Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างแรงบันดาลใจ จัดกิจกรรม A to a “พาน้องเล่นให้เป็นกีฬา”

เด็กในวันนี้คืออนาคตของประเทศในวันข้างหน้า  หากเยาวชนเริ่มต้นอย่างมีคุณภาพ ประเทศก็จะพัฒนาก้าวหน้าด้วยเช่นกัน  ผู้ใหญ่ในวันนี้จึงเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้ เหมือนกับที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เล็งเห็นบทบาทของผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพต่างๆมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ ชี้แนวทางที่ดีให้กับน้องๆเยาวชน ภายใต้กิจกรรม A to a ให้ใจ ให้แรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในแคมเปญ Double A Better Tomorrow ปลูกฝัน ปลูกปัญญา  โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรม A to a “พาน้องเล่นให้เป็นกีฬา” มีพี่ๆ นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย อาทิ คุณปลื้มจิตร์   ถินขาว   คุณพรพรรณ เกิดปราชญ์  และคุณกฤษฎา สมคะเน  มาเป็นพี่ A สร้างแรงบันดาลใจ แบ่งปัน ถ่ายทอดประสบการณ์และสอนทักษะเทคนิคการเป็นนักกีฬาจนก้าวสู่ทีมชาติไทยแก่น้อง a นักเรียนจากโรงเรียนปราจีนกัลยาณีและโรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง จ.ปราจีนบุรี  รวมกว่า 250 คน  ณ สนามกีฬาของโรงเรียนปราจีนกัลยาณี

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ  กล่าวถึงที่มาโครงการว่า “เยาวชนส่วนใหญ่ยังขาดโอกาสในการรู้จักอาชีพต่างๆที่มีอย่างหลากหลาย ไม่มีโอกาสได้ทำตามฝัน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญให้น้องๆ ขาดแรงบันดาลใจ ขาดผู้ให้คำแนะนำ หรือโอกาสที่จะได้พบเห็นและเรียนรู้ ดั๊บเบิ้ล เอ จึงได้เชิญชวนผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพต่างๆ มาร่วมเป็นพี่ A ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับน้องๆ เยาวชนหรือน้อง a ช่วยสร้างแรงบันดาลใจสู่อนาคตที่ดี โดยจัดกิจกรรมต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 รวมแล้ว 6 ครั้ง และได้มีโอกาสแนะนำให้เยาวชนได้รู้จักอาชีพที่น่าสนใจหลาย ๆ อาชีพ ทั้งสถาปนิก นักข่าว นักแสดง บล็อกเกอร์ สัตวแพทย์ นักพากย์เกมส์ นักเขียน และ อาชีพช่างภาพออนไลน์  สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พี่ A ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในฐานะนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2017 ได้สละเวลาร่วมกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในต่างจังหวัด”

เมื่อเปิดตัวพี่ A อย่างคุณปลื้มจิตร์ ถินขาว คุณพรพรรณ เกิดปราชญ์และคุณกฤษฎา สมคะเน ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากน้องๆที่ได้มีโอกาสเห็นพี่ๆนักกีฬาตัวจริง เสียงจริง ที่มาแชร์เรื่องราวกว่าจะก้าวสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ โดยพี่หน่อง-ปลื้มจิตร์ กัปตันทีมชาติไทยวอลเลย์บอลหญิง พูดถึงการเป็นนักกีฬาว่า “เริ่มเล่นกีฬาตั้งแต่วัยเรียน การเป็นนักกีฬาต้องมีวินัยสูง ขยันอดทน และเสียสละ เพราะช่วงสมัยวัยรุ่นไม่เคยได้ไปเที่ยวเล่นเหมือนคนทั่วไป ต้องฝึกซ้อมทุกวัน ตั้งแต่เช้าก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียน”

จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงเวิร์คช็อป น้องๆ a  ได้เรียนรู้การวอร์มร่างกายจากพี่ๆ A ก่อนการเล่นกีฬา และทักษะการเล่นวอลเลย์บอล ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟลูกแบบต่างๆ  การอันเดอร์  การเซ็ตลูก การบล็อก รวมทั้งได้เห็นลูกตบของพี่ปลื้มจิตร์อีกด้วย    โดยพี่หน่อง-ปลื้มจิตร์ ให้น้องทุกคนทายว่า ก่อนลงเล่นต้องทำอะไรเป็นอย่างแรก ไม่มีใครทายถูกเลยว่า เคล็ดลับก่อนเล่นทุกครั้งที่โค้ชกำชับคือ ต้องผูกเชือกรองเท้าให้แน่น ชนิดดึงไม่หลุดเลยทีเดียว เพราะจะช่วยป้องกันการบาดเจ็บได้ รวมทั้งยังเผยเคล็ดลับในการวอร์มท่าก้มแตะพื้น เรียกเสียงหัวเราะจากน้อง ๆ อีกด้วย หลังจากนั้น น้องๆยังได้มีโอกาสลงเล่นเป็นทีมกับพี่ๆ A เพื่อเรียนรู้วิธีการเล่นและวางแผนการเล่น ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานและรอยยิ้มตลอดเกมส์  โดยทีมที่ชนะได้รับเสื้อยืด A to a พร้อมลายเซ็นของพี่ A นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทยเป็นที่ระลึกกันทุกคน

ด.ญ.พิมพ์วลัญช์ สำรวจ  ชั้นม.2 โรงเรียนปราจีนกัลยาณี (หวานเย็น) “รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากเมื่อได้ยินข่าวว่าดั๊บเบิ้ล เอ จะจัดกิจกรรม A to a ที่โรงเรียน ไม่คิดว่าจะมีพี่ A อย่างพี่ปลื้มจิตร์ พี่พรพรรณและพี่กฤษฎา มาโรงเรียนของเราจริงๆ ถือว่าโชคดีมากๆที่มีโอกาสได้เจอพี่ๆทีมชาติมาแนะนำเทคนิคการเล่นค่ะ เพราะตัวหนูเองก็เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล เล่นมาตั้งแต่ป.4  ช่วงนั้นวอลเลย์บอลกำลังดัง ส่วนการฝึกซ้อมก็จะใช้เวลาว่างจากการเรียน ช่วงเลิกเรียนซ้อมถึง 6 โมงเย็น  ความใฝ่ฝันอยากคัดตัวเป็นนักกีฬาทีมชาติหรือนักกีฬาสโมสรค่ะ”

ก่อนปิดท้ายกิจกรรมด้วยการร่วมกันปลูกดอกดาวเรือง ด้วยใจถวายพ่อ เป็นอักษรเลข ๙ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ณ บริเวณสวนของโรงเรียน

สำหรับผู้ที่สนใจอาชีพต่างๆก็เข้าไปติดตามดูย้อนหลังได้ที่ Youtube Double A Thailand ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรม A to a จะช่วยจุดประกายน้องๆ a ให้เกิดเเรงบันดาลใจ กล้าคิดกล้าฝัน สร้างอนาคตที่ดีและประเทศชาติต่อไป

 

ภาพประกอบสกู๊ป A to a พาน้องเล่นให้เป็นกีฬา

ด.ญ.พิมพ์วลัญช์ สำรวจ (หวานเย็น)
พี่ A นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย
ปลูกดาวเรือง ด้วยดวงใจถวายพ่อ
เล่นเป็นทีมกับพี่ A
ลีลาลูกตบของพี่ปลื้มจิตร์
น้องๆ a นักกีฬาวอลเลย์บอล
คุณปลื้มจิตร์ เล่าประสบการณ์
วอร์มร่างกายให้พร้อม
เล่นเป็นทีมกับพี่ A
ทีมชนะได้รับเสื้อ A to a เป็นที่ระลึก

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

แคมเปญ 1Dream1Tree

ดั๊บเบิ้ล เอ มีการดำเนินธุรกิจภายใต้โมเดล “กระดาษจากคันนา” เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการใช้พื้นที่ว่างเปล่าบนคันนา ซึ่งช่วยให้ชาวนามีรายได้เสริมและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้นได้ส่งผลกระทบที่หลายๆประเทศต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วม หมอกควันจากไฟป่า ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากฝีมือมนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดั๊บเบิ้ลเอ จึงอยากรณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงพลังของผู้บริโภคที่จะดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อม สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายป่า ไม่ตัดไม้จากป่า อันเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาภัยธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “Double A One Dream One Tree” เพื่อปลุกกระแสรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนทุกคนตระหนักว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ดั๊บเบิ้ล เอ ลงนามวิจัยกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ พัฒนาอุตสาหกรรมกระดาษองค์รวม

เมื่อเร็วๆ นี้ นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ และศ.นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ร่วมลงนามโครงการวิจัยร่วมกันระหว่างดั๊บเบิ้ล เอ กับ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ เพื่อศึกษาโครงสร้างชั้นลึกของกระดาษ และนำองค์ความรู้ไปพัฒนาภาคอุตสาหกรรมกระดาษในอนาคต ซึ่งการร่วมมือพัฒนาในครั้งนี้ จะช่วยเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมกระดาษไทย โดยกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ จะมีความคมชัดมากขึ้น เนื้อกระดาษขาวสว่างมากขึ้น และช่วยประหยัดน้ำหมึก ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภค และเป็นกระดาษไทยแบรนด์แรกที่สร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ได้รับการยอมรับและ ส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะกรรมการไตรภาคีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนาเพื่อลดโลกร้อน เปิดบ้านต้อนรับคณะกรรมการไตรภาคีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน นำโดย นายนิรุช ศรีสวัสดิ์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อีกทั้งได้เรียนรู้ปรัชญาการผลิตแบบ ของเหลือใช้ ไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า ด้วยการนำผลพลอยได้จากการผลิต อาทิ เศษไม้ เปลือกไม้ น้ำมันยางไม้ ส่งไปใช้ประโยชน์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ที่ทำให้ได้พลังงานไฟฟ้ามากเพียงพอสำหรับการผลิตและเหลือเพียงพอกับการใช้ของชุมชนอีก 400,000 ครัวเรือน ผ่านการบรรยายและสื่อภาพยนตร์ 4 มิติ ทำให้คณะผู้เยี่ยมชมได้เข้าใจถึง "กระดาษบนคันนา" มากยิ่งขึ้น