Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ สวนสุนันทา หนุนไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียน (Hub of CLMV) ตั้งศูนย์การเรียนรู้ Double A Logistics Academy

"หนึ่งในแกนหลักของการแข่งขัน และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ คือ ระบบโลจิสติกส์ ประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น อาจไม่ใช่ประเทศที่มีความมั่งคั่ง ร่ำรวยทรัพยากรแต่อย่างใด แต่เป็นประเทศที่มีความเป็นผู้นำด้านระบบโลจิสติกส์”

คำบรรยายพิเศษ ของ นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ ในโอกาสเปิดศูนย์เรียนรู้ Double A Logistics Academy

 

นับเป็นปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งแรกของภาคเอกชนกับสถาบันการศึกษา ระหว่าง ดั๊บเบิ้ล เอ โดยนายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)  และ วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนของประเทศไทย พร้อมๆ กับการเร่งสร้างทรัพยากรบุคลากรด้านโลจิสติกส์ให้เติบโต  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการค้า และนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแห่งอาเซียน (Hub of CLMV) โดยมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ดังเช่นเมืองหลักสำคัญของโลก อาทิ นครร็อตเตอร์ดัม แห่งเนเธอร์แลนด์ นครนิวเจอร์ซี่  แห่งสหรัฐอเมริกา และนครเซี่ยงไฮ้ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่พัฒนาระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

จึงเป็นที่มาของโครงการความร่วมมือด้านวิชาการในระบบโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน  และการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ Double A Logistics Academy ขึ้น ณ วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม  โดยศูนย์เรียนรู้นี้ จะประกอบไปด้วย ห้องปฎิบัติการคอมพิวเตอร์ ที่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พร้อมระบบเชื่อมต่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ระบบซอฟต์แวร์การจัดการ  โลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั้งระบบ และห้องปฏิบัติการโลจิสติกส์ ที่จำลองการจัดการคลังสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง  รวมถึงห้องปฎิบัติการขายจริง (Point of Sales – POS) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้แบบบูรณาการ และกระตุ้นให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้จากปฏิบัติการจริง รวมถึงเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติด้านโลจิสติกส์

ปัจจุบันภาครัฐกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวนับเป็นการผลักดันการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่ผสานโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ด้านเทคโนโลยีทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารยุคดิจิตอลอย่างเป็นรูปธรรม ยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยมีภูมิประเทศตั้งอยู่ตรงกลาง และรอบล้อมไปด้วยประเทศสมาชิกต่างๆ ในสมาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ทำให้ไทยได้เปรียบจากการมีลักษณะพื้นที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมเป็น land link อีกทั้งยังมีขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศรอบด้านมากกว่าประเทศในกลุ่ม CLMV จึงเอื้อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์  รวมถึงการเปิด AEC ส่งผลให้เกิดการจัดตั้งกลุ่มประเทศระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง(Greater Mekong Subregion Corridors ) ของ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมยึดโยงเข้าหากัน เป็นอีกหนึ่งเส้นทาง land link ยุทธศาสตร์สำคัญของการจัดการและบริหารระบบโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดี

นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กล่าวเสริมว่า การปฏิรูปโลจิสติกส์ยังสร้างโอกาสมหาศาลให้กับคนรุ่นใหม่เป็นรายบุคคล ที่จะพัฒนาธุรกิจใหม่ในฐานะ Start up ด้วยการนำนวัตกรรมมาพัฒนาระบบไอที ระบบแอพพลิเคชั่น   เพื่อสนับสนุนรองรับระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ซึ่งโอกาสได้เปิดกว้างขึ้นในการสร้างความมั่งคั่งของคนรุ่นใหม่ ตัวอย่างเช่น Uber Taxi แอพพลิเคชั่นที่เป็นบิสซิเนส โมเดลด้านโลจิสติกส์ ประเภทหนึ่งของ Start   up โดยจัดเป็นประเภท  Sharing Endures Resource ซึ่งเป็นการสนองความต้องการแก่ผู้บริโภคโดยนำนวัตกรรมเข้ามาเป็นเครื่องมือ เช่นเดียวกับ Uber ที่สนองความต้องการ (needs) ของผู้ใช้แท็กซี่ที่มีนวัตกรรมเข้ามาช่วย  ปัจจุบัน Uber ให้บริการใน 68 ประเทศ มากกว่า 400 เมือง มีคนขับในระบบ 1.2 ล้านคน และมีผู้ใช้บริการหลัก 10 ล้านคน โดยในประเทศไทยมีคนขับในเครือข่ายมากกว่า 35,000 คน

เช่นเดียวกันกับ Alibaba.com เว็บไซต์ขายส่งสัญชาติจีนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งเป็นศูนย์รวมโรงงานในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นทางออกในการรองรับการค้าขายที่เหมาะสมที่สุด ช่องทางหนึ่ง และเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งสินค้าเหล่านั้นกระจายสู่ทั่วโลกในรูปแบบ  Business to Business หรือ B2B ดังนั้นยังมีอีกหลายบิซิเนส โมเดล ที่รอให้นักศึกษา หรือคนรุ่นใหม่เข้ามาค้นหาโอกาสและช่องทางในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ และพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนให้เกิดขึ้นในวงการธุรกิจไทย "

รศ.ดร. ฤาเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กล่าวว่า   “มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีนโนยบายมุ่งพัฒนาคน อันเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ควรส่งเสริมองค์ความรู้ให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จึงได้เกิดเป็นความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษากับภาคธุรกิจเพื่อร่วมกันพัฒนาการเรียนการสอนที่มุ่งมั่นในการผลิตนักศึกษาให้สามารถรองรับกับความต้องการของภาคธุรกิจที่ต้อง เผชิญความท้าทายรอบด้าน และกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างเหมาะสม  ดังนั้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทางมหาวิทยาลัยเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และห้องปฏิบัติการขายที่มหาวิทยาลัย ได้รับมอบจากดั๊บเบิ้ล เอ จะเป็นเครื่องมือที่ติดอาวุธให้กับนักศึกษา สาขาโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ในการยกระดับการเรียนการสอนพัฒนาหลักสูตรจากการศึกษาผ่านประสบการณ์จริงจากบุคลากรและกระบวนการดำเนินงานจริงของดั๊บเบิ้ล เอ และผ่านการจำลองร้านค้า เครื่องเขียน และร้านถ่ายเอกสารของดั๊บเบิ้ล เอ ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ การบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และเมื่อนักศึกษารุ่นนี้จบออกไปพวกเขาเหล่านี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ยุคใหม่ให้ก้าวหน้าทันสมัยรองรับความท้าทายที่ต้องเผชิญต่อความเปลี่ยนแปลงรอบด้านในปัจจุบัน"

กิตติพงศ์ ธารปราบ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการจัดการโลจิสติกส์ อายุ 20 ปี กล่าวว่า การจัดตั้ง Double A Logistics Academy เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ มีคุณค่า ที่ทำให้พวกเขาเห็นภาพการเรียนรู้ระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์จากประสบการณ์จริงอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นักศึกษาอีกหลายคนมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าพวกเขาและเธอมีแรงบันดาลใจในการก้าวเข้ามาเรียนสาขาวิชานี้จากการที่เป็นคนชอบการเดินทาง รักการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง และมีความเห็นว่า การเรียนสาขาวิชานี้จะทำให้บริหารจัดการสินค้าและผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบ สร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมีศักยภาพมาตรฐานในระดับสากล การจัดการโลจิสติกส์ที่ดีสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับบริการลูกค้า และมูลค่าทางการค้า แต่ปัจจุบันกิจกรรมโลจิสติกส์ยังมีต้นทุนสูง ธุรกิจในประเทศไทยโดยรวมมีการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมโลจิสติกส์ คิดเป็น 14.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือประมาณ 1,835 พันล้านบาท การบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นกุญแจสำคัญของการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ และการพัฒนาเศรษฐกิจไทย จากผลการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) ประเทศไทยมีสมรรถนะการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ (Logistics Performance Index (LPI) ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ โดยเมื่อปี 2557 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 35 สิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 5 และมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 25 จากทั้งหมด 160 ประเทศ ในขณะที่การเปิดการค้าเสรีอาเซียนที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ AEC จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจในระดับเวทีสากล จึงจำเป็นที่ประเทศไทยทุกภาคส่วน ต้องร่วมกันปรับตัว และทำให้ข้อได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ที่ไทยมีที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ มาทำให้เกิดประโยชน์ในการผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแห่งอาเซียนสืบไป

 

ภาพประกอบสกู๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวกระดาษใหม่เพื่องานพรินต์สี ด้วยหนังโฆษณา ชุด "Double A Color Print"

จากเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา ดั๊บเบิ้ล เอ ครบรอบ 10 ปี กับหนังโฆษณาส่งเสริมการขายแคมเปญ "ช้อปฟรี เที่ยวฟรีที่เกาหลีรวมกว่า 300 ล้านวอน" ออกสู่สายตาประชาชนเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มายาวนาน ล่าสุดดั๊บเบิ้ล เอ ก้าวสู่ปีที่ 11 ของการสร้างแบรนด์ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "Double A Color Print" หวังสร้างตลาดกระดาษเซกเมนต์ใหม่ และครองอันดับ 1 ตลาดกระดาษเพื่องานพรินต์สีเป็นรายแรกในไทยก่อนลุยตลาดต่างประเทศ ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกระดาษถ่ายเอกสารระดับพรีเมี่ยมของดั๊บเบิ้ล เอ โดยหนังโฆษณาชุดนี้ มีคอนเซ็ปต์ว่า "Double A Color Print ให้สีสวยคมชัดทุกเฉดสี งานดีคุณก็ดูดี" แนวความคิดภาพยนต์โฆษณา แนวคิดของหนังโฆษณามาจาก insight ของผู้ใช้กระดาษ หรือ คนทำงาน ที่ส่วนใหญ่มีพฤติกรรม คือ มักจะลุ้นไปกับผลลัพธ์บนใบหน้าและคำพูดของ Boss หลังจากที่ตนเองได้ยื่นผลงานของตัวเองให้ Boss พิจารณาแล้ว โดยโฆษณาชุดนี้ เข้าใจเลือก shot เด็ดในชีวิตประจำวันของคนทำงานมาเป็นจุดนำเสนอ โดยใช้เลขาสาวคนหนึ่งมาเป็นตัวแทนคนทำงาน ที่มาลุ้นผลงานของตัวเองหลังยื่นงานเสนอให้ Boss พิจารณาแล้ว โดยหนังชุดนี้ใช้กลยุทธ์เปรียบเทียบแบบ contrast ระหว่างการเสนอผลงานพรินต์ที่เลอะเทอะ ซึ่งทำให้เจ้านายไม่สบอารมณ์และพาลรู้สึกว่าพนักงานสาวดูไม่มีดีไปด้วย โดยถ่ายทอดผ่านหน้าตาที่เปรอะเปื้อนเครื่องสำอางค์เปรียบเหมือนเอกสารที่เธอนำเสนอให้กับเจ้านาย พอผลงานถูกขยำ หน้าเธอก็ยู่ยี่ตามไปด้วย ได้อารมณ์ขำนิดๆ ตามสไตล์หนังโฆษณาของดั๊บเบิ้ล เอ แต่พอเธอเปลี่ยนมาใช้กระดาษ Double A Color Print ที่สามารถพรินต์งานออกมาให้สีสวยสด คมชัดทุกเฉดสี เจ้านายก็ชื่นชอบผลงาน และรู้สึกชื่นชมพนักงานสาวว่าดูดี.. ภาพหน้าพนักงานสาวก็เปลี่ยนมาสวยปิ๊งเหมือนผลงานเธอ ถือว่านำเสนอคอนเซ็ปต์ของหนังที่ว่า "ถ้างานดูดี คุณก็จะดูดีไปด้วย" ได้อย่างชัดเจนและน่ารักทีเดียว

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว "Double A Color Print" กระดาษเพื่องานพรินต์สีโดยเฉพาะ

คุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เปิดตัว Double A Color Print กระดาษเพื่องานพรินต์สีโดยเฉพาะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Double A Color Print ให้สีสวยคมชัด ทุกเฉดสี งานดีคุณก็ดูดี" ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ด้านกระดาษถ่ายเอกสาร ระดับพรีเมี่ยม ตั้งเป้าครองอันดับ1 ตลาดกระดาษพรินต์สีรายแรกของไทย พร้อมดันยอดขายกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ รวมทั้งปีขยายตัว 15-20% ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างเซกเมนต์ใหม่กระดาษพรินต์สี เปิดตัว Double A Color Print หวังครองอันดับ 1 ตลาดกระดาษพรินต์สีรายแรกของไทย ดั๊บเบิ้ล เอ ชี้แนวโน้มการบริโภคกระดาษทั่วโลก จะมีความต้องการใช้กระดาษเพื่องานพรินต์สีมากขึ้น เตรียมบุกเบิกสร้างตลาดกระดาษเซกเมนต์ใหม่ ดัน "Double A Color Print" เป็นกระดาษเพื่องานพรินต์สีโดยเฉพาะ หวังครองอันดับ 1 ตลาดกระดาษพรินต์สีรายแรกของเมืองไทย ตั้งเป้ายอดขายปีแรกไม่น้อยกว่า 6,000 ตัน หรือประมาณ 240 ล้านบาท นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผู้นำกระดาษคุณภาพสูงที่มีตลาดกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เปิดเผยว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ประเมินอนาคตตลาดกระดาษพรินต์สีจะเป็นเทรนใหม่ที่มีโอกาสเติบโตเป็นตลาดหลักในประเทศไทย หลังจากศึกษาพบทิศทางตลาดทั่วโลก ผู้บริโภคกระดาษมีแนวโน้มใช้กระดาษเพื่องานพรินต์สีเพิ่มมากขึ้นในอัตราส่วนที่สูงมาก จึงได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระดาษตัวใหม่ ให้มีคุณสมบัติพิเศษ รองรับงานพรินต์สีและถ่ายเอกสารสีคุณภาพสูงโดยเฉพาะ เพื่อบุกเบิกตลาดกระดาษเซกเมนต์ใหม่เป็นรายแรกของไทย ภายใต้ชื่อแบรนด์ "Double A Color Print" การออกกระดาษใหม่ในแบรนด์ Double A Color Print ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกระดาษถ่ายเอกสารระดับพรีเมี่ยมของดั๊บเบิ้ล เอ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากกว่ากระดาษถ่ายเอกสารธรรมดาในท้องตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Double A Color Print ให้สีสวยคมชัดทุกเฉดสี งานดีคุณก็ดูดี" โดยจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่ากระดาษทั่วไป คือ เนื้อกระดาษขาวพิเศษ ให้สีสวยคมชัด ผิวเนียนเรียบลื่น ถ่ายเอกสารไม่ติดเครื่อง แกร่ง คงรูป ใช้งานได้ 2 ด้าน ทำให้งานพรินต์สีมีคุณภาพระดับมืออาชีพ เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหากระดาษเพื่องานพรินต์สีโดยเฉพาะ ทั้งหน่วยงานบริษัท นักเรียนนักศึกษา หรือผู้ใช้กระดาษทั่วไป รวมถึงกลุ่มอาชีพต่างๆ อาทิ มัณฑนากร สถาปนิก และนักออกแบบ เพื่อสะท้อนชิ้นงานให้ดูดีมีระดับ รองรับได้ทั้งงานเอกสารทางธุรกิจ โฆษณา รายงาน Presentation และงานกราฟฟิก เป็นต้น โดยจะมีให้เลือก 3 แพคเกจ คือ แบบบรรจุ 500 แผ่น ในราคารีมละ 115 บาท แบบบรรจุ 100 แผ่นในราคา 49 บาท และ 40 แผ่น ในราคา 25 บาท นายชาญวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการทำตลาดและโปรโมชั่นเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ เตรียมงบประมาณไว้ 50 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์สร้างการรู้จักแบรนด์ในวงกว้างผ่าน Mass Media ต่างๆ เช่น โฆษณาทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ สื่อในบีทีเอส เป็นต้น รวมถึงกิจกรรมโรดโชว์ , วอล์คโชว์ ,สื่อประสัมพันธ์ ณ จุดขายเต็มรูปแบบ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การประกวด "Colorful Office Award" สุดยอดแห่งสีสันของคนออฟฟิศ โดยเชิญชวนพนักงานออฟฟิศส่งภาพออฟฟิศของตนเองที่มีสีสันสดใส ตกแต่งสวยงาม บรรยากาศทำงานสนุกสนาน ลุ้นรับกระดาษ Double A Color Print เพื่อใช้ในออฟฟิศฟรี! และกิจกรรมออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ๊ค คือ การประกวดทำหน้าตาตลกล้อเลียนหนังโฆษณา "Color Funny Face Contest" โดยภาพหน้าใดโดนใจได้รับการโหวตสูงสุดจากชาวสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ค 5 อันดับแรก รับรางวัลเครื่องพรินต์เตอร์สีพร้อมกระดาษ Double A Color Print สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย จะกระจายการจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านเครื่องเขียนทั่วไป และการเข้าตรงถึงลูกค้าอย่างการจัดโรดโชว์ไปตามสำนักงานต่าง ๆ โดยจะมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อ Double A Color Print 5oo แผ่น ทุก 1 รีม แถมสมุดโน้ต Colorful 1 เล่ม มูลค่า 20 บาท และจะใช้กลยุทธ์แนะนำให้ลูกค้าเดิมของดั๊บเบิ้ล เอ ได้รู้จักกับ Double A Color Print เร็วขึ้น โดยจัดโปรโมชั่นแถมพิเศษให้กับลูกค้ากระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทั้งแบบรีมและแบบกล่องได้ทดลองใช้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยตั้งเป้าหมายยอดจำหน่าย Double A Color Print ในปีแรกไม่น้อยกว่า 6,000 ตัน หรือประมาณ 240 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2554 ดั๊บเบิ้ล เอ ได้วางเป้าหมายยอดจำหน่ายกระดาษเติบโตสูงถึง 15-20% สำหรับตลาดในประเทศไทย และตลาดต่างประเทศ ดั๊บเบิ้ล เอ จะขยายสู่ตลาดใหม่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุด ได้ออกหนังโฆษณาในตลาดเอเชียใต้

ดั๊บเบิ้ล เอ คัลเลอร์ พรินต์ ชวนสาวกเฟซบุ๊ค ประกวด Color Funny Face Contest ชิงรางวัลพรินเตอร์สี

หลังจาก ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่แนะนำผลิตภัณฑ์กระดาษเพื่องานพรินต์สี ภายใต้แบรนด์ชื่อว่า "ดั๊บเบิ้ล เอ คัลเลอร์ พรินต์" ทั้งนี้เพื่อสร้างการจดจำอย่างต่อเนื่องจึงได้จัดกิจกรรมออนไลน์ "Color Funny Face Contest" ประกวดการทำหน้าตลกล้อเลียนหนังโฆษณา ผู้สนใจสามารถส่งภาพหน้าตลกของคุณเอง แล้วอัพโหลดลงในหน้า Fan Page กิจกรรมในเฟซบุ๊คของดั๊บเบิ้ล เอ 5 อันดับแรกที่ได้รับคะแนนจากการ Click Like มากที่สุดจะได้รับรางวัลเครื่องพรินต์เตอร์ พร้อมกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ คัลเลอร์ พรินต์อีกรางวัลละ 5 รีม สามารถส่งภาพและร่วมโหวตได้ที่ www.facebook.com/DoubleAClub ตั้งแต่วันที่ 1 -28 กุมภาพันธ์ 2554

ดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรม 1 แสนคน ลดโลกร้อนในเกาหลี

ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษแก้โลกร้อนและแบรนด์กระดาษของคนไทยที่ส่งออกไปแล้วกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ได้จัดกิจกรรม 100,000 รายชื่อ เพื่อรณรงค์ลดโลกร้อน ภายใต้สโลแกน "Better Paper Better World" ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงโซลและเมืองปูซาน ประเทศเกาหลี เพื่อตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องโลกร้อน ซึ่งกิจกรรมนี้ดั๊บเบิ้ล เอ เชิญชวนพนักงานออฟฟิศร่วมลงนามเป็น 1 ใน 100,000 คนที่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความคิดเห็นช่วยลดโลกร้อน นับเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามและเป็นการปลุกจิตสำนึกร่วมรักษ์สิ่งแวดล้อม