ดั๊บเบิ้ล เอ ทุ่มงบกว่า 6 พันล้าน ตั้งโรงกระดาษ 3 ใน 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค มั่นใจไร้ปัญหาน้ำท่วม
ดั๊บเบิ้ล เอ มั่นใจเศรษฐกิจไทยพร้อมเดินหน้า ลงทุน 6,600 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตกระดาษแห่งที่ 3 ในสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 820,000 ตันต่อปี รองรับการเติบโตของแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ในตลาดโลก คาดสามารถเดินเครื่องผลิตสิ้นปี 2555 มั่นใจทำเลปลอดภัยจากอุทกภัย เนื่องจากอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 20 เมตร
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดั๊บเบิ้ล เอ มีแผนงานลงทุนตั้งโรงงานผลิตกระดาษแห่งที่ 3 ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อขยายกำลังการผลิตกระดาษให้เพิ่มขึ้นเป็น 820,000 ตันต่อปี จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 599,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ เนื่องจากขณะนี้ดั๊บเบิ้ล เอ มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอรองรับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งมีตลาดกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ครอบคุลมทั้ง เอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง
"ดั๊บเบิ้ล เอ ตัดสินใจขยายการลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากดั๊บเบิ้ล เอ ต้องการเร่งเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันกับการเติบโตของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ในตลาดโลก โดยเมื่อโรงกระดาษแห่งนี้เดินหน้ากำลังการผลิตได้เต็มที่ จะทำให้ดั๊บเบิ้ล เอมียอดเติบโตในตลาดโลกมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตลาดใหม่ๆ ในหลายประเทศในแถบยุโรปตะวันออกและแอฟริกา และเชื่อมั่นว่า วิกฤตอุทกภัยที่ผ่านมา จะไม่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพราะประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมรองรับการลงทุนในหลายด้าน" นายชาญวิทย์ กล่าว
ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีโรงงานเยื่อ 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 599,000 ตันต่อปี และโรงงานกระดาษ 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 599,000 ตันต่อปี ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จังหวัดปราจีนบุรี โดยใช้วัตถุดิบในการผลิต คือ ต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ วิจัยและพัฒนาพันธุ์จนประสบความสำเร็จ และส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกบนคันนาเพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมแล้ว 1.5 ล้านราย และสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรปีละไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท และสามารถสร้างรายได้จากการส่งออกกระดาษให้กับประเทศไม่น้อยกว่าปีละ 10,000 ล้านบาท โดยนับเป็นผู้ผลิตรายเดียวในประเทศไทยและในตลาดโลกที่ผลิตกระดาษจากคันนา และใช้ตราสัญญลักษณ์ Paper from KHAN-NA ซึ่งทำให้ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยลดโลกร้อน
เหตุที่ดั๊บเบิ้ล เอ เลือกตั้งโรงกระดาษแห่งที่ 3 ในพื้นที่ของสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค เนื่องจาก เป็นพื้นที่ในบริเวณเดียวกับที่ตั้งโรงงานเดิม ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอเคยมีการสำรวจและศึกษามาแล้วตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน ว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในหลาย ๆ ด้าน ที่สำคัญคือ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 20 เมตร ไม่มีปัญหาเรื่องอุทกภัย ซึ่งจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา ก็พิสูจน์แล้วว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ด้วยโครงสร้างพื้นดินที่แข็งและหนาแน่น ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักอาคารและเครื่องจักรขนาดใหญ่ได้ ถึง 2.5 ตันต่อตารางเมตร ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการสร้างรากฐานโรงงานได้ถึง 20% และยังมีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีอีกด้วย
หลังจากวิกฤตอุทกภัยที่ผ่านมา มีนักลงทุนหลายรายที่ยังเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศไทย และได้เลือกย้ายฐานผลิตหรือตั้งโรงงานแห่งใหม่ในสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนกว่า 10 รายที่เข้ามาลงทุนแล้วนับตั้งแต่ต้นปี 2555 เป็นต้นมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ อุตสาหกรรมผลิตเครื่องถ่ายเอกสาร CANON PRACHINBURI (THAILAND) CO., LTD. อุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องจักร NICCO MACHINE CO., LTD. NORTHLAND CO., LTD. SANWA METAL CO., LTD. SATO PRESS KOGYO CO., LTD. THAI KYOWA GMB CO., LTD. อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ TAGA CO., LTD. และ Y-TEC CO., LTD. และอุตสาหกรรมไอศครีมจากประเทศมาเลเซีย WINSOME GREEN CO., LTD.
ทำให้ในปี 2555 นี้ เฉพาะการลงทุนในสวนอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์คแห่งเดียว ก็ช่วยให้เกิดการลงทุนในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 11,600 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 10,400 คน ซึ่งนับเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเป็นอย่างดี และทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยพร้อมจะเดินหน้าต่อไป