Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรม A to a เรียนรู้อาชีพ “ช่างภาพออนไลน์” ในยุคดิจิตอล

คงปฎิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนี้ผู้คนทั่วทุกมุมโลกสามารถรับรู้เรื่องราวข่าวสาร ติดต่อสื่อสารเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ไร้ขอบเขต ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งจากคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่กลายเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตของคนเราไปแล้ว ทำให้สื่อออนไลน์กลายเป็นสื่อที่ได้รับความนิยม เป็นช่องทางสร้างรายได้ที่มีมูลค่ามากมายและเกิดอาชีพที่น่าสนใจอย่าง “ช่างภาพออนไลน์” ที่กิจกรรม A to a ปลูกฝัน ปลูกปัญญาของดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีโอกาสเชิญช่างภาพอิสระมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับน้องๆ ได้รู้จักกับอาชีพมาแรงในยุคดิจิตอลนี้ ณ โรงเรียนวัดใหม่กรงทอง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า “กิจกรรม A to a ปลูกฝัน ปลูกปัญญา ถือเป็นหนึ่งในโครงการ Double A Better Tomorrow ที่ได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2557 ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่จะเติมเต็มฝันให้กับลูกหลานชาวนาและเยาวชนโดยเฉพาะเยาวชนในชนบทได้มีโอกาสเรียนรู้และรับคำแนะนำจากผู้ประสบความสำเร็จ ดั๊บเบิ้ล เอ จึงได้ชวนพี่ๆ ในแต่ละอาชีพ ให้มาเป็นพี่ A (ใหญ่) เพื่อร่วมสร้างแรงบันดาลใจและถ่ายทอดประสบการณ์ให้น้อง a (เล็ก) ซึ่งหมายถึง ลูกหลานชาวนา และเยาวชนได้กล้าคิดกล้าฝัน ก้าวสู่อาชีพที่ดีในอนาคต”

กิจกรรมครั้งนี้ก็ได้เชิญพี่ A คือ คุณวิทูร บุญชู หรือพี่ทูร และคุณนภสินธุ์ ฉันทวงศ์วิริยะหรือพี่หลิน ช่างภาพอิสระและแอดมินของ Shutterstock Thailand Contributors มาเป็นพี่ A (ใหญ่) แนะนำอาชีพและเวิร์กช็อปการถ่ายภาพให้กับน้องๆ a (เล็ก) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวัดใหม่กรงทองและโรงเรียนศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี รวม 60 คน

โดยภาคเช้า พี่ทูรและพี่หลิน ได้เล่าถึงหลักสำคัญของการเป็นช่างภาพออนไลน์ รู้จักการถ่ายภาพสต็อกเพื่อขายทางเว็บไซต์ที่ขายภาพออนไลน์เรียกว่า Microstock เรียนรู้ตั้งแต่การเริ่มสมัครเป็นสมาชิกซึ่งต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ในเว็บไซต์ที่รับขายภาพที่มีอยู่กว่า 30 เว็บและมีลูกค้าอยู่ทั่วโลก เช่น shutterstock, iStockphoto,Fotolia, Dreamstime เป็นต้น ประเภทของภาพที่ลูกค้าสนใจ องค์ประกอบภาพ รวมถึงระบบการซื้อขาย เป็นต้น ถือเป็นโอกาสให้กับผู้รักการถ่ายภาพได้ใช้ทักษะความสามารถสร้างรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง โดยรายได้ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักล้านบาทต่อเดือนทีเดียว

นอกจากนี้น้องๆ ได้มีโอกาสดูสาธิตการถ่ายภาพด้วยโดรน หรืออากาศยานไร้คนขับที่เป็นนวัตกรรมที่นำมาบันทึกภาพเคลื่อนไหวในมุมสูง หลังจากนั้นน้องๆยังเข้าร่วมเวิร์กช็อปการใช้กล้องถ่ายรูป เพื่อทดลองถ่ายภาพในแสงต่างๆ แบ่งเป็น 5 ฐานกิจกรรม ได้แก่ ฐานที่ 1 ถ่ายภาพวัตถุในแสงธรรมชาติ ฐานที่ 2 ถ่ายภาพในแสงต่อเนื่อง ฐานที่ 3 ถ่ายภาพในแสงแฟลช ฐานที่ 4 ถ่ายภาพในแสงสตูดิโอ และฐานที่ 5 ถ่ายภาพ Stop motion โดยมีพี่ A และพี่ๆดั๊บเบิ้ล เอ ช่วยแนะนำเทคนิคให้น้อง a ได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นน้องๆ ก็แบ่งกลุ่ม แสดงฝีมือถ่ายภาพสต็อกตามมุมมองของตัวเอง พร้อมคัดเลือกภาพที่ดีที่สุดให้กับพี่ A ตัดสินและให้คำแนะนำ

คุณวิทูร บุญชู (พี่ทูร) ให้คำแนะนำกับน้อง a ว่า “การที่จะก้าวสู่อาชีพช่างภาพออนไลน์ น้องๆต้องมีใจรักการถ่ายภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ มีไอเดีย ตกแต่งภาพได้ มีความรู้ภาษาอังกฤษเพราะรูปภาพเราขายคนทั่วโลก ต้องใช้ในการตั้งชื่อภาพและคำสืบค้น รวมทั้งเข้าใจลูกค้า ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งอาชีพนี้มีความน่าสนใจคือลูกค้ามีอยู่ทั่วโลก เป็นอาชีพอิสระ ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดว่าเรียนจบคณะไหน ขอแค่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปก็สร้างรายได้จากการขายภาพได้แล้ว ภาพทุกรูปขายได้ เพียงแค่มีมุมมอง”

น.ส.กาญจนา ผิวฉ่ำ หรือน้องใบหม่อน ชั้นม.6 บอกเล่าความรู้สึกที่เข้าร่วมกิจกรรมว่า “ชอบการถ่ายภาพโดยมีแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ เห็นภาพที่ถ่ายออกมาสวยค่ะ ส่วนใหญ่ชอบถ่ายภาพบุคคลและภาพวิวทิวทัศน์ จากที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ได้ประโยชน์เยอะมากค่ะ ได้รู้จักอุปกรณ์การถ่ายภาพ การจัดแสง การจัดวางองค์ประกอบภาพและก็เพิ่งรู้ว่ารูปภาพที่ถ่ายสามารถขายทางออนไลน์ได้ด้วยค่ะ”

นายปิยนัส แสงเทศ หรือน้องโตโต้ ชั้นม.6 “สนใจการถ่ายภาพมานานแล้วครับ โดยเริ่มจากใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพก่อน แล้วรู้สึกชอบ จึงเก็บเงินซื้อกล้องฝึกฝนเรียนรู้การถ่ายภาพจากรุ่นพี่และเพื่อนพ่อที่เป็นช่างภาพ และตอนนี้ก็ช่วยถ่ายภาพกิจกรรมต่างๆให้โรงเรียนครับ สำหรับกิจกรรม A to aในครั้งนี้ได้รับความรู้ในเรื่องถ่ายภาพในแสงต่างๆ ได้ฟังพี่ A เล่าถึงอาชีพช่างภาพออนไลน์ มีเว็บที่สามารถขายรูปได้ เป็นรายได้เสริม รวมทั้งเข้าใจว่าประเภทของภาพสต็อกว่ามีอะไรบ้าง ส่วนอาชีพในฝันอยากเป็นทหาร ถึงจะเป็นทหารก็ถ่ายรูปได้ เพราะเป็นสิ่งที่รักและชอบครับ”

ใครจะเชื่อว่า การถ่ายภาพที่บางคนเป็นแค่งานอดิเรก เป็นกิจกรรมยามว่างที่ชื่นชอบ แต่มาในยุคนี้กลับสร้างรายได้เสริมหรือยึดเป็นอาชีพหลักให้กับตัวเองนับเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ดั๊บเบิ้ล เอ จุดประกายแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ a ได้ค้นหาตัวตนก้าวสู่อาชีพในฝัน สามารถติดตามคลิปพี่ A อาชีพต่างๆได้ที่ Youtube Double A Thailand

 

ภาพประกอบสกู๊ป

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ
หลินสอนเทคนิคถ่ายภาพให้น้อง a
น้องใบหม่อน
ผลงานถ่ายภาพของน้อง a
แสดงฝีมือถ่ายภาพสต็อก
เวิร์กช็อปการถ่ายภาพในแสงต่างๆ
เรียนรู้อาชีพ ช่างภาพออนไลน์
น้องโตโต้
คุณวิทูร บุญชู
เวิร์กช็อปการถ่ายภาพในแสงต่างๆ
สาธิตการบันทึกภาพด้วยโดรน
A to a ปลูกฝัน ปลูกปัญญา

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ รับรางวัลสุดยอดแบรนด์ชั้นนำ "Superbrands" 4 ปีซ้อน

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ รับรางวัลสุดยอดแบรนด์ชั้นนำ “Superbrands” ประจำปี 2013 จากมร.ไมค์ อิงลิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ องค์กรซุปเปอร์แบรนด์ โดย ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งผ่านการคัดเลือกจากผู้บริโภคและคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในหลากหลายสาขาอาชีพ ให้ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นสุดยอดแบรนด์ด้วยความเป็นผู้นำตลาด ความแข็งแกร่งของแบรนด์ ความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค จากการสำรวจทางการตลาดทั้งหมดกว่า 650 แบรนด์ ใน 37 กลุ่มผลิตภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอและกทม. ชวนบรรณารักษ์ สร้างห้องสมุดในฝัน ส่งเสริมเด็กไทยรักการอ่าน

การอ่านคือการเปิดโลกกว้าง เปิดมุมมองจากความคิดของผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือ และสำนวนที่หลากหลายชวนติดตาม โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาชี้ว่าร้อยละ 80-90 ของความรู้และข้อมูลที่มนุษย์ต้องการ ค้นหาได้จากการอ่าน นอกจากนี้ การอ่านยังเป็นช่องทางในการเสริมสร้างจินตนาการและความคิด ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์อีกด้วย ดั๊บเบิ้ล เอ เล็งเห็นความสำคัญของการอ่านและได้มีการส่งเสริมสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จัดงานสัมมนาบรรณารักษ์ประจำปี 2556 ภายใต้หัวข้อ “ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ชวนบรรณารักษ์ สร้างห้องสมุดในฝัน” เพื่อส่งเสริมให้อาจารย์และบรรณารักษ์ได้นำความรู้ไปพัฒนาห้องสมุดภายในโรงเรียนและในชุมชนให้เป็นห้องสมุดในฝันของเด็กๆ โดยมี ศาสตราจารย์คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต นายกสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย และอาจารย์เจริญ มุศิริ ครูเกียรติยศ สาขาบรรณารักษศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ให้เกียรติมาเป็นวิทยากรสร้างสรรค์สังคมรักการอ่าน ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากครูบรรณารักษ์จากโรงเรียนต่างๆ และเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ห้องสมุดชุมชน กรุงเทพมหานคร มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก การสัมมนาเริ่มด้วยการบรรยายของอาจารย์เจริญ มุศิริ ที่ชักชวนเหล่าบรรณารักษ์จัดกิจกรรมในห้องสมุดเพื่อเป็นการจูงใจเด็กๆ เข้ามาใช้ห้องสมุดมากยิ่งขึ้น โดยการนำบทเรียนมาบูรณาการเข้ากับกิจกรรมที่สนุกสนานทั้งร้อง เล่น เต้น รำ สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เด็กๆสนใจในกิจกรรมและซึมซับเนื้อหาสาระไปโดยไม่รู้ตัวและเกิดการจดจำได้ง่าย “การสร้างห้องสมุดในฝันจำเป็นต้องมีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือการมีส่วนร่วมของคนในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐและเอกชน โดยเริ่มจากครอบครัวที่จะต้องปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านตั้งแต่เด็ก ซึ่งควรเริ่มจากการอ่านจากภาพ เพื่อสร้างจินตนาการในการคิด แล้วค่อยพัฒนาการอ่านเป็นหนังสือประเภทอื่นๆต่อไป ในส่วนของโรงเรียนก็ควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการความรู้กับกิจกรรมสันทนาการเพื่อจูงใจเด็กนักเรียน เช่นการจัดประกวดทักษะต่างๆ หรือกิจกรรมบันทึกการอ่าน โดยมีการเสริมเรื่องของรางวัลเพื่อจูงใจ และส่วนสุดท้ายชุมชนต้องให้ความสำคัญกับการอ่านด้วยเช่นกัน มีกิจกรรมให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง” อาจารย์เจริญ กล่าว ขณะที่คุณสุนิสา ปานเจริญ เจ้าพนักงานห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ กรุงเทพมหานคร (เขตลาดกระบัง) เล่าว่า “การได้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ได้ความรู้และแนวทางในการจัดบรรยากาศห้องสมุดให้ดึงดูดประชาชนเข้ามาใช้บริการ โดยปกติห้องสมุดประชาชน เขตลาดกระบัง ก็มีการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดประชาชนอยู่แล้ว แต่การได้เข้าร่วมการอบรมทำให้มีแนวคิดทางด้านการจัดกิจกรรมใหม่ๆ เปิดมุมมองใหม่ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของบรรณารักษ์อีกด้วย” ต่อด้วยช่วงบ่ายที่เป็นการบรรยายของผู้ทรงคุณวุฒิที่อยู่ในวงการศึกษาไทยมานานอย่าง ศ.คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต นายกสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ที่นำประสบการณ์ในการทำงานมาเล่าสู่กันฟัง ถึงการผลักดันกิจกรรมห้องสมุดให้เป็นที่แพร่หลาย โดยท่านได้ให้แนวคิดของการจัดห้องสมุดให้เป็นห้องสมุดในฝันว่า “การจัดห้องสมุดให้อยู่ในพื้นที่เข้าถึงได้ง่าย สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ให้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่ายขึ้น ซึ่งห้องสมุดระดับโลกมักจะสร้างรูปลักษณ์การดีไซน์ที่ทันสมัย อย่างเช่น Salt Lake City Public Library ในสหรัฐอเมริกา ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามใหญ่โต และยังมีการสร้างบรรยากาศด้วยการเปิดเพลงคลอให้ผู้ใช้บริการเพลิดเพลิน รวมถึงการจัดหาหนังสือให้ครอบคลุมความต้องการของผู้อ่าน และที่สำคัญการสร้างห้องสมุดในประเทศไทย ภาครัฐควรส่งเสริมงบประมาณที่จะสามารถจัดหาหนังสือดีมีคุณภาพ สื่ออิเล็กโทรนิกส์ และการเพิ่มจำนวนห้องสมุดให้มีเพียงพอใช้งาน หรือเพียงแบ่งงบประมาณร้อยละ 5 ของงบประมาณแผ่นดินก็สามารถสร้างห้องสมุดที่ดีมีคุณภาพไว้ให้ประชาชนใช้บริการได้แล้ว” ส่วนผู้ร่วมเข้าฟังสัมมนาอย่าง คุณเอื้อมพร พรหมนรกิจ ครูบรรณารักษ์ โรงเรียนประดิษฐารามวิทยาคม กล่าวว่า จากการสัมมนาในวันนี้ก็ได้ความคิดใหม่ๆ ที่จะนำไปเป็นเทคนิคปรับใช้กระตุ้นความคิดของเด็กนักเรียนให้เกิดความสนใจ ก็จะช่วยนำไปสู่การอ่านให้มีมากขึ้น เช่น ผ่านการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ที่สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ ซึ่งจะทำให้เด็กนักเรียนเข้ามาใช้ห้องสมุดมากขึ้น การสัมมนา “ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ชวนบรรณารักษ์ สร้างห้องสมุดในฝัน” ในครั้งนี้ จะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนหนึ่ง ที่ดั๊บเบิ้ล เอ และกรุงเทพมหานคร ต้องการส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมอุดมปัญญา ปลูกฝังให้เกิดนิสัยรักการอ่านอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเยาวชนไทย ซึ่งเป็นอนาคตอันสำคัญของประเทศชาติ เราคงไม่อยากหยุดสถิติการอ่านของคนไทยไว้ที่ปีละ 5 เล่มเท่านั้น แต่เราหวังไว้ว่านิสัยรักการอ่านจะอยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของคนไทยทุกเพศและทุกวัย

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบรางวัลพนักงานจัดส่งดีเด่นด้านประหยัดเชื้อเพลิง

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน ทำพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับพนักงานจัดส่งดีเด่นด้านประหยัดเชื้อเพลิง โดยมีนายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ ให้เกียรติมอบเกียรติบัตรและเงินรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจและยกย่องพนักงานที่มีผลงานด้านการควบคุมปริมาณการใช้เชื้อเพลิงดีเยี่ยม โดยกิจกรรมนี้ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 1.2 ล้านบาท เทียบเท่ากับการลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 44,502 กิโลกรัม และจะยังคงดำเนินการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหนึ่งในการมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงานและใช้พลังงานสะอาด หลังจากเมื่อปี 2549 ดั๊บเบิ้ล เอ มีโมเดลความสำเร็จในการพัฒนารถบรรทุกที่ติดตั้งและใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซ NGV เป็นรายแรกของประเทศไทย

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน เปิดบ้านต้อนรับคณะนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือ AIT (Asian Institute of Technology) เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และศึกษาโมเดล “กระดาษจากคันนา” ช่วยสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรจากการปลูกต้นกระดาษบนคันนาหรือพื้นที่ว่างทางการเกษตรให้เกิดประโยชน์และเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยลดโลกร้อน พร้อมทั้งเรียนรู้แนวคิดของเหลือใช้ไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า ด้วยการนำของเหลือจากการผลิตเยื่อและกระดาษมาเป็นเชี้อเพลิงชีวมวลผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าใช้ในกลุ่มโรงงานและเหลือพอกับการใช้ของชุมชนโดยรอบ

ดั๊บเบิ้ล เอ รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว CSR-DIW Award

อิมแพค เมืองทองธานี - นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เข้ารับรางวัล CSR-DIW Award ปี 2556 จากกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้โครงการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างมีส่วนร่วม (Corporate Social Responsibility, Department of Industrial Works: CSR-DIW) ซึ่งต้องการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมนำแนวคิดด้านความรับผิดชอบต่อสังคมมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สามารถเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน โดยดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน ส่งเสริมเกษตรกรให้มีรายได้เสริมจากการปลูกต้นกระดาษบนคันนาที่ว่างเปล่า และมีส่วนช่วยลดโลกร้อน