Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ เพาเวอร์ ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปีให้ดอกเบี้ยสูง 6.25 %

         โรงไฟฟ้าเอ็นพีเอส ในกลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ เพาเวอร์ จับมือธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 6.25 % ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เปิดจองซื้อ 9-11 พฤษภาคม 2554 นี้ คาดจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนเช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ดั๊บเบิ้ล เอ เมื่อปีที่ผ่านมา

 

        นายอภิชัย ซอปิติพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นพีเอส ในกลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ เพาเวอร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะออกหุ้นกู้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน โดยหุ้นกู้นี้จะมีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน วงเงินรวมไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2557 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนดหลังจากปีที่ 2  และเปิดจองซื้อในวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2554  วงเงินจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

 

        บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน เป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ของบริษัทฯ โดยวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อต้องการนำเงินไปใช้พัฒนาโครงการในกลุ่มบริษัทรองรับการเติบโตของธุรกิจ  บางส่วนจะนำไปใช้ในการจ่ายชำระหนี้ระยะสั้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

 

        นายอภิชัย กล่าวว่า "เอ็นพีเอส เชื่อว่าการออกหุ้นกู้ครั้งนี้น่าจะได้รับการตอบรับด้วยดีเช่นเดียวกับการออกหุ้นกู้ของดั๊บเบิ้ล เอ ครั้งที่ผ่านมา เพราะมีผลตอบแทนการลงทุนที่น่าสนใจ เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนและประชาชนทั่วไปที่ต้องการลงทุนในระยะที่ไม่ยาวมากนักและให้ผลตอบแทนที่ดี นอกจากนี้ธุรกิจไฟฟ้ายังเป็นธุรกิจที่มั่นคง และมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย"

 

        เอ็นพีเอส เป็นผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงชีวมวลในประเทศไทย ที่มีประสบการณ์ยาวนาน ปัจจุบันเอ็นพีเอส มีโรงไฟฟ้าทั้งหมด 5 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 435.2 เมกะวัตต์  โดยมีรายได้ที่มั่นคงจากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าระยะยาว 25 ปี และโรงงานอุตสาหกรรมในเขตอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งจำหน่ายไอน้ำให้กับดั๊บเบิ้ล เอ เพื่อใช้ในการผลิตเยื่อและกระดาษ ทำให้เอ็นพีเอสมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง

 

        บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีผลประกอบการแข็งแกร่ง รายได้รวมปี  2553 สูงถึง 7,680 ล้านบาท เพิ่มจาก 6,064 ล้านบาท ในปี 2552  หรือเพิ่มขึ้น  26%   และมีผลกำไรสุทธิ  1,229 ล้าน บาทในปี 2553  เพิ่มจาก 789 ล้านบาท ในปี 2552 ทั้งนี้การเติบโตของรายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำนั้น  ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้ซื้อกิจการโรงไฟฟ้า 3 โรง เข้ามาอยู่ในกลุ่ม  เพื่อนำมาบริหารจัดการโดยบริษัทย่อย  ทำให้บริษัทฯรับรู้รายได้จากการ ขายไฟฟ้าและไอน้ำของกิจการโรงไฟฟ้าดังกล่าวเข้ามาเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญในปี 2553

 

        นักลงทุนที่สนใจ สามารถจองซื้อได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา  และธนาคารออมสิน เฉพาะสำนักพหลโยธิน ในวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2554 นี้เท่านั้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา  โทร.1551 และธนาคารออมสิน สำนักพหลโยธิน โทร.02-2998616

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ เอาใจวัยใส ด้วยชุดเครื่องเขียน Sweet Memo Pad

ดั๊บเบิ้ล เอ ออกสินค้าต้วใหม่เอาใจวัยใส ด้วยชุดเครื่องเขียนดีไซน์เก๋ น่ารัก "Sweet Memo Pad" กระดาษโน้ตรูปแบบใหม่ ดีไซน์น่ารัก พิมพ์สีสันสดใสทุกแผ่น กว่า 36 แบบไม่ซ้ำกัน ทั้งแบบรูปหัวใจ ขนมเค้ก และ happy cup ในราคาเพียงเล่มละ 28 บาท เหมาะสำหรับการให้เป็นของขวัญและใช้บันทึกความทรงจำดีๆ หรือฝากข้อความหวานซึ้งแก่คนพิเศษได้ทุกช่วงเวลา เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่แผนกเครื่องเขียนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ,ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์, ร้านเครื่องเขียนดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่ และร้านเครื่องเขียนทั่วไป

ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ จัดกิจกรรมครบรอบ 20 ปี การ์ตูนชินจัง

ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ร่วมกับสำนักพิมพ์เนชั่น บุ๊คส์ จัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 20 ปี การ์ตูนชินจัง โดยจะมี “การประกวดเต้นเพลงชินจัง” เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจและคิดว่าตนเองสามารถเต้นได้เหมือนชินจังมากที่สุด ไม่จำกัดเพศและวัยของผู้สมัคร ชิงรางวัลรวมกว่า 10,000 บาท ซึ่งจะแข่งขันในวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2553 และกิจกรรมแข่งขัน “20 คำถามท้าแฟนพันธุ์แท้ชินจัง” ลุ้นรับรางวัลใหญ่จากดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์และสำนักพิมพ์เนชั่น บุ๊คส์ ในวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2553 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่เคาน์เตอร์ชั้น1 ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทยบนถนนสาทร 12 หรือ www.DoubleAbooktower.com ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2553 และในระหว่างวันที่ 20 มีนาคม-11 เมษายน 2553 ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ จัดมหกรรมหนังสือลดพิเศษ 15-70% ทุกชั้น ทุกโซน เพื่อส่งเสริมสังคมไทยรักการอ่านและกิจกรรมดีๆ จากสำนักพิมพ์มากมายตลอดงาน

ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ รวมพลคนรักการอ่าน จัดมหกรรมหนังสือครั้งยิ่งใหญ่ 15-70%

ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทยบนถนนสาทร 12 ได้จัดมหกรรมหนังสือลดพิเศษ 15-70% ทุกชั้น ทุกโซน เพื่อให้คนไทยสามารถเลือกหาหนังสือที่ชื่นชอบ หนังสือใหม่ จากสำนักพิมพ์กว่า 1,000 แห่งทั่วไทย รวมกว่า 1 ล้านปก นอกจากนี้ ลูกค้าสมาชิกดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ยังได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 3% และพบกับกิจกรรมดีๆ จากสำนักพิมพ์มากมาย อาทิ เสวนาธรรมโดยพระอาจารย์สมพงษ์ จากธรรมะเดลิเวอร์รี่ , กิจกรรมฉลองครบรอบ 20 ปี การ์ตูนชินจัง, เรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านบทเพลง เป็นต้น ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม - 11 เมษายน 2553 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1759 ดั๊บเบิ้ล เอ ฮอตไลน์หรือ www.DoubleAbooktower.com

ดั๊บเบิ้ลเอ เปิดบ้านต้อนรับคณะอาจารย์และนักเรียนจากโรงเรียนวัดบุยายใบและโรงเรียนย่านนางวิ่ง จังหวัดปราจีนบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษแก้โลกร้อน เปิดบ้านต้อนรับ อาจารย์และนักเรียนจากโรงเรียนวัดบุยายใบและโรงเรียนย่านนางวิ่ง จ.ปราจีนบุรี เยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยกระดาษดั๊บเบิ้ลเอ 1 รีมสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 3 กิโลกรัม อีกทั้งยังทำของเสียไม่ให้เสียของ ด้วยการนำเศษวัสดุจากการผลิต อาทิ เศษไม้ เปลือกไม้ น้ำมันยางดำ ส่งไปใช้ประโยชน์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ แคมเปญ Double A Heroes ที่ผู้ใช้กระดาษทุกคนสามารถกลายเป็นฮีโร่ได้อย่างง่ายๆ

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะเยี่ยมชมจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษแก้โลกร้อน เปิดบ้านต้อนรับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษคุณภาพสูงของดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งให้ความสำคัญกับพลังงานทดแทน ด้วยการทำของเสียไม่ให้เสียของ ใช้ประโยชน์จากเศษไม้ เปลือกไม้ น้ำมันยางดำ ซึ่งเป็นของเหลือที่ไม่ได้ใช้ในการผลิตเยื่อมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล แทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เพื่อเป็นพลังงานใช้หมุนเวียนภายในโรงงาน และสามารถกระจายสู่ชุมชนอีกกว่า 400,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ เทียบเท่ากับการลดการใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิง- ฟอสซิลได้ถึง 340 ล้านลิตรต่อปี เป็นการประหยัดการนำเข้าน้ำมันนับ 10,000 ล้านบาทต่อปี