาจารย์ได้บอกว่า "ชัยชนะครั้งนี้เหนือความคาดหมายมาก เพราะเวลากระชั้นชิด ไม่ทันได้เตรียมตัว แต่ก็ให้ลูกศิษย์พยายามทำให้ดีที่สุด" และเมื่อถามถึงความเห็นของอาจารย์ต่อการใช้ภาษาในอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน อาจารย์ได้ให้ความเห็นไว้ว่า "โดยส่วนตัวครูไม่ว่าถ้านักเรียนจะใช้คำศัพท์แปลกๆในอินเทอร์เน็ต แต่ควรพิจารณาด้วยว่า คำเหล่านั้นสามารถนำมาใช้กับบุคคลทั่วไปได้หรือไม่ ควรใช้ภาษาแบบใดจึงจะถูกกาลเทศะ และควรคำนึงถึงสังคม สถาบัน ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของตนเองด้วย"

อย่างไรก็ตามน้องๆ ผู้ที่พลาดจากการแข่งขันนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพราะการมาแข่งขันเขียนไทยคราวนี้ เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้น้องๆ รู้ว่า การเข้ามาทำงานในโลกของศาลยุติธรรมนั้น น้องๆ จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง และรู้คำศัพท์เพิ่มเติมที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต่อในอนาคต ดังเช่นความเห็นของน้องศรีนรัตน์ พงษ์ประภาชื่น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ที่ได้รับรางวัลชมเชยในครั้งนี้ "หนูต้องขอขอบคุณศาลอุทธรณ์ภาค 3 และผู้ใหญ่ทุกท่านมากค่ะ ที่ให้โอกาสหนูมาร่วมงานนี้ และได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเตรียมสอบเป็นผู้พิพากษาอย่างที่หนูใฝ่ฝันไว้ค่ะ ก่อนหน้านี้หนูก็เคยมาแข่งอ่านกฏหมายที่นี่ และถ้าทางศาลจัดงานอะไรในอนาคต หนูก็จะมาอีกค่ะ"

นายวัฒนา วิทยกุล รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ และผู้ได้รับรางวัลการแข่งขันเขียนไทย

งานแข่งขันเขียนไทยในวันนั้นจบลงด้วยดี และน้องๆ นักเรียนทุกคนก็ได้ให้คำปฏิญาณว่า ทุกคนจะช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้อย่างสุดความสามารถ ตามคำกล่าวของคุณกรรณิกาที่ว่า "โปรดจงอย่าลืมรากเหง้าของความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษาไทยที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้เรา และยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน"

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ รุกสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง หนุนแฟรนไชส์เกาะกระแสบอลโลก เพิ่มยอด 10 %

ดั๊บเบิ้ล เอ เกาะติดกระแสฟุตบอลโลก ร่วมเป็นสปอนเซอร์การกีฬาแห่งประเทศไทย ในอีเว้นท์ใหญ่ "เชียร์ลั่น สนั่นโลก On Groung Activity FIFA World Cup 2010" ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลด้วยจอฉายขนาดยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกสั่งตรงจากเกาหลี ณ ลานพลาซ่า สนามกีฬาหัวหมาก พร้อมจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายแฟรนไชส์ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ และร้านเครื่องเขียนดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่ หวังโต 10% ในช่วงฟุตบอลโลก นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับแผนการตลาดของดั๊บเบิ้ล เอ ในช่วงกระแสฟุตบอลโลกนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เตรียมแผนการกระตุ้นยอดจำหน่ายให้กับแฟรนไชส์ของดั๊บเบิ้ล เอ ทั้ง แฟรนไชส์ศูนย์ถ่ายเอกสารดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ และแฟรนไชส์ร้านเครื่องเขียนดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่ โดยมีเป้าหมายกระตุ้นยอดจำหน่ายในช่วง 2 เดือนนี้ ให้เพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 10% โดยดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดของพรีเมี่ยมสำหรับคนรักกีฬาฟุตบอล เพื่อเป็นของแถมพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อกระดาษจากดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ และร้านดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่ โดยทุกยอดซื้อกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทุก 5 รีม หรือ 1 กล่อง รับแก้วน้ำพิมพ์ลายพิเศษมูลค่า 120 บาท 1 ใบ หรือ ซื้อสินค้าของดั๊บเบิ้ล เอ ทุก 50 บาท รับพวงกุญแจ ดั๊บเบิ้ล เอ มินิบอล มูลค่า 30 บาท 1 ชิ้น เริ่ม 15 มิถุนายนถึง 31กรกฎาคมนี้เท่านั้น นอกจากเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกแล้ว โปรโมชั่นตัวนี้ยังเป็นการกระตุ้นยอดขายโดยตรงให้กับร้านจำหน่ายเครื่องเขียนของดั๊บเบิ้ล เอ อีกด้วย เพราะในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ยังเป็นช่วงเวลาที่นัก-เรียน นักศึกษา เพิ่งเปิดเทอม และมีความจำเป็นที่จะต้องซื้อเครื่องเขียนใหม่เป็นจำนวนมาก โดยดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดเตรียมชุดเครื่องเขียนมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์ใหม่ ๆ มากมาย อาทิเช่น สมุด Planning note ใช้สำหรับบันทึกตารางบอลนัดพิเศษ, สมุดบันทึกรายรับรายจ่าย (Cash book) , สมุดเขียนได้ปริ้นท์ได้ ทั้งขาวและสี มาพร้อม 2 ฟังก์ชั่นการทำงานพิเศษที่

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบรางวัล 8 ล้าน ให้ 8 สาวผู้ชนะการประกวด Double A I-Girls 2011

ดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรมประกวดค้นหา 8 สาวมั่นเพื่อครองตำแหน่ง "แบรนด์แอมบาสเดอร์" ของดั๊บเบิ้ล เอ ชิงรางวัลมูลค่าคนละ 1 ล้านบาท รวม 8 ล้านบาท วางภารกิจแรกแบรนด์แอมบาสเดอร์โชว์ตัวทั่วกรุง พร้อมแนะนำคอนเซ็ปต์ ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา รายแรกของโลก การประกวดค้นหาแบรนด์แอมบาสเดอร์ของผลิตภัณฑ์กระดาษ ดั๊บเบิ้ล เอ นับเป็นโครงการที่จัดมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน โดยสัญลักษณ์ของการประกวดปีนี้คือ I-Girls หรือ International Girls เพื่อให้สอดคล้องกับการก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก โดยในปีนี้ I-Girls จะเน้นค้นหาสาวมั่นบุคลิกดี มีความสามารถทางภาษา มีใจรักสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือ มีผิวขาวเรียบเนียน สะท้อนความเป็นผู้นำกระดาษคุณภาพสูง ซึ่งทั้ง 8 สาวแบรนด์แอมบาสเดอร์ จะมาร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของดั๊บเบิ้ล เอ ภายใต้แนวคิด "Double A : Paper for the world" หรือ "กระดาษแบรนด์ไทย เติบโตไปไกลระดับโลก" การประกวดครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้สมัครเข้าประกวดผ่านเว็บไซต์ Doubleaigirls2011.com ถึง 2,513 คน และผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการเหลือ 30 คนสุดท้ายในงาน BOI Fair ที่ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือกนี้ได้เข้าร่วมกิจกรรมเก็บตัวที่โรงแรมทวาราวดี รีสอร์ท จ.ปราจีนบุรี เพื่อให้ผู้เข้าประกวดได้สัมผัสถึงกระบวนการผลิตกระดาษที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และร่วมเล่นเกมตามฐานกิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งฝึกอบรมการแต่งหน้าและเสริมสร้างบุคลิกภาพ ซึ่งเรียกว่า นอกจากจะได้ความรู้และภาคภูมิใจไปกับอุตสาหกรรมกระดาษไทยแล้ว ยังได้ประสบการณ์และมิตรภาพเป็นความประทับใจกลับไปอีกด้วย ผู้เข้าประกวดร่วมปลูกต้นกระดาษ เดินทางไปในโลกแห่งกระดาษกับหนัง 4 มิติ สนุกสนานกับการพัฒนาบุคลิกภาพร่วมกัน ประชันชุดแต่งกายนานาชาติ ร่วมค้นหาคำตอบของต้นกระดาษบนคันนา อ.ฐานปนิต วิจารณ์ เมคอัพอาร์ติสท์ จาก KMA มาร่วมให้เคล็ดลับการดูแลผิวหน้ากับผู้เข้าประกวดว่า "ผิววัยสาวช่วงอายุระหว่าง 10 ปลายๆถึง 20 ต้นๆนั้นถือว่าเป็นวัยที่กำลังสวยสดใสสมวัยและมีสภาพผิวหน้าที่ดี ดังนั้นจึงควรเริ่มต้นดูแลผิวหน้าตั้งแต่วัยนี้ โดยมีวิธีดูแลง่ายๆ 5 ขั้นตอนด้วยกัน คือ 1) ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี โดยใช้คลีนซิ่งมิลค์ทำความสะอาดเช็ดเครื่องสำอาง ในกรณีแต่งหน้า 2) ล้างหน้าให้สะอาดหมดจดด้วยโฟมล้างหน้า 3) เช็ดหน้าอีกครั้งด้วยโทนเนอร์ เพื่อปรับกระชับรูขุมขน 4) ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เพิ่มความชุ่ม ชื้น 5) ต่อด้วยการทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ไม่ให้ผิวหน้าคล้ำก่อนวัย" นอกจากนี้ อ.ณภัสวรรณ จิลลานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านบุคลิกภาพจากสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ยังให้คำแนะนำวัยรุ่นปัจจุบันว่า "วัยรุ่นสมัยนี้มัวแต่วิ่งตามแฟชั่น โดยไม่รู้อันไหนถูกอันไหนผิด และไม่มีกาลเทศะ ซึ่งตัวเราเองต้องเป็นผู้พิจารณาว่า แฟชั่นไหนเหมาะสมกับเราต่างหาก อย่างเช่น ผู้หญิงบางคนใส่กางเกงขาสั้น ส้นสูง ไปต่างจังหวัด โดยไม่ได้คิดเผื่อว่า การไปต่างจังหวัด จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ถ้ารถเสียขึ้นมากลางทาง การแต่งตัวแบบนั้นจะช่วยอะไรคุณได้ไหม การจะแต่งตัวไปที่ไหนก็ตาม การคิดวิเคราะห์นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ" หลังได้รับข้อคิดดีๆจากกิจกรรมการเก็บตัวแล้ว ผู้เข้าประกวดทั้ง 30 คนสุดท้ายก็ปรากฎโฉมบนเวทีตัดสิน เพื่อแสดงความสวย ฉลาดและความสามารถให้กับคณะกรรมการและกองเชียร์ ณ ลานแฟชั่น ฮอลล์ สยามพารากอน โดยการประกวดครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้ผลักดันศิลปินดาราแนวหน้าของเมืองไทยมาร่วมตัดสิน ได้แก่ คุณเอ ศุภชัย ศรีวิจิตร และคุณจ๋า ยศสินี ณ นคร นอกจากคะแนนจากคณะกรรมการแล้วยังรวมคะแนนโหวตทางเว็บไซต์อีกด้วย โดยผู้ชนะทั้ง 8 แบรนด์แอมบาสเดอร์ของดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับมอบรางวัลมูลค่าสูงถึงคนละ 1 ล้านบาท รวมมูลค่า 8 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินสดคนละ 100,000 บาททันทีที่รับตำแหน่ง และได้รับรายได้ประจำตำแหน่งเป็นเวลา 2 ปี พร้อมรับรางวัลหลักสูตรอบรมบุคลิกภาพกับดั๊บเบิ้ล เอ อีกมูลค่า 200,000 บาท สำหรับ 8 สาวผู้ชนะการประกวด Double A I-Girls 2011 ได้แก่ 1. ณัชชา สุผลากร หรือ น้องแอร์ อายุ 21 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 4 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2. ศรีกานต์ นาคะวิสุทธิ์ หรือ น้องลูกแก้ว อายุ 21 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 3 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3. อนัญญา ชินแสงชัย หรือ น้องหมิว อายุ 23 ปี จบการศึกษาจากคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4. นพวรรณ ชำนาญช่าง หรือ น้องนก อายุ 22 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 4 สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 5. จารุวรรณ ภัทรปัญญาดี หรือ น้องยุ้ย อายุ 19 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 1 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 6. ณัฐสินี อมรวิริยะกุล หรือ น้องพลอย อายุ 22 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 7. ณิชา หวังสว่างกุล หรือ น้องแพม อายุ 21 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 4 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 8. ปาริสา เสนาะ หรือ น้องเมย์ อายุ18 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การประกวด Double A I-Girls ในครั้งนี้ เป็นอีกเวทีหนึ่งที่เปิดโอกาสให้สาวๆมากความสามารถ และมีใจรักสิ่งแวดล้อม ได้ต่อยอดความฝันของตนเอง ดังน้อง "ลูกแก้ว" ศรีกานต์ นาคะวิสุทธิ์ เล่าว่า การประกวดครั้งนี้ เปิดทางสู่การพัฒนาตนเอง ทั้งในด้านภาษา, ประสบการณ์ทำงาน เพื่อเติมเต็มความฝันในการเป็นผู้ประกาศข่าวต่างประเทศให้เป็นจริง นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเพื่อนำมาปรับปรุงตัวเองตลอดเวลา เช่น ได้พัฒนาบุคลิกภาพ, ได้ฝึกเต้น ฯลฯ ซึ่งน้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์จริงเช่นนี้ โดยภารกิจแรกของ ทั้ง 8 สาวแบรนด์แอมบาสเดอร์ เริ่มต้นด้วยการเดินสายประชาสัมพันธ์แคมเปญ "ดั๊บเบิ้ล เอ ดั๊บเบิ้ล เฮ เที่ยวฟรี ช้อปฟรี 10 ล้านวอนที่เกาหลี" พาเที่ยวและช้อปฟรีที่เกาหลีรวม 35 คู่ 350 ล้านวอน ที่ดั๊บเบิ้ล เอ จัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าและคืนกำไรต้อนรับปีมังกร ตามอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ หากใครที่ต้องการชมภาพน้องๆ Double A I-Girls ทั้ง 8 สาวแบบเต็มๆ หรือภาพกิจกรรมน่ารักๆ ที่ผ่านมา สามารถคลิกไปที่ www.doubleaigirls2011.com โรดโชว์ "ดั๊บเบิ้ล เอ ดั๊บเบิ้ล เฮ เที่ยวฟรี ช้อปฟรี 10 ล้านวอนที่เกาหลี" ตามออฟฟิศทั่วกรุง 8 สาวแบรนด์แอมบาสเดอร์ ขอบคุณ KMA ที่สนับสนุนเนรมิตความงาม ร้าน แฮร์ แอท เนล สนับสนุนการประกวดในครั้งนี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวกระดาษพรินต์สีในเกาหลี

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กระดาษตัวใหม่ ภายใต้ชื่อแบรนด์ "ดั๊บเบิ้ล เอ คัลเลอร์ พรินต์" ในประเทศเกาหลี เพื่อรองรับงานพรินต์สีและถ่ายเอกสารสีคุณภาพสูงโดยเฉพาะ หลังจากที่ได้เปิดตัวดั๊บเบิ้ล เอ คัลเลอร์ พรินต์ครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2554 ถือเป็นการขยายไลน์สินค้าในตลาดเกาหลีและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกระดาษถ่ายเอกสารระดับพรีเมี่ยมของดั๊บเบิ้ล เอ ในประเทศเกาหลีที่ครองตลาดมากว่า 10 ปี และเป็นแบรนด์ที่ครองใจคนเกาหลีมากที่สุด ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้วางเป้าหมายจะขยายสู่ตลาดใหม่เพิ่มขึ้น หลังจากการศึกษาพบว่าทิศทางตลาดทั่วโลก ผู้บริโภคกระดาษมีแนวโน้มใช้กระดาษเพื่องานพรินต์สีเพิ่มมากขึ้นในอัตราส่วนที่สูง

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับ คณะนักเรียนและคณาจารย์โรงเรียนบ้านหว้าเอน จ.ปราจีนบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน ที่มีจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เปิดบ้านต้อนรับคณะนักเรียนและคณาจารย์โรงเรียนบ้านหว้าเอน จ.ปราจีนบุรี เพื่อเข้าเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตกระดาษ อันทันสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมสนุกกับภาพยนตร์แบบ 4 มิติ เพื่อเรียนรู้โมเดล "กระดาษจากคันนา" มาตรฐานใหม่ของโลกในการผลิตกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถสร้างงานและสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรกว่า 1.5 ล้านราย ในการปลูกต้นกระดาษบนคันนาหรือตามพื้นที่ว่างทางการเกษตรที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการแก้ปัญหาโลกร้อน เพราะกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทุก 1 รีมจะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากบรรยากาศ 12.5 กิโลกรัม ณ ดั๊บเบิ้ล เอ เปเปอร์ ปาร์ค @ 304 เมืองน่ารัก ปราจีนบุรี