โครงการปลูกปัญญา 80 โรงเรียน

สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานและดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมจับมือองค์กรพันธมิตรอีก 7 แห่ง จัดโครงการปลูกปัญญา 80 โรงเรียนในชนบท นำร่องปลูกให้กับโรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูลและเตรียมขยาย สู่โรงเรียนที่ขาดแคลนให้ครบ 80 แห่งภายในปีนี้ เพื่อใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน และดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) บริษัทประกันภัย ไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) บริษัทอินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ จำกัด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทโพสต์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา และกลุ่มมหพันธ์ผลิตภัณฑ์เฌอร่าและห้าห่วงในการจัดโครงการ“ปลูก ปัญญา 80 โรงเรียนในชนบท” ขึ้น เพื่อต้องการให้โรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าวทั้ง 80 โรงเรียน ได้ใช้ พื้นที่ว่างเปล่าของโรงเรียนให้เกิดประโยชน์ด้วยการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ เพื่อเป็นการทำให้พื้นที่ว่างเปล่า กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีต้นไม้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มออกซิเจนและดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นการร่วมบรรเทาภาวะ โลกร้อนอีกทางหนึ่ง และขณะเดียวกันยังสามารถตัดมาจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับโรงเรียนเพื่อใช้เป็นทุนใน การพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนทั้ง 80 โรงเรียน และการปลูกต้นไม้นี้ยังสามารถปลูกหมุนเวียนได้อย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า สำหรับโครงการปลูกปัญญา 80 โรงเรียนในชนบทที่ได้จัดขึ้นในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้โรงเรียนในชนบทในพื้นที่ภาคอีสานและภาคตะวันออกที่มี พื้นที่ว่างไม่ได้ใช้ประโยชน์และต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถโทรมาแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการได้ที่สาย ด่วน 1759 ดั๊บเบิ้ล เอ ฮอทไลนส์ โดยแจ้งความประสงค์ว่าจะต้องการเข้าร่วมโครงการเพื่อนำรายได้ไปพัฒนานัก เรียนและโรงเรียนอย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาคัดเลือกโรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการจำนวน 80 แห่ง และ หลังจากที่โรงเรียนได้รับการคัดเลือกแล้ว ทางโครงการก็จะมอบต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ให้กับโรงเรียนนำไปปลูกแห่ง ละ 500 ต้น โดยโรงเรียนที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงกลางปี 2551ซึ่งหากดำเนินโครงการ ได้ครบแล้วจะช่วยเพิ่มการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ว่างได้ไม่น้อยกว่า 40,000 ต้น และกลายเป็นทุนการศึกษาให้กับโรง เรียน ๆ ละ 50,000 บาท หรือรวมทั้งโครงการ 4 ล้านบาทภายใน 3 ปี และสามารถนำมาเป็นทุนหมุนเวียนสร้างทุนการ ศึกษาได้ตลอดไป รวมทั้งลูกค้าของดั๊บเบิ้ล เอ ก็จะร่วมสนับสนุนการปลูกต้นไม้ให้กับโรงเรียนได้ โดยทุกยอดสั่งซื้อ ตั้งแต่ 12 รีมขึ้นไป ผ่านสายด่วน 1759 ก็จะช่วยเพิ่มยอดต้นไม้ที่จะบริจาคให้กับโรงเรียนอีก 1 ต้น

ทั้งนี้โครงการดังกล่าว มีต้นแบบมาจากโรงเรียนโคกกระท้อนในจังหวัดปราจีนบุรีที่ได้นำต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ไปปลูกตามพื้นที่ว่างของโรงเรียน ตั้งแต่ปี 2535 และมีการขยายการปลูกจนมีเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ และตัดเพื่อจำ หน่ายแล้วประมาณ 3 ครั้ง และมีรายได้แล้วประมาณ 4 แสนบาท โดยรายได้ดังกล่าวทางโรงเรียนได้นำมาใช้ในการ พัฒนาการศึกษาของนักเรียน อาทิ สร้างสนามฟุตบอล เติมอาคารเรียน 4 ห้อง ซื้อกล้องดิจิตอลและซื้อคอมพิวเตอร์ ให้กับนักเรียนเพื่อใช้ในการศึกษา จึงเป็นที่มาของโครงการปลูกปัญญาในครั้งนี้

“ในวันนี้ผู้ร่วมโครงการทุกคนได้ร่วมกันนำต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มาปลูกในพื้นที่ของโรงเรียนฉะเชิงเทรา ปัญญานุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนสงเคราะห์พิเศษ สำหรับเด็กพิการทางสมอง จำนวน 500 ต้น ซึ่งต้นกระดาษทั้ง 500 ต้น นี้ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนประมาณ 50,000 บาท และจะเป็นแหล่งที่สร้างรายได้ หมุนเวียนอย่างต่อเนื่องให้กับโรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูล เช่นเดียวกับโรงเรียนโคกกระท้อนต่อไป ซึ่งโครง การนี้ถือเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการล้านความรู้ในตู้หนังสือ ที่เราต้องการส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ให้กับ คนไทยแต่โครงการดังกล่าว เราก็ไม่สามารถมอบหนังสือให้กับโรงเรียนได้ทุกแห่งที่ต้องการ ดังนั้นโครงการนี้ ก็จะ เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่เราคิดว่าโรงเรียนจะได้มีทุนในการพัฒนานักเรียนของตนเองได้ตลอดไป โดยการใช้พื้นที่ว่าง มาทำให้เกิดประโยชน์” นายชาญวิทย์ กล่าว

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาดั๊บเบิ้ล เอ ได้สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ควบคู่กับพืชชนิดอื่นๆ ในลักษณะสวนผสม ตามพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่น หัวไร่คันนา ซึ่งถือเป็นการสร้างงานสร้างรายได้เสริม ให้กับเกษตรกรได้ถึง 1.5 ล้านครอบครัว และสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับชุมชนได้ถึง 5,000 ล้านบาทต่อปี และจากตัวอย่างของโรงเรียนโคกกระท้อนที่ประสบความสำเร็จจากการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ มุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้ให้กับโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลอย่างต่อเนื่อง และยังถือเป็นการสร้างความยั่งยืนในด้าน วัตถุดิบโดยไม่ต้องพึ่งการใช้ไม้จากป่าธรรมชาติให้กับผู้ผลิตกระดาษอีกด้วย