Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ เตรียมโชว์สุดยอดนวัตกรรมกระดาษบนคันนา ภายใต้แนวคิด "Double A : Paper for the world" ในงานบีโอไอแฟร์ 2011

ดั๊บเบิ้ล เอ เตรียมโชว์ความสำเร็จของ กระดาษ แบรนด์ไทยที่เติบโตไกลระดับโลก  และโมเดลต้นแบบ กระดาษ จากคันนา กระดาษ แก้โลกร้อน มาตรฐานสิ่งแวดล้อมใหม่ในวงการ กระดาษ โลก ในงานบีโอไอแฟร์ 2011 โดยใช้ไอเดียเก๋สร้างบูธลดโลกร้อน ด้วยการทรานส์ฟอร์มตู้บรรทุกสินค้าดั๊บเบิ้ล เอ เป็น "โลกแห่ง กระดาษ แบบ 4 มิติ" พอจบงานแปลงร่างกลับเป็นรถบรรทุก โดยไม่มีอะไรให้เสียของ

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 (ต.ค.-ธ.ค.)ของปี 2554 ว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำ กระดาษ อันดับ 1 ของไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในคุณภาพสินค้ามากยิ่งขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ประสบความสำเร็จจากการนำสินค้าเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ทรานฟอร์เม อร์ส 3 ซึ่งสามารถสร้างกระแสและสร้างความจดจำให้กับวงการ กระดาษ เป็นอย่างมาก

นายชาญวิทย์ กล่าว ว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จะมีกิจกรรมใหญ่คือ การร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานนิทรรศการบีโอไอแฟร์ 2011 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยได้จองพื้นที่ภายในงานเพื่อจัดแสดงโมเดลธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ ภายใต้แนวคิด "Double A : Paper for the world" กระดาษ แบรนด์ไทย เติบโตไปไกลระดับโลก ที่จะแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมและความตั้งใจของดั๊บเบิ้ล เอ ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ โดยไม่ได้คำนึงแค่การผลิตสินค้าที่ดีเท่านั้น แต่ยังเห็นถึงความสำคัญของสิ่ง

แวดล้อมตั้งแต่เริ่มแรกของการดีไซน์ธุรกิจ

สำหรับแนวคิดการออกแบบพาวิลเลียนของดั๊บเบิ้ล เอ นำเสนอภายใต้แนวคิด "Double A : Paper for the world" กระดาษ แบรนด์ไทย เติบโตไปไกลระดับโลก ที่จะแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมและแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ กระดาษ คุณภาพและไม่รบกวนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นแนวคิดในการออกแบบพาวิลเลียน จึงมีแนวคิดที่จะทำให้ "ไม่มีอะไรไร้ค่า ให้เสียของ" โดย ดั๊บเบิ้ล เอ จะทรานส์ฟอร์มตู้บรรทุกสินค้าของดั๊บเบิ้ล เอ ให้กลายเป็นบูธขนาดใหญ่ขึ้นมา และหลังจากเสร็จงานแล้ว เราจะสามารถประกอบกลับคืนเป็นตู้บรรทุกสินค้าใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งปกติตู้บรรทุกเหล่านี้ได้นำพาแบรนด์ กระดาษ ของคนไทยไปปรากฏสู่สายตาคนทั่วโลกมาแล้วไม่น้อยกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

ส่วนภายใน จะตกแต่งภายใต้แนวคิด "กระบวนการค้นหาคำตอบ" โดยจะเน้นการเล่าเรื่องราวให้ผู้เข้าชมได้ร่วมหาความจริงของ กระดาษ แบรนด์ไทยระดับโลก โดยแบ่งเป็น 3 โซนใหญ่ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เข้าชมมีความรู้สึกเสมือนเข้าไปอยู่ในโลกของการผลิต กระดาษ และได้รู้ว่า วงจรผลิตที่ไม่มีสิ่งใดไร้ค่า ทุกสิ่งหมุนเวียนใช้ได้หมดนั้นมีอยู่จริง ผ่านนิทรรศการ 4 มิติ ที่มีตัวละครเอกคือ Paper Man ฮีโร่ของดั๊บเบิ้ล เอ ที่จะมาเป็นตัวเอกในการเล่าเรื่อง ส่วนไฮไลน์ของพาวิลเลียนอีกจุดหนึ่ง จะอยู่ที่การจัดทำสวนสัญลักษณ์ "Paper Park" ซึ่งจะเป็นส่วนพักผ่อน ที่เน้นให้ผู้ชมสามารถเข้าใจถึงบทสรุปของ Paper for the world ของดั๊บเบิ้ล เอ ได้อย่างง่ายขึ้น และยังเกิดความภาคภูมิใจว่า คุณก็มีส่วนช่วยโลกของเราได้ แค่ใช้ กระดาษ ดีๆ อย่างดั๊บเบิ้ล เอ ก็สามารถทำความดีให้กับโลกของเราได้

"เพื่อให้เป็นไปตามแนวคิด "โลกสดใส ไทยยั่งยืน" ของงานบีโอไอแฟร์ 2011 และเพื่อให้เป็นไปตามแนวคิด ฎไม่มีอะไรไร้ค่า ให้เสียของ" ของดั๊บเบิ้ล เอ ดังนั้นวัตถุดิบที่ดั๊บเบิ้ล เอ นำมาใช้ในการก่อสร้างพาวิลเลียน จะไม่มีชิ้นส่วนใดที่จะกลายเป็นของไร้ค่า เพราะดั๊บเบิ้ล เอ จะนำโครงสร้างและอุปกรณ์ทั้งหมดกลับไปใช้ใหม่ โดยไม่มีอะไรเหลือทิ้ง ซึ่งตรงกับ Theme งานคือ "Low Carbon Fair" โดยคิดว่าน่าจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกกว่า 70 ตัน" นายชาญวิทย์ กล่าว

นอกจากนี้ภายในงาน ยังมีการเปิดตัว 8 สาว Double A I-Girls 2011 เป็นครั้งแรก ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนแบรนด์ระดับโลก เพื่อทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์แนวคิดและเรื่องราวดีๆของดั๊บเบิ้ล เอ เป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งการประกวด Double A I-Girls 2011 จะเปิดรับสมัครสาวๆ ที่มีความมั่นใจ มีทักษะการสื่อสาร มีใจรักและใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อชิงรางวัลมูลค่า 8 ล้านบาท สามารถยื่นใบสมัครได้ที่ www.DoubleAigirls2011.com  ได้ตั้งแต่วันนี้ – 16 ตุลาคม 54

ดั๊บเบิ้ล เอ เป็น กระดาษ แบรนด์ไทย ที่สร้างมาตรฐานของ กระดาษ คุณภาพระดับโลก โดยแนวคิดในการทำธุรกิจของเราไม่เพียงแต่มุ่งสร้างคุณภาพสินค้าที่ดีให้กับ ผู้ใช้ แต่ยังต้องดีตั้งแต่วิธีคิด-วิธีทำ ซึ่งเราเริ่มดีไซน์ตั้งแต่การออกแบบธุรกิจ ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ ที่มาจากต้น กระดาษ ที่ปลูกบนคันนาของเกษตรกรกว่า 1.5 ล้านครัวเรือน ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรได้ปีละกว่า 5,000 ล้านบาทแล้ว ยังสามารถช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศได้อีก 6.7 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ของทุกสิ่ง ไม่มีอะไรไร้ค่า ให้เสียของ เพราะดั๊บเบิ้ล เอ สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ส่วนที่เหลือจากการผลิต กระดาษ อาทิ เปลือกไม้ เศษไม้ น้ำมันยางไม้ ก็สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ส่วนน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตก็มาจากแหล่งน้ำที่ขุดขึ้นมาเอง และมีการหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า การได้ร่วมงานบีโอไอแฟร์ในครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสอันดี ที่ดั๊บเบิ้ล เอ จะได้แบ่งปันแนวคิดในการผลิตอันเป็นที่มาของการก้าวสู่สินค้าแบรนด์ไทยระดับ โลก

 

Tweet


 

เมื่อเร็วๆ นี้ นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ แถลงข่าวโชว์ไฮไลท์ของดั๊บเบิ้ล เอ พาวิลเลี่ยน ในงานบีโอไอแฟร์ 2011 ภายใต้แนวคิด "Double A : Paper for the world" กระดาษแบรนด์ไทย เติบโตไปไกลระดับโลก และโมเดลต้นแบบกระดาษจากคันนา กระดาษแก้โลกร้อน โดยใช้ไอเดียเก๋สร้างบูธลดโลกร้อน "ไม่มีอะไรไร้ค่า ให้เสียของ" ด้วยการทรานส์ฟอร์มตู้บรรทุกสินค้าดั๊บเบิ้ล เอ เป็น "โลกแห่งกระดาษแบบ 4 มิติ" พอจบงานแปลงร่างกลับเป็นตู้บรรทุกสินค้าอีกครั้ง โดยไม่มีอะไรให้เสียของตามแนวคิด "โลกสดใส ไทยยั่งยืน" ของงานบีโอไอที่จะจัดขึ้นในวันที่ 10-25 พฤศจิกายนนี้ โดยมีนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานแถลงข่าวร่วมกับนางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ณ ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน(OSOS) จัตุรัสจามจุรี

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมรักการอ่าน โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " เพราะเป็นองค์กรที่ส่งเสริมด้านสังคมรักการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่หยุดยั้งที่จะเดินหน้า ส่งเสริมโครงการดีๆ ที่จะกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาใส่ใจและรักการอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม และโรงเรียนคลองบางกะสี 2 โรงเรียนที่มีความคิดสร้างสรรค์ของ จ.สมุทรปราการ จัดทำโครงการ "สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง" ด้วยการนำกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้แล้วด้านเดียว มาทำหนังสือหน้าสองให้เป็นหนังสือที่น่าอ่าน น่าติดตาม และที่สำคัญน้องๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สำหรับโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ อาจารย์นางภาวนา มีกลิ่นหอม อาจารย์โรงเรียนคลองบางกะสี จ.สมุทรปราการ ได้เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนได้จัดทำโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มาตั้งแต่ปี 2546 โดยทางโรงเรียนมองว่าในแต่ละวันเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก และส่วน-ใหญ่เป็นการใช้กระดาษเพียงหน้าเดียว ส่วนอีกหน้าที่เหลือไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะอีกด้วย ดังนั้นทางโรงเรียนจึงเกิดแนวคิดในการนำกระดาษอีก 1 หน้าที่เหลืออยู่มาทำให้เกิดประโยชน์ จึงนำกระดาษที่เหลือมาทำหนังสือในรูปแบบของหนังสือทำมือ โดยนำไปสอดแทรกในวิชาศิลปะเพื่อให้เด็กๆได้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้น้องๆ ในโรงเรียนหันมาสนใจการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกด้วย จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2546 โดยรูปแบบของสื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง จะเน้นการนำเรื่องราวต่างๆที่เป็นความรู้ ไม่ว่าจะเป็น นิทาน การละ-เล่น ขนบธรรมเนียมประเพณี ชื่อสัตว์ ชื่อผลไม้ คำศัพท์ต่างๆ มาประกอบรูปภาพ และจัดทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจดึงดูดอยากหยิบมาอ่าน เช่น หนังสือ POP-UP หนังสือยืด หนังสือหน้าเดียว หนังสือกล่อง หนังสือโคม เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมรักการอ่านแล้ว ยังทำให้เด็กนักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความอดทน รู้จักวิเคราะห์และจับประเด็นให้เนื้อหาอยู่ในหน้ากระดาษที่จำกัดได้ โดยไม่ละทิ้งใจความสำคัญ และยังทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย ส่วนโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม ได้นำโครงการผลิตสื่อหนังสือทำมือสอดแทรกในวิชาภาษาไทย โดยให้นักเรียนทำหนังสือทำมือให้รุ่นน้องและเพื่อนในโรงเรียนได้อ่าน จัดเป็นมุมหนังสือต่างๆ ทั่วโรงเรียน และทุกห้องเรียนจะต้องมีมุมหนังสือ เพื่อให้เด็กๆได้สร้างนิสัยรักการอ่านให้เป็นกิจวัตรติดตัวไปจนโต โดยความโดดเด่นของหนังสือทำมือของโรงเรียนจะนำเนื้อหาที่ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ในท้องถิ่นของอำเภอบางบ่อ เช่น การละเล่นท้องถิ่นของบางบ่อที่เรียกว่า "ผะหมี" (โจ๊ก) เป็นร้อยกรองปริศนาให้ทายกัน ซึ่งเป็นการละเล่นที่นับวันจะค่อยๆ สูญหายไปจากอำเภอหากไม่มีการสืบทอดกันไว้ สำหรับการละเล่น "ผะหมี" อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า น้องๆ จะนำเนื้อหาต่างๆ มาแต่งเป็นร้อยกรอง ปริศนาคำทาย ตัวอย่างเช่น พระ หนึ่งชำนาญด้าน ดนตรี (คำตอบ พระอภัยมณี) พระ หนึ่งหลงสาวศรี พี่น้อง (คำตอบ พระลอ) พระ หนึ่งวุ่นราวี ดึงนุช มานา คำตอบ พระราม) พระ หนึ่งโปรยทานก้อง ส่ำสร้างผลบุญ (คำตอบ พระเวสสันดร) ซึ่งนอกจากจะสร้างความรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนทำและคนทายแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในกลุ่มของนักเรียนในโรงเรียน ส่งผลให้ได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2548 โดยในเรื่องนี้ "น้องชนะพล ปานสมบัติ" นักเรียนชั้น ม.5 รร.บางบ่อพิทยาคม ได้เล่าให้ฟังว่า "โครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมรักการอ่านได้มาก เพราะมีรูปแบบและสีสันที่สวยงามน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนก็ให้ความสนใจ มีการสอนการทำให้กับรุ่นน้องๆ ด้วย เพราะม.4-ม.6 จะจัดทำให้น้องๆ ม.ต้นได้อ่าน ซึ่งผมจะชอบเนื้อหาเป็นเรื่องเอกลักษณ์ไทย เพราะส่วนใหญ่รุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก เช่น ขนมไทย วรรณคดีไทย ประวัติศาสตร์ และเนื้อหาธรรมะ เพราะปัจจุบันคนเรามีความเครียดมาก ถ้าได้อ่านหนังสือธรรมะก็ช่วยให้จิตใจดีขึ้น" โครงการดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นสร้างสรรค์จากผลงานภายในโรงเรียน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่หลายๆ โรงเรียนสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการนำไปปฏิบัติได้ เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้น้องๆรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ ประกาศเปิดจองหุ้นกู้ 8-10 มิ.ย.นี้ อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี

หลังจากที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ประกาศเลื่อนวันเปิดจองหุ้นกู้ จากกำหนดเดิม 24-26 พ.ค. ออกไปนั้น ขณะนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย 6% อายุ 3 ปี เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ผ่านธนาคารกรุงไทย และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษ "ดั๊บเบิ้ล เอ" ซึ่งมีตลาดส่งออกทั่วโลก เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะสงบแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี เป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน วงเงินรวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2556 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนด