Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ เพาเวอร์ ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปีให้ดอกเบี้ยสูง 6.25 %

         โรงไฟฟ้าเอ็นพีเอส ในกลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ เพาเวอร์ จับมือธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 6.25 % ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เปิดจองซื้อ 9-11 พฤษภาคม 2554 นี้ คาดจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนเช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ดั๊บเบิ้ล เอ เมื่อปีที่ผ่านมา

 

        นายอภิชัย ซอปิติพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นพีเอส ในกลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ เพาเวอร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะออกหุ้นกู้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน โดยหุ้นกู้นี้จะมีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน วงเงินรวมไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2557 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนดหลังจากปีที่ 2  และเปิดจองซื้อในวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2554  วงเงินจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

 

        บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน เป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ของบริษัทฯ โดยวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อต้องการนำเงินไปใช้พัฒนาโครงการในกลุ่มบริษัทรองรับการเติบโตของธุรกิจ  บางส่วนจะนำไปใช้ในการจ่ายชำระหนี้ระยะสั้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

 

        นายอภิชัย กล่าวว่า "เอ็นพีเอส เชื่อว่าการออกหุ้นกู้ครั้งนี้น่าจะได้รับการตอบรับด้วยดีเช่นเดียวกับการออกหุ้นกู้ของดั๊บเบิ้ล เอ ครั้งที่ผ่านมา เพราะมีผลตอบแทนการลงทุนที่น่าสนใจ เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนและประชาชนทั่วไปที่ต้องการลงทุนในระยะที่ไม่ยาวมากนักและให้ผลตอบแทนที่ดี นอกจากนี้ธุรกิจไฟฟ้ายังเป็นธุรกิจที่มั่นคง และมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย"

 

        เอ็นพีเอส เป็นผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงชีวมวลในประเทศไทย ที่มีประสบการณ์ยาวนาน ปัจจุบันเอ็นพีเอส มีโรงไฟฟ้าทั้งหมด 5 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 435.2 เมกะวัตต์  โดยมีรายได้ที่มั่นคงจากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าระยะยาว 25 ปี และโรงงานอุตสาหกรรมในเขตอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งจำหน่ายไอน้ำให้กับดั๊บเบิ้ล เอ เพื่อใช้ในการผลิตเยื่อและกระดาษ ทำให้เอ็นพีเอสมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง

 

        บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีผลประกอบการแข็งแกร่ง รายได้รวมปี  2553 สูงถึง 7,680 ล้านบาท เพิ่มจาก 6,064 ล้านบาท ในปี 2552  หรือเพิ่มขึ้น  26%   และมีผลกำไรสุทธิ  1,229 ล้าน บาทในปี 2553  เพิ่มจาก 789 ล้านบาท ในปี 2552 ทั้งนี้การเติบโตของรายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำนั้น  ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้ซื้อกิจการโรงไฟฟ้า 3 โรง เข้ามาอยู่ในกลุ่ม  เพื่อนำมาบริหารจัดการโดยบริษัทย่อย  ทำให้บริษัทฯรับรู้รายได้จากการ ขายไฟฟ้าและไอน้ำของกิจการโรงไฟฟ้าดังกล่าวเข้ามาเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญในปี 2553

 

        นักลงทุนที่สนใจ สามารถจองซื้อได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา  และธนาคารออมสิน เฉพาะสำนักพหลโยธิน ในวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2554 นี้เท่านั้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา  โทร.1551 และธนาคารออมสิน สำนักพหลโยธิน โทร.02-2998616

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ โชว์ผลงานครึ่งแรกปี 66 กวาดกำไรกว่า 1,011 ล้านบาท โตขึ้น 600%

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2566 ยังคงยืนหนึ่งรักษายอดขายอยู่ในระดับสูง ด้วยยอดขายกว่า 288,306 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 65 ที่ 277,759 ตัน ทำให้มีกำไรสุทธิ 1,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 872 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 139 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 627.34 ของกำไรสุทธิของงวดเดียวกับปีก่อน อันเป็นผลมาจากความสามารถในการรักษายอดขายรวมติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีแผนขยายธุรกิจการลงทุนไปยังอีกหลายประเทศ อาทิ อินเดีย ออสเตรเลีย ทำให้ในอนาคตบริษัทจึงยังสามารถทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้วางนโยบายการบริหารจัดการตามแนว ESG เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นผู้นำอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษที่ครบวงจร ทำให้เกิดการผสานพลัง (Synergy) และช่วยควบคุมต้นทุน รวมทั้งการมีสินค้าที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและในต่างประเทศกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งและการครองใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ

Double A มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2050 เดินหน้าโรดแมป ขับเคลื่อนธุรกิจ ลดโลกร้อน

ดั๊บเบิ้ล เอ ประกาศเจตนารมณ์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2050 เดินหน้าRoadmap ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งเสริมใช้รถไฟฟ้า (EV) ในการขนส่ง และตอกย้ำการขับเคลื่อนธุรกิจบนแนวนโยบาย ESG ชู 3S เพื่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “กลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ ตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องของภาวะโลกร้อนมาอย่างต่อเนื่อง เราจึงตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กร โดยแบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ได้แก่ มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 25% ภายในปี 2030 บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศที่กำหนดไว้ในปี 2065 โดยแผนงานและการประเมินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้กำหนดให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการ โดยยังคงคุณภาพระดับพรีเมียมเพื่อผู้บริโภคเหมือนเดิม” นายโยธินกล่าวต่อว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติมาโดยตลอด รวมถึง นำแนวทาง ESG มาขับเคลื่อนธุรกิจ และ ด้วยโมเดลทางธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานคาร์บอนต่ำ ตั้งแต่เริ่มแรก เน้น การดำเนินการอย่างยั่งยืน ใน 3 ด้าน (3S) ได้แก่ Sustainable Sourcing โดยการใช้วัตถุดิบจากต้นกระดาษของเกษตรกร และไม่ใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ ซึ่งต้นกระดาษเหล่านี้มีส่วนช่วยในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมากและต่อเนื่อง Social Harmony โดยเกษตรกรที่ปลูกต้นกระดาษสามารถมีรายได้เสริมที่ยั่งยืน อันจะเป็นการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของสังคมไทยไปพร้อม ๆ กัน Self Sufficient นำของเหลือจากการผลิตมาสร้างเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด โดยทุกขั้นตอนในการผลิตเรามี By product หรือ ผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการผลิต มาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนเช่น การส่งน้ำมันยางไม้ (Black liquor) จากการผลิตเยื่อ นำมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าชีวมวล (Biomass) นอกจากนี้ยังมีโครงการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ในการผลิต และการใช้รถขนส่งไฟฟ้า (EV)ในด้านโลจิสติกส์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกทางหนึ่ง และเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า บนหลัก 4R ได้แก่ Reduce Reuse Recycle และ Renewable จากการดำเนินการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นสำคัญ ทำให้ผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับมาตรฐานระดับนานาชาติจาก FSC (Forest Stewardship Council) และ PEFC ( Programme for the Endorsement of Forest Certification) รับรองแหล่งที่มาของวัตถุดิบจากไม้เพื่อการพาณิชย์ และกระบวนการผลิตที่ถูกจัดการอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้เข้าร่วมเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network – TCNN) ที่มีองค์กรชั้นนำระดับประเทศจากภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่นกว่า 500 องค์กร ที่จะช่วยผลักดันให้มีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการลดก๊าซเรือนกระจกให้บรรลุเป้าหมายทางคาร์บอนของประเทศด้วย “แม้จะเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะให้บรรลุเป้าหมาย เราเชื่อว่า ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เราจะสามารถช่วยกันขับเคลื่อนให้ประเทศบรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้เร็วขึ้น เพื่อช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกของเรา” นายโยธินกล่าว

Double A Care ร่วมออกบูธงานมหกรรมแสดงสินค้าร้านยาแห่งชาติ ครั้งที่ 1

ดั๊บเบิ้ล เอ ยกขบวนผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อสุขอนามัย ภายใต้แบรนด์ Double A Care ร่วมออกบูธในงาน “มหกรรมแสดงสินค้าร้านขายยาแห่งชาติ ครั้งที่ 1 (Thailand Pharmacist Medical Health Exhibition) และงานประชุมใหญ่สามัญสมาคมร้านขายยา ประจำปี 2565” ของสมาคมร้านขายยา ณ ห้องภิรัชฮอล์ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งภายในบูธดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับผู้ประกอบการร้านขายยา เภสัชกรและประชาชนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย 3 D ราคาพิเศษ กิจกรรมแจก Double A Care เพียว & พรีเมียมทิชชู หนา 3 ชั้น เหนียวนุ่ม ผลิตจากเยื่อบริสุทธิ์ 100% แบบมินิพ็อกเกต ให้กับผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองใช้อีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์สามารถติดตามโปรโมชั่นดีๆได้ทาง www.DoubleAdelivery.com หรือร้านค้าออนไลน์ของดั๊บเบิ้ล เอ ในช่องทาง Lazada, Shopee และ Tiktok Shop

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะจากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สวทช.

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่จากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ดร. กฤษดา ประภากร รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะฯ เข้าเยี่ยมชมการผลิตเยื่อและกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนจากไม้ปลูกของเกษตรกรที่ผ่านการพัฒนาและวิจัยสายพันธุ์เพื่อผลิตกระดาษคุณภาพ และได้เรียนรู้โมเดลการใช้ทรัพยากรอย่างหมุนเวียน ตามหลัก Circular Economy รวมถึงระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ที่สะท้อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมี นายประพันธ์ จันทร์ไทยศรี นายด่านศุลกากรอรัญประเทศพร้อมคณะ เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษคุณภาพครบวงจร ตามมาตรฐาน ISO 9001 และมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO14001 รวมทั้งเข้าใจถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบจากต้นกระดาษของเกษตรกรที่ช่วยสร้างรายได้ และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยลดโลกร้อน โดยต้นกระดาษ 1 ต้น สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 17.86 กิโลกรัม/ปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นแบรนด์กระดาษคุณภาพที่ครองใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับรองเครื่องหมายฉลากเขียวต่อเนื่อง

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตัวแทนเข้ารับเกียรติบัตรรับรองฉลากเขียว (Green Label) ในงาน “30 ปี TEI ก้าวไปกับภาคี สู่สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” จาก ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย โดยการรับรองในครั้งนี้เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มกระดาษพิมพ์เขียนภายใต้แบรนด์ในเครือดั๊บเบิ้ล เอ ที่ได้รับมาแล้วอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันและสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่คำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งมอบคุณค่าจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสนับสนุนเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2050