Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ ให้ใจ ให้แรงบันดาลใจ จัดกิจกรรม “A to a” อาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์

เมื่อเอ่ยถึงสวนสัตว์ ก็จะต้องนึกถึงเด็กๆ ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆที่ในวัยเด็ก พ่อแม่หรือแม้แต่โรงเรียนต้องพาไปเที่ยวชมความน่ารักและชีวิตของสัตว์หลากหลายชนิด แต่ในวันนี้ เรามิได้มาแค่เรียนรู้เรื่องราวของเหล่าสัตว์กว่า 1,000 ชีวิตที่นี่เท่านั้น เพราะเราจะพาเยาวชนมาเจาะลึกกับผู้อยู่เบื้องหลังที่ดูแลรับผิดชอบสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้ และจุดประกายความฝันให้กับน้องๆที่รักสัตว์ ได้รู้จักกับอาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์ ภายใต้กิจกรรม "A to a" ในโครงการ Double A Better Tomorrow ปลูกฝัน ปลูกปัญญา  เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกหลานชาวนาและเยาวชน ก้าวสู่อาชีพในฝัน โดยมีพี่ A (ใหญ่) ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนั้นๆ มาแนะนำถ่ายทอดประสบการณ์ให้น้องๆ a (เล็ก) เป็นการจุดประกายความฝัน ค้นหาตัวเองและทำให้เป็นจริงได้

กิจกรรมในครั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้พาน้องๆจากโรงเรียนบ้านโป่งไผ่ ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ร่วมเรียนรู้อาชีพสัตวแพทย์และนักโภชนาการสัตว์ ณ สวนสัตว์ดุสิต กรุงเทพฯ ซึ่งสวนสัตว์ดุสิตหรืออีกชื่อว่า เขาดินวนา แต่เรามักเรียกติดปากว่า “เขาดิน” มีพื้นที่รวมกว่า 118 ไร่  สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ภายในบริเวณพระราชวังดุสิต เป็นสวนพฤกษชาติส่วนพระองค์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 8 ได้ทรงให้ทางเทศบาลกรุงเทพฯ จัดสร้างให้เป็นสวนสัตว์และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทุกระดับชั้น และมีการปรับปรุงพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ ตลอดมา

เริ่มต้นกิจกรรมช่วงแรก น้องๆกว่า 30 คน นั่งรถรางวนรอบสวนสัตว์ เพื่อรู้จักโซนต่างๆภายในเขาดินกันก่อน  ซึ่งทุกคนต่างตื่นเต้นสนุกสนานกับการชมสัตว์ทั้งสองข้างทาง พร้อมฟังบรรยายจากวิทยากรพาชม ใช้เวลาราว 15 นาที ต่อจากนั้น ก็ถึงช่วงเวลาที่น้องๆจะได้ไปพบกับพี่ A (ใหญ่) นับเป็นโอกาสอันดีที่น้องๆได้ชมเบื้องหลังการทำงานในส่วนปฎิบัติการกันเลยทีเดียว

สำหรับอาชีพน่ารู้ อาชีพแรกนั่นคือ สัตวแพทย์ โดยมีพี่ A (ใหญ่) มาร่วมเป็นดั๊บเบิ้ล เอ อาสา คือ “คุณหมอปัณ” สัตวแพทย์ปัณณวัฒน์  สุภาพรรณชาติ จบจากคณะสัตวแพทยศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหน้าที่ดูแลรักษาสัตว์ที่เจ็บป่วยในสวนสัตว์แห่งนี้ ได้แนะนำแนวทางให้กับน้องๆ พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ว่า “เบื้องต้นสิ่งที่น้องๆที่อยากก้าวสู่อาชีพนี้ ต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเลือกเรียนสายสามัญ แผนการเรียนวิทย์-คณิต  เพื่อสอบเข้าคณะสัตวแพทยศาสตร์ ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 6 ปี นอกจากน้องๆต้องขยันตั้งใจให้มากแล้ว ยังต้องไม่กลัวบาดแผลและเลือด และทนเห็นความเจ็บปวดได้ เพราะไม่ใช่เราจะช่วยให้สัตว์รอดชีวิตได้ทุกตัว เป็นสิ่งที่ต้องเจอคล้ายกับการเรียนหมอนั่นเอง แต่หากเรารักสัตว์แต่ไม่ชอบเห็นเลือด หนอง ก็อาจจะเรียนไปทางสัตวศาสตร์ สัตวบาลแทนได้”

คุณหมอเล่าว่า สัตว์ไม่สามารถพูดหรือบอกอาการได้เหมือนกับมนุษย์ ฉะนั้นนี่คือความท้าทายที่เราต้องรู้จักสังเกตว่าการแสดงออกในลักษณะต่างๆ มันสะท้อนถึงอาการเช่นไร ซึ่งคุณหมอบอกว่าขณะเรียนก็ศึกษาสัตว์หลากหลายชนิดทั้ง หมา แมว นก ไก่ หมู วัว ฯลฯ แต่ไม่มีการเรียนเรื่องสัตว์ป่า ดังนั้นพอถึงเวลาทำงาน ก็สามารถนำมาปรับใช้กับสัตว์ในประเภทคล้ายกัน เช่น เสือกับแมว หมีกับหมา เป็นต้น  อาชีพนี้ถือว่าต้องมีความเสียสละ ทุ่มเท และรักสัตว์ หน้าที่การทำงานในแต่ละวันของคุณหมอคือมาทำงานแต่เช้า ปั่นจักรยานทั่วสวนสัตว์เพื่อดูความผิดปกติของสัตว์ จากนั้นก็กลับมาที่โรงพยาบาลดูแลสัตว์ที่บาดเจ็บ พักรักษาตัว หลังจากนั้นก็ไปดูแลสัตว์ที่ป่วยใหม่ต่อไป ที่นี่จะมีหมอ 3 คน ต้องดูแลสัตว์ราว 1,500 ชีวิต

หลังจากที่คุณหมอปัณ ได้พูดคุยและให้แรงบันดาลใจกับน้องๆแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาที่น้องๆ ได้สัมผัสกับสัตว์ของจริง นั่นคือ “กระต่าย” โดยคุณหมอได้สาธิตการอุ้มกระต่ายที่ถูกต้อง และก็ได้ความรู้ว่า ไม่ควรอุ้มด้วยการจับหูกระต่าย เพราะมันจะเจ็บเหมือนคนเราที่โดนดึงหู เนื่องจากมีเส้นประสาทอยู่ที่ใบหูของมันด้วย แต่ควรจับที่หลังคอพร้อมกับช้อนมืออุ้มที่ก้นของมัน และให้วิธีสังเกตว่ากระต่ายมีความผิดปกติหรือป่วยอย่างไร

เด็กหญิงปาริชาติ  มนตรี  หรือน้องชมพู่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโป่งไผ่ จ.ปราจีนบุรี เล่าว่า "สัตวแพทย์เป็นอาชีพในฝันของหนูค่ะ กิจกรรม A to a ในวันนี้ทำให้หนูรู้สึกสนุกและอยากดูแลสัตว์มากขึ้นค่ะ ที่สำคัญทำให้หนูรู้ว่าหนูต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง หนูชอบที่พี่หมอเล่าให้ฟังว่าในแต่ละวันการทำงานของพี่หมอต้องทำอะไรเป็นสิ่งที่หนูไม่รู้มาก่อนค่ะ  ตอนนี้หนูมีแรงบันดาลใจและจะทำให้ได้ตามที่ฝันค่ะ"

นอกจากนั้นอีกหนึ่งอาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์ นั่นคือ อาชีพนักโภชนาการสัตว์  ซึ่งพี่ A (ใหญ่) ที่จะมาช่วยแนะนำอาชีพอีกท่าน คือ คุณณรงค์ศักดิ์  สำราญกลาง  หรือคุณอ๊อด พาคณะเข้าชมห้องปฎิบัติการที่มองไปรอบๆแล้วคล้ายกับห้องครัว  คุณอ๊อด กล่าวแนะนำอาชีพนี้ว่า “นักโภชนาการสัตว์ นับเป็นอาชีพที่มีความสำคัญ เพราะมีหน้าที่ดูแลอาหารการกินของสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์  ความท้าทายของอาชีพนี้คือ สัตว์ที่เราดูแลเป็นสัตว์ป่า เราจะต้องเรียนรู้การดำรงชีวิตของสัตว์แต่ละชนิด หมวดหมู่และปริมาณอาหารที่ต้องให้  ซึ่งหลักใหญ่ๆสามารถแบ่งประเภทของสัตว์ตามชนิดอาหารที่มันกิน คือ สัตว์กินพืช  เช่น  ม้าลาย ยีราฟ เป็นต้น  สัตว์กินเนื้อสัตว์ เช่น เสือ สิงโต แมวน้ำ  สัตว์กินทั้งพืชและเนื้อสัตว์ เช่น ลิง  ในแต่ละวันเราก็ต้องจัดเตรียม ทำความสะอาด รู้สัดส่วนในการให้อาหารของสัตว์แต่ละประเภท  รวมถึงต้องรู้ว่าสัตว์ชนิดไหนห้ามทานอาหารอะไร มิฉะนั้นอาจทำให้สัตว์ตายได้  น้องๆที่สนใจในอาชีพนี้ต้องขยัน ตั้งใจเรียน และมีความรับผิดชอบ คณะที่เกี่ยวข้องในสายอาชีพนี้ เช่น คณะเกษตรศาสตร์  สาขาสัตวศาสตร์ สาขาสัตวบาล หรือคณะวิทยาศาสตร์ สาขาสัตววิทยา”

เด็กชายวัชรพล  เจริญพล  หรือน้องโฟน  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บอกกับเราว่า "ตอนแรกผมไม่รู้ครับว่ามีอาชีพนี้ในสวนสัตว์ รู้แค่ว่าต้องมีคนให้อาหารสัตว์แน่ๆ แต่วันนี้รู้แล้วครับเรียกอาชีพนี้ว่า 'นักโภชนาการสัตว์' ผมฟังพี่อ๊อดแล้วรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ไม่น่าเบื่อครับ  ได้เจอสัตว์หลายชนิดในทุกๆวัน จริงๆสัตว์ที่ผมชอบที่สุดคือ ลิง อนาคตหากความฝันผมเป็นจริงได้ทำอาชีพนี้ ผมจะคิดเมนูแปลกใหม่และมีคุณค่าทางอาหารให้กับสัตว์ครับ วันนี้ผมขอขอบคุณดั๊บเบิ้ล เอ มากๆครับที่ให้โอกาสผมและเพื่อนๆ มาเรียนรู้และให้เรามีแรงบันดาลใจในอาชีพต่างๆครับ"

โดยคุณอ๊อด นักโภชนาการสัตว์ของเรา ก็ฝากให้นักท่องเที่ยวที่มาชมสัตว์ อย่าให้อาหารสัตว์เอง เพราะมีหลายอย่างที่นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ทราบหรือไม่ระมัดระวังแล้วทำให้สัตว์ตายได้ เช่น ค่าง 5 สี มันกินกล้วยสุกไม่ได้ กินแล้วมันจะท้องอืดและตาย และที่สวนสัตว์ก็พบสัตว์หลายตัวที่ตายไปเพราะอาหารที่มีหนังยางรัดติดอยู่หรือมีเศษสตางค์ติดไป

แรงบันดาลใจ เป็นเหมือนแสงสว่างที่จะนำทางให้น้องๆไปถึงจุดหมายปลายทางได้ หากผู้ใหญ่อย่างเราช่วยกันนำประสบการณ์ของตนเองส่งต่อและผลักดันให้น้อง ๆ แล้ว เยาวชนรุ่นใหม่ก็จะมีโอกาสยิ่งขึ้นที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต แคมเปญ Double A Better Tomorrow ปลูกฝัน ปลูกปัญญา จึงขอเชิญชวนพี่ ๆ ทุกอาชีพร่วมเป็นพี่ A (ใหญ่) แบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ที่มีค่า ให้กับน้อง a (เล็ก) ในกิจกรรม A to a โดยเริ่มจากคนใกล้ตัวและขยายต่อไปยังน้องๆที่ขาดโอกาส เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ดีให้กับเยาวชนของประเทศร่วมกัน ติดตามกิจกรรมดีๆแบบนี้ได้ที่ Facebook Double A Club

ภาพประกอบสกู๊ป

น้อง a (เล็ก) จากโรงเรียนบ้านโป่งไผ่
แนะนำอาชีพสัตวแพทย์
รู้จักอาชีพนักโภชนาการสัตว์
ชมการแสดงแมวน้ำแสนรู้
น้องชมพู่” ใฝ่ฝันอยากเป็นสัตวแพทย์
“น้องโฟน” อยากเป็นนักโภชนาการสัตว์
แบ่งกลุ่มกิจกรรม A to a อาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์
พี่ A (ใหญ่) “คุณหมอปัณ” สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ดุสิต
พี่ A (ใหญ่) “คุณอ๊อด” นักโภชนาการสัตว์
ชมการแสดงแมวน้ำแสนรู้
ชมห้องพักฟื้นสัตว์ป่วย
นั่งรถรางชมรอบสวนสัตว์

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ สนับสนุนโครงการเปิดโลกเรียนรู้ มูลนิธิไฟฟ์ฟอร์ออลล์ ปี 5

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนและ Double A Care อาทิ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์, สเปรย์แอลกอฮอล์ และสมุดนักเรียน รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ชิ้น ให้กับมูลนิธิไฟฟ์ฟอร์ออลล์ (Five For All Foundation) เพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาส ในโครงการทัศนศึกษาเปิดโลกทัศน์ "นั่งรถไฟไปน้ำตกไทรโยคน้อย จังหวัดกาญจนบุรี สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตสดใส ปีที่ 5” เพื่อเปิดมุมมองใหม่ให้แก่คนพิการ เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ พร้อมส่งเสริมสังคมแห่งความเท่าเทียม โดยมี ดร.ชนัญกร สุวรรณชื่น ประธานมูลนิธิไฟฟ์ฟอร์ออลล์ (Five For All Foundation) เป็นผู้แทนรับมอบในครั้งนี้

ดั๊บเบิ้ล เอ รับรางวัล CSR-DIW Continuous Award 2023

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตัวแทนเข้าร่วมรับโล่และเกียรติบัตร CSR-DIW Continuous Awards 2023 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ประกอบการที่ดำเนินงานบนความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่สะท้อนความมุ่งมั่นของดั๊บเบิ้ล เอ ในการดำเนินงานด้าน CSR มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ และสอดคล้องตามแนวทาง ESG ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมเกษตรกรปลูกต้นกระดาษ ช่วยสร้างรายได้และช่วยลดโลกร้อน การเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการส่งเสริมพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างเกื้อกูลกัน

น้องอิ่มท้อง พี่อิ่มใจกับกิจกรรม "ดั๊บเบิ้ล เอ เลี้ยงน้องวันเกิด ครั้งที่ 134"

ดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรมเลี้ยงน้องวันเกิด ครั้งที่ 134 โดยมีพี่ๆดั๊บเบิ้ล เอ จิตอาสาร่วมเลี้ยงอาหารกลางวัน ผลไม้ และไอศกรีม ให้น้องๆ โรงเรียนบ้านมาบเหียง จังหวัดปราจีนบุรี ได้อิ่มอร่อยตามหลักโภชนาการ และยังมีกิจกรรมสันทนาการเสริมทักษะ สร้างความสนุกเพลิดเพลินอีกด้วย นอกจากนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้มอบผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคให้โรงเรียน อาทิ เครื่องพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์อัตโนมัติ หน้ากากอนามัย พร้อมกับอุปกรณ์การเรียนการสอน นับเป็นกิจกรรมที่ดั๊บเบิ้ล เอ ดำเนินการมาต่อเนื่อง มุ่งเน้นความสำคัญของเยาวชน และสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ตามแนวทาง ESG ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบถุงใส่ยารักษ์โลกให้โรงพยาบาล

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบถุงใส่ยาจากเปลือกห่อกระดาษในโครงการ "กระดาษแปลงร่าง ถุงยารักษ์โลก" ทดแทนการใช้ถุงพลาสติกใหม่ จำนวน 2,000 ใบ ให้กับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดรับเปลือกห่อกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ จากลูกค้า และส่งต่อให้ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสในชุมชน พับเป็นถุงใส่ยาเพื่อเป็นรายได้เสริม พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยได้ดำเนินโครงการมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 จากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ ให้ความสำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อมตามแนวนโยบาย ESG ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบขวดพลาสติกในกิจกรรม “ขวดนี้...เพื่อพี่ไม้กวาด” ให้กับสำนักสิ่งแวดล้อม กทม.

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตัวแทนมอบขวดน้ำพลาสติกใช้แล้ว จากกิจกรรม “ขวดนี้เพื่อพี่ไม้กวาด” ที่ดั๊บเบิ้ล เอ รณรงค์ให้พนักงานตระหนักถึงการแยกขยะ โดยเฉพาะขวดพลาสติกใส ที่สามารถนำมาอัพไซเคิล (upcycle) ให้เกิดประโยชน์ ผ่านโครงการมือวิเศษกรุงเทพ “แยกเพื่อให้...พี่ไม้กวาด” แปรรูปเป็นชุดสะท้อนแสงสำหรับบุคคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการรักษาความสะอาดของกรุงเทพฯ ซึ่งขวดพลาสติกใส (1.5 ลิตร) จำนวน 42 ขวด จะได้ชุดสะท้อนแสง 1 ชุด โดยมี นายอาฤทธิ์ ศรีทอง รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารของสำนักสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมรับมอบ ณ จุดรับขยะแยกประเภท (Drop off Point) ศาลาว่าการกรุงเทพฯ ดินแดง

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับผู้นำชุมชนเยี่ยมชมโรงงาน

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนในพื้นที่ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี นำโดย นายรัชกฤต พยัคฆ์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีชั้นนำ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยระบบบริหารจัดการตามมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001 และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 พร้อมทั้งเข้าใจแหล่งที่มาวัตถุดิบจากไม้ปลูกของเกษตรกร ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นโดยรอบ และยังมีส่วนช่วยลดโลกร้อน โดยต้นกระดาษ 1 ต้นจะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 17.86 กิโลกรัม/ปี สำหรับการเยี่ยมชมครั้งนี้นับเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังการเกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างชุมชนและสถานประกอบการในการพัฒนาอุตสาหกรรมให้อยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน สำหรับสถานศึกษาหรือองค์กรที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://openhouse.doubleapaper.com/