Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ ให้ใจ ให้แรงบันดาลใจ จัดกิจกรรม “A to a” อาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์

เมื่อเอ่ยถึงสวนสัตว์ ก็จะต้องนึกถึงเด็กๆ ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆที่ในวัยเด็ก พ่อแม่หรือแม้แต่โรงเรียนต้องพาไปเที่ยวชมความน่ารักและชีวิตของสัตว์หลากหลายชนิด แต่ในวันนี้ เรามิได้มาแค่เรียนรู้เรื่องราวของเหล่าสัตว์กว่า 1,000 ชีวิตที่นี่เท่านั้น เพราะเราจะพาเยาวชนมาเจาะลึกกับผู้อยู่เบื้องหลังที่ดูแลรับผิดชอบสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้ และจุดประกายความฝันให้กับน้องๆที่รักสัตว์ ได้รู้จักกับอาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์ ภายใต้กิจกรรม "A to a" ในโครงการ Double A Better Tomorrow ปลูกฝัน ปลูกปัญญา  เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกหลานชาวนาและเยาวชน ก้าวสู่อาชีพในฝัน โดยมีพี่ A (ใหญ่) ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนั้นๆ มาแนะนำถ่ายทอดประสบการณ์ให้น้องๆ a (เล็ก) เป็นการจุดประกายความฝัน ค้นหาตัวเองและทำให้เป็นจริงได้

กิจกรรมในครั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้พาน้องๆจากโรงเรียนบ้านโป่งไผ่ ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ร่วมเรียนรู้อาชีพสัตวแพทย์และนักโภชนาการสัตว์ ณ สวนสัตว์ดุสิต กรุงเทพฯ ซึ่งสวนสัตว์ดุสิตหรืออีกชื่อว่า เขาดินวนา แต่เรามักเรียกติดปากว่า “เขาดิน” มีพื้นที่รวมกว่า 118 ไร่  สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ภายในบริเวณพระราชวังดุสิต เป็นสวนพฤกษชาติส่วนพระองค์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 8 ได้ทรงให้ทางเทศบาลกรุงเทพฯ จัดสร้างให้เป็นสวนสัตว์และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทุกระดับชั้น และมีการปรับปรุงพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ ตลอดมา

เริ่มต้นกิจกรรมช่วงแรก น้องๆกว่า 30 คน นั่งรถรางวนรอบสวนสัตว์ เพื่อรู้จักโซนต่างๆภายในเขาดินกันก่อน  ซึ่งทุกคนต่างตื่นเต้นสนุกสนานกับการชมสัตว์ทั้งสองข้างทาง พร้อมฟังบรรยายจากวิทยากรพาชม ใช้เวลาราว 15 นาที ต่อจากนั้น ก็ถึงช่วงเวลาที่น้องๆจะได้ไปพบกับพี่ A (ใหญ่) นับเป็นโอกาสอันดีที่น้องๆได้ชมเบื้องหลังการทำงานในส่วนปฎิบัติการกันเลยทีเดียว

สำหรับอาชีพน่ารู้ อาชีพแรกนั่นคือ สัตวแพทย์ โดยมีพี่ A (ใหญ่) มาร่วมเป็นดั๊บเบิ้ล เอ อาสา คือ “คุณหมอปัณ” สัตวแพทย์ปัณณวัฒน์  สุภาพรรณชาติ จบจากคณะสัตวแพทยศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหน้าที่ดูแลรักษาสัตว์ที่เจ็บป่วยในสวนสัตว์แห่งนี้ ได้แนะนำแนวทางให้กับน้องๆ พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ว่า “เบื้องต้นสิ่งที่น้องๆที่อยากก้าวสู่อาชีพนี้ ต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเลือกเรียนสายสามัญ แผนการเรียนวิทย์-คณิต  เพื่อสอบเข้าคณะสัตวแพทยศาสตร์ ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 6 ปี นอกจากน้องๆต้องขยันตั้งใจให้มากแล้ว ยังต้องไม่กลัวบาดแผลและเลือด และทนเห็นความเจ็บปวดได้ เพราะไม่ใช่เราจะช่วยให้สัตว์รอดชีวิตได้ทุกตัว เป็นสิ่งที่ต้องเจอคล้ายกับการเรียนหมอนั่นเอง แต่หากเรารักสัตว์แต่ไม่ชอบเห็นเลือด หนอง ก็อาจจะเรียนไปทางสัตวศาสตร์ สัตวบาลแทนได้”

คุณหมอเล่าว่า สัตว์ไม่สามารถพูดหรือบอกอาการได้เหมือนกับมนุษย์ ฉะนั้นนี่คือความท้าทายที่เราต้องรู้จักสังเกตว่าการแสดงออกในลักษณะต่างๆ มันสะท้อนถึงอาการเช่นไร ซึ่งคุณหมอบอกว่าขณะเรียนก็ศึกษาสัตว์หลากหลายชนิดทั้ง หมา แมว นก ไก่ หมู วัว ฯลฯ แต่ไม่มีการเรียนเรื่องสัตว์ป่า ดังนั้นพอถึงเวลาทำงาน ก็สามารถนำมาปรับใช้กับสัตว์ในประเภทคล้ายกัน เช่น เสือกับแมว หมีกับหมา เป็นต้น  อาชีพนี้ถือว่าต้องมีความเสียสละ ทุ่มเท และรักสัตว์ หน้าที่การทำงานในแต่ละวันของคุณหมอคือมาทำงานแต่เช้า ปั่นจักรยานทั่วสวนสัตว์เพื่อดูความผิดปกติของสัตว์ จากนั้นก็กลับมาที่โรงพยาบาลดูแลสัตว์ที่บาดเจ็บ พักรักษาตัว หลังจากนั้นก็ไปดูแลสัตว์ที่ป่วยใหม่ต่อไป ที่นี่จะมีหมอ 3 คน ต้องดูแลสัตว์ราว 1,500 ชีวิต

หลังจากที่คุณหมอปัณ ได้พูดคุยและให้แรงบันดาลใจกับน้องๆแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาที่น้องๆ ได้สัมผัสกับสัตว์ของจริง นั่นคือ “กระต่าย” โดยคุณหมอได้สาธิตการอุ้มกระต่ายที่ถูกต้อง และก็ได้ความรู้ว่า ไม่ควรอุ้มด้วยการจับหูกระต่าย เพราะมันจะเจ็บเหมือนคนเราที่โดนดึงหู เนื่องจากมีเส้นประสาทอยู่ที่ใบหูของมันด้วย แต่ควรจับที่หลังคอพร้อมกับช้อนมืออุ้มที่ก้นของมัน และให้วิธีสังเกตว่ากระต่ายมีความผิดปกติหรือป่วยอย่างไร

เด็กหญิงปาริชาติ  มนตรี  หรือน้องชมพู่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโป่งไผ่ จ.ปราจีนบุรี เล่าว่า "สัตวแพทย์เป็นอาชีพในฝันของหนูค่ะ กิจกรรม A to a ในวันนี้ทำให้หนูรู้สึกสนุกและอยากดูแลสัตว์มากขึ้นค่ะ ที่สำคัญทำให้หนูรู้ว่าหนูต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง หนูชอบที่พี่หมอเล่าให้ฟังว่าในแต่ละวันการทำงานของพี่หมอต้องทำอะไรเป็นสิ่งที่หนูไม่รู้มาก่อนค่ะ  ตอนนี้หนูมีแรงบันดาลใจและจะทำให้ได้ตามที่ฝันค่ะ"

นอกจากนั้นอีกหนึ่งอาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์ นั่นคือ อาชีพนักโภชนาการสัตว์  ซึ่งพี่ A (ใหญ่) ที่จะมาช่วยแนะนำอาชีพอีกท่าน คือ คุณณรงค์ศักดิ์  สำราญกลาง  หรือคุณอ๊อด พาคณะเข้าชมห้องปฎิบัติการที่มองไปรอบๆแล้วคล้ายกับห้องครัว  คุณอ๊อด กล่าวแนะนำอาชีพนี้ว่า “นักโภชนาการสัตว์ นับเป็นอาชีพที่มีความสำคัญ เพราะมีหน้าที่ดูแลอาหารการกินของสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์  ความท้าทายของอาชีพนี้คือ สัตว์ที่เราดูแลเป็นสัตว์ป่า เราจะต้องเรียนรู้การดำรงชีวิตของสัตว์แต่ละชนิด หมวดหมู่และปริมาณอาหารที่ต้องให้  ซึ่งหลักใหญ่ๆสามารถแบ่งประเภทของสัตว์ตามชนิดอาหารที่มันกิน คือ สัตว์กินพืช  เช่น  ม้าลาย ยีราฟ เป็นต้น  สัตว์กินเนื้อสัตว์ เช่น เสือ สิงโต แมวน้ำ  สัตว์กินทั้งพืชและเนื้อสัตว์ เช่น ลิง  ในแต่ละวันเราก็ต้องจัดเตรียม ทำความสะอาด รู้สัดส่วนในการให้อาหารของสัตว์แต่ละประเภท  รวมถึงต้องรู้ว่าสัตว์ชนิดไหนห้ามทานอาหารอะไร มิฉะนั้นอาจทำให้สัตว์ตายได้  น้องๆที่สนใจในอาชีพนี้ต้องขยัน ตั้งใจเรียน และมีความรับผิดชอบ คณะที่เกี่ยวข้องในสายอาชีพนี้ เช่น คณะเกษตรศาสตร์  สาขาสัตวศาสตร์ สาขาสัตวบาล หรือคณะวิทยาศาสตร์ สาขาสัตววิทยา”

เด็กชายวัชรพล  เจริญพล  หรือน้องโฟน  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บอกกับเราว่า "ตอนแรกผมไม่รู้ครับว่ามีอาชีพนี้ในสวนสัตว์ รู้แค่ว่าต้องมีคนให้อาหารสัตว์แน่ๆ แต่วันนี้รู้แล้วครับเรียกอาชีพนี้ว่า 'นักโภชนาการสัตว์' ผมฟังพี่อ๊อดแล้วรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ไม่น่าเบื่อครับ  ได้เจอสัตว์หลายชนิดในทุกๆวัน จริงๆสัตว์ที่ผมชอบที่สุดคือ ลิง อนาคตหากความฝันผมเป็นจริงได้ทำอาชีพนี้ ผมจะคิดเมนูแปลกใหม่และมีคุณค่าทางอาหารให้กับสัตว์ครับ วันนี้ผมขอขอบคุณดั๊บเบิ้ล เอ มากๆครับที่ให้โอกาสผมและเพื่อนๆ มาเรียนรู้และให้เรามีแรงบันดาลใจในอาชีพต่างๆครับ"

โดยคุณอ๊อด นักโภชนาการสัตว์ของเรา ก็ฝากให้นักท่องเที่ยวที่มาชมสัตว์ อย่าให้อาหารสัตว์เอง เพราะมีหลายอย่างที่นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ทราบหรือไม่ระมัดระวังแล้วทำให้สัตว์ตายได้ เช่น ค่าง 5 สี มันกินกล้วยสุกไม่ได้ กินแล้วมันจะท้องอืดและตาย และที่สวนสัตว์ก็พบสัตว์หลายตัวที่ตายไปเพราะอาหารที่มีหนังยางรัดติดอยู่หรือมีเศษสตางค์ติดไป

แรงบันดาลใจ เป็นเหมือนแสงสว่างที่จะนำทางให้น้องๆไปถึงจุดหมายปลายทางได้ หากผู้ใหญ่อย่างเราช่วยกันนำประสบการณ์ของตนเองส่งต่อและผลักดันให้น้อง ๆ แล้ว เยาวชนรุ่นใหม่ก็จะมีโอกาสยิ่งขึ้นที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต แคมเปญ Double A Better Tomorrow ปลูกฝัน ปลูกปัญญา จึงขอเชิญชวนพี่ ๆ ทุกอาชีพร่วมเป็นพี่ A (ใหญ่) แบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ที่มีค่า ให้กับน้อง a (เล็ก) ในกิจกรรม A to a โดยเริ่มจากคนใกล้ตัวและขยายต่อไปยังน้องๆที่ขาดโอกาส เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ดีให้กับเยาวชนของประเทศร่วมกัน ติดตามกิจกรรมดีๆแบบนี้ได้ที่ Facebook Double A Club

ภาพประกอบสกู๊ป

น้อง a (เล็ก) จากโรงเรียนบ้านโป่งไผ่
แนะนำอาชีพสัตวแพทย์
รู้จักอาชีพนักโภชนาการสัตว์
ชมการแสดงแมวน้ำแสนรู้
น้องชมพู่” ใฝ่ฝันอยากเป็นสัตวแพทย์
“น้องโฟน” อยากเป็นนักโภชนาการสัตว์
แบ่งกลุ่มกิจกรรม A to a อาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์
พี่ A (ใหญ่) “คุณหมอปัณ” สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ดุสิต
พี่ A (ใหญ่) “คุณอ๊อด” นักโภชนาการสัตว์
ชมการแสดงแมวน้ำแสนรู้
ชมห้องพักฟื้นสัตว์ป่วย
นั่งรถรางชมรอบสวนสัตว์

ข่าวประชาสัมพันธ์

แคมเปญ 1Dream1Tree

ดั๊บเบิ้ล เอ มีการดำเนินธุรกิจภายใต้โมเดล “กระดาษจากคันนา” เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการใช้พื้นที่ว่างเปล่าบนคันนา ซึ่งช่วยให้ชาวนามีรายได้เสริมและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้นได้ส่งผลกระทบที่หลายๆประเทศต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วม หมอกควันจากไฟป่า ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากฝีมือมนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดั๊บเบิ้ลเอ จึงอยากรณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงพลังของผู้บริโภคที่จะดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อม สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายป่า ไม่ตัดไม้จากป่า อันเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาภัยธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “Double A One Dream One Tree” เพื่อปลุกกระแสรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนทุกคนตระหนักว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ดั๊บเบิ้ล เอ คว้า “ฉลากลดโลกร้อน” เดินหน้าสู่ Net Zero

ดั๊บเบิ้ล เอ เดินหน้าโรดแมป Net Zero ภายในปี 2050 อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการได้รับฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction : CFR) ในผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษภายใต้แบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอและแบรนด์ในเครือ รวม 15 รายการ พร้อมขยายให้ได้การรับรองผลิตภัณฑ์ลดโลกร้อนให้ครอบคลุมทุกรายการ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องทุกมิติในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานคาร์บอนต่ำให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสังคมอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG       นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ(1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ ยังให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วยกัน โดยเฉพาะการดำเนินงานเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกไปสู่เป้าหมาย Net Zero ส่งผลให้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับฉลากลดโลกร้อน สำหรับผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษทั้ง 15 รายการ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) หรือ อบก. โดยผ่านการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง กระบวนการผลิต การใช้งาน และการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่า ตลอดกระบวนการผลิต ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีฐาน (ปี 2021)       ด้วยความมุ่งมั่นดำเนินงานตามกลยุทธ์ทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยมีโรดแมปเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นองค์กรที่มีคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2050 ไม่ว่าจะเป็นโครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การบริหารทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การใช้พลังงานสะอาด ตลอดจนการบูรณการในทุกกิจกรรมของบริษัทฯ ส่งผลให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกประจำปี 2023 ของกลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ (Carbon Footprint for Organization : CFO) มีตัวเลขลดลงถึง 48% ตามมาตรฐาน ISO 14064-1 และตามมาตรฐานของ อบก. ซึ่งทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าและเร็วกว่าแผนระยะสั้นที่วางไว้ว่าจะลดลง 25% ในปี 2030       ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ดำเนินธุรกิจบนแนวทาง ESG และมีโมเดลธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานคาร์บอนต่ำตั้งแต่เริ่มแรก ตอกย้ำการเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับโลกของเรา

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือศุภาลัย ชวนทำดีมอบสมุดให้โรงเรียน กทม. ในโครงการ Hero Zero เพื่อสิ่งแวดล้อมและการศึกษา

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) และ นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบสมุดเพื่อการศึกษาให้กับน้อง ๆโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 24,000 เล่ม จากโครงการ Hero Zero by Double A x Supalai โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แทนรับมอบ สำหรับโครงการนี้ ได้ดำเนินการตลอดปี 2566 เป็นการรับคืนกระดาษสำนักงานใช้แล้วเพื่อนำไปรีไซเคิล โดยกระดาษทุก 1 กิโลกรัมที่เก็บกลับเท่ากับศุภาลัยได้ร่วมมอบสมุดจำนวน 1 เล่ม และดั๊บเบิ้ล เอ สมทบเพิ่มอีก 1 เล่ม ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าในการนำกลับไปรีไซเคิล ลดโลกร้อนแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชนอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งโครงการรวมพลัง ของพันธมิตรธุรกิจที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน และ มีเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่การลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) บนความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบความสุข เติมรอยยิ้มในกิจกรรมเลี้ยงน้องวันเกิด ครั้งที่ 136

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม ในกิจกรรมเลี้ยงน้องวันเกิด ครั้งที่ 136 ณ โรงเรียนบ้านโคกกระท้อน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีพี่ๆดั๊บเบิ้ล เอ มาร่วมทำความดีในเดือนเกิดของตน ด้วยการมอบชุดอาหารว่าง และไอศกรีม ให้กับน้องๆ ส่งเสริมโภชนาการที่ดี พร้อมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการเปิดโอกาสให้น้องๆได้กล้าคิดกล้าแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ สร้างความสนุกเพลิดเพลินและพัฒนาทักษะด้านอารมณ์ที่ดี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญของการพัฒนาเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นอนาคตที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมรณรงค์ “รักษ์โลก รักษ์ด้วยสินค้าฉลากเขียว” กับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ “รักษ์โลก รักษ์ด้วยสินค้าฉลากเขียว” เพื่อให้ความรู้และเข้าใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากเขียว (Green Label) ซึ่งเป็นฉลากสิ่งแวดล้อมที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ โดยมี ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย พร้อมด้วย ดร.ฉัตรตรี ภูรัต ผู้อำนวยการฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมเปิดงานและเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชน ณ บริเวณถนนสีลม อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และตลาดนัดจตุจักร ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์กลุ่มกระดาษพิมพ์เขียนภายใต้แบรนด์เครือดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการรับรองฉลากเขียวมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันและสะท้อนถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อส่งมอบคุณค่าจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปีค.ศ.2050

ดั๊บเบิ้ล เอ สนับสนุนศูนย์กุฏิชีวาภิบาลเพื่อพระสงฆ์อาพาธแห่งแรกในปราจีนบุรี

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมพิธีเปิดกุฏิชีวาภิบาลวัดประทุมบูชา อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นศูนย์นำร่องแห่งแรกในจังหวัดปราจีนบุรี สำหรับเป็นสถานที่พํานักดูแลเยียวยาคุณภาพชีวิตสมณสงฆ์อาพาธแบบประคับประคอง ให้ภิกษุป่วยไข้ระยะท้ายมีทางเลือกที่จะได้รับการบริบาล ณ วัดต้นสังกัดที่คุ้นเคย ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้สนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องใช้ที่จำเป็นภายในศูนย์ฯ อาทิ พัดลม,หน้ากากอนามัย,ถุงมือป้องกันเชื้อโรค,ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่,น้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค โดยมี นางจารุณี กาวิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และแพทย์หญิงอรรัตน์ จันทร์เพ็ญ สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี เป็นผู้แทนรับมอบ

นักลงทุนเชื่อมั่นใน ดั๊บเบิ้ล เอ แห่ซื้อหุ้นกู้ 2,500 ลบ. หมด!

ดั๊บเบิ้ล เอ ปิดการจำหน่ายหุ้นกู้มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาทได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อความแข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตของ ดั๊บเบิ้ล เอ และที่มีต่อตลาดทุนของประเทศไทย บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร็จในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา มียอดจองซื้อหุ้นกู้เกินกว่าจำนวนที่เสนอขายที่ตั้งไว้ 2,500 ล้านบาท ส่งผลให้หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.95 ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.80 จำหน่ายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ ให้กับนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ได้รับความสนใจซื้อจากนักลงทุนทั้งจากรายเดิมและรายใหม่เกินจำนวนที่ออกจำหน่าย สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อความแข็งแกร่งของบริษัทฯ และศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ ดั๊บเบิ้ล เอ “ในนามตัวแทนของ ดั๊บเบิ้ล เอ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ได้รับการจัดสรร และผู้ที่แสดงความจำนงเป็นจำนวนมาก ที่เชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจ เรายังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวทาง ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นแบรนด์คุณภาพชั้นนำที่ครองใจผู้บริโภคทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง” นายโยธินกล่าว