Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ สวนสุนันทา หนุนไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียน (Hub of CLMV) ตั้งศูนย์การเรียนรู้ Double A Logistics Academy

"หนึ่งในแกนหลักของการแข่งขัน และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ คือ ระบบโลจิสติกส์ ประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น อาจไม่ใช่ประเทศที่มีความมั่งคั่ง ร่ำรวยทรัพยากรแต่อย่างใด แต่เป็นประเทศที่มีความเป็นผู้นำด้านระบบโลจิสติกส์”

คำบรรยายพิเศษ ของ นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ ในโอกาสเปิดศูนย์เรียนรู้ Double A Logistics Academy

 

นับเป็นปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งแรกของภาคเอกชนกับสถาบันการศึกษา ระหว่าง ดั๊บเบิ้ล เอ โดยนายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)  และ วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนของประเทศไทย พร้อมๆ กับการเร่งสร้างทรัพยากรบุคลากรด้านโลจิสติกส์ให้เติบโต  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการค้า และนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแห่งอาเซียน (Hub of CLMV) โดยมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ดังเช่นเมืองหลักสำคัญของโลก อาทิ นครร็อตเตอร์ดัม แห่งเนเธอร์แลนด์ นครนิวเจอร์ซี่  แห่งสหรัฐอเมริกา และนครเซี่ยงไฮ้ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่พัฒนาระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

จึงเป็นที่มาของโครงการความร่วมมือด้านวิชาการในระบบโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน  และการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ Double A Logistics Academy ขึ้น ณ วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม  โดยศูนย์เรียนรู้นี้ จะประกอบไปด้วย ห้องปฎิบัติการคอมพิวเตอร์ ที่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พร้อมระบบเชื่อมต่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ระบบซอฟต์แวร์การจัดการ  โลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั้งระบบ และห้องปฏิบัติการโลจิสติกส์ ที่จำลองการจัดการคลังสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง  รวมถึงห้องปฎิบัติการขายจริง (Point of Sales – POS) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้แบบบูรณาการ และกระตุ้นให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้จากปฏิบัติการจริง รวมถึงเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติด้านโลจิสติกส์

ปัจจุบันภาครัฐกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวนับเป็นการผลักดันการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่ผสานโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ด้านเทคโนโลยีทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารยุคดิจิตอลอย่างเป็นรูปธรรม ยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยมีภูมิประเทศตั้งอยู่ตรงกลาง และรอบล้อมไปด้วยประเทศสมาชิกต่างๆ ในสมาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ทำให้ไทยได้เปรียบจากการมีลักษณะพื้นที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมเป็น land link อีกทั้งยังมีขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศรอบด้านมากกว่าประเทศในกลุ่ม CLMV จึงเอื้อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์  รวมถึงการเปิด AEC ส่งผลให้เกิดการจัดตั้งกลุ่มประเทศระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง(Greater Mekong Subregion Corridors ) ของ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมยึดโยงเข้าหากัน เป็นอีกหนึ่งเส้นทาง land link ยุทธศาสตร์สำคัญของการจัดการและบริหารระบบโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดี

นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กล่าวเสริมว่า การปฏิรูปโลจิสติกส์ยังสร้างโอกาสมหาศาลให้กับคนรุ่นใหม่เป็นรายบุคคล ที่จะพัฒนาธุรกิจใหม่ในฐานะ Start up ด้วยการนำนวัตกรรมมาพัฒนาระบบไอที ระบบแอพพลิเคชั่น   เพื่อสนับสนุนรองรับระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ซึ่งโอกาสได้เปิดกว้างขึ้นในการสร้างความมั่งคั่งของคนรุ่นใหม่ ตัวอย่างเช่น Uber Taxi แอพพลิเคชั่นที่เป็นบิสซิเนส โมเดลด้านโลจิสติกส์ ประเภทหนึ่งของ Start   up โดยจัดเป็นประเภท  Sharing Endures Resource ซึ่งเป็นการสนองความต้องการแก่ผู้บริโภคโดยนำนวัตกรรมเข้ามาเป็นเครื่องมือ เช่นเดียวกับ Uber ที่สนองความต้องการ (needs) ของผู้ใช้แท็กซี่ที่มีนวัตกรรมเข้ามาช่วย  ปัจจุบัน Uber ให้บริการใน 68 ประเทศ มากกว่า 400 เมือง มีคนขับในระบบ 1.2 ล้านคน และมีผู้ใช้บริการหลัก 10 ล้านคน โดยในประเทศไทยมีคนขับในเครือข่ายมากกว่า 35,000 คน

เช่นเดียวกันกับ Alibaba.com เว็บไซต์ขายส่งสัญชาติจีนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งเป็นศูนย์รวมโรงงานในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นทางออกในการรองรับการค้าขายที่เหมาะสมที่สุด ช่องทางหนึ่ง และเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งสินค้าเหล่านั้นกระจายสู่ทั่วโลกในรูปแบบ  Business to Business หรือ B2B ดังนั้นยังมีอีกหลายบิซิเนส โมเดล ที่รอให้นักศึกษา หรือคนรุ่นใหม่เข้ามาค้นหาโอกาสและช่องทางในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ และพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนให้เกิดขึ้นในวงการธุรกิจไทย "

รศ.ดร. ฤาเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กล่าวว่า   “มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีนโนยบายมุ่งพัฒนาคน อันเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ควรส่งเสริมองค์ความรู้ให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จึงได้เกิดเป็นความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษากับภาคธุรกิจเพื่อร่วมกันพัฒนาการเรียนการสอนที่มุ่งมั่นในการผลิตนักศึกษาให้สามารถรองรับกับความต้องการของภาคธุรกิจที่ต้อง เผชิญความท้าทายรอบด้าน และกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างเหมาะสม  ดังนั้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทางมหาวิทยาลัยเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และห้องปฏิบัติการขายที่มหาวิทยาลัย ได้รับมอบจากดั๊บเบิ้ล เอ จะเป็นเครื่องมือที่ติดอาวุธให้กับนักศึกษา สาขาโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ในการยกระดับการเรียนการสอนพัฒนาหลักสูตรจากการศึกษาผ่านประสบการณ์จริงจากบุคลากรและกระบวนการดำเนินงานจริงของดั๊บเบิ้ล เอ และผ่านการจำลองร้านค้า เครื่องเขียน และร้านถ่ายเอกสารของดั๊บเบิ้ล เอ ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ การบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และเมื่อนักศึกษารุ่นนี้จบออกไปพวกเขาเหล่านี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ยุคใหม่ให้ก้าวหน้าทันสมัยรองรับความท้าทายที่ต้องเผชิญต่อความเปลี่ยนแปลงรอบด้านในปัจจุบัน"

กิตติพงศ์ ธารปราบ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการจัดการโลจิสติกส์ อายุ 20 ปี กล่าวว่า การจัดตั้ง Double A Logistics Academy เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ มีคุณค่า ที่ทำให้พวกเขาเห็นภาพการเรียนรู้ระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์จากประสบการณ์จริงอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นักศึกษาอีกหลายคนมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าพวกเขาและเธอมีแรงบันดาลใจในการก้าวเข้ามาเรียนสาขาวิชานี้จากการที่เป็นคนชอบการเดินทาง รักการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง และมีความเห็นว่า การเรียนสาขาวิชานี้จะทำให้บริหารจัดการสินค้าและผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบ สร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมีศักยภาพมาตรฐานในระดับสากล การจัดการโลจิสติกส์ที่ดีสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับบริการลูกค้า และมูลค่าทางการค้า แต่ปัจจุบันกิจกรรมโลจิสติกส์ยังมีต้นทุนสูง ธุรกิจในประเทศไทยโดยรวมมีการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมโลจิสติกส์ คิดเป็น 14.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือประมาณ 1,835 พันล้านบาท การบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นกุญแจสำคัญของการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ และการพัฒนาเศรษฐกิจไทย จากผลการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) ประเทศไทยมีสมรรถนะการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ (Logistics Performance Index (LPI) ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ โดยเมื่อปี 2557 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 35 สิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 5 และมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 25 จากทั้งหมด 160 ประเทศ ในขณะที่การเปิดการค้าเสรีอาเซียนที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ AEC จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจในระดับเวทีสากล จึงจำเป็นที่ประเทศไทยทุกภาคส่วน ต้องร่วมกันปรับตัว และทำให้ข้อได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ที่ไทยมีที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ มาทำให้เกิดประโยชน์ในการผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแห่งอาเซียนสืบไป

 

ภาพประกอบสกู๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างรอยยิ้มและสุขอนามัยที่ดีให้เยาวชน

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างรอยยิ้มและความสุขในกิจกรรม “เลี้ยงน้องวันเกิด ครั้งที่ 123” ณ โรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม จังหวัดปราจีนบุรี โดยพี่ๆพนักงานดั๊บเบิ้ล เอ จิตอาสาร่วมทำบุญในเดือนเกิด รูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) สู้ภัยโควิด-19 ด้วยการมอบเจลแอลกอฮอล์ Double A Care และหน้ากากอนามัยให้กับครูและนักเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้พี่ๆจิตอาสายังได้สาธิตวิธีการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องให้กับน้องๆ อีกด้วย ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดกิจกรรมเลี้ยงน้องวันเกิดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อส่งเสริมสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของเยาวชนให้เติบโตมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “Double A Care” เพื่อสุขอนามัยรับ New Normal

ดั๊บเบิ้ล เอ รองรับความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal แตกไลน์กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสุขอนามัย ภายใต้แบรนด์ “Double A Care” นำร่องเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มแรก คือ แอลกอฮอล์และเจลแอลกอฮอล์ 75% สำหรับทำความสะอาดมือ กลิ่น Blue Sea หอมสดชื่น โดยเปิดจำหน่ายแล้วผ่านช่องทางดั๊บเบิ้ล เอ เดลิเวอรี่ และขยายสู่ช่องทางต่างๆทั่วประเทศ เพื่อร่วมสร้างความปลอดภัยและส่งต่อความห่วงใยสู่คนไทย นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทำให้ผู้บริโภคเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบชีวิตวิถีใหม่หรือ New Normal ที่ใส่ใจดูแลตนเองมากขึ้น เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด -19 โดยที่ผ่านมา ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มอบแอลกอฮอล์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลกว่า 50 แห่ง หน่วยงานราชการ ชุมชน ร้านค้า และลูกค้าในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศตั้งแต่ช่วงแรกของการแพร่ระบาด ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ให้ความสำคัญและห่วงใยมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันดั๊บเบิ้ล เอ ได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสุขอนามัย ภายใต้ชื่อ “Double A Care” เพื่อยืนเคียงข้างและขอเป็นส่วนหนึ่งในความห่วงใยสังคม และร่วมส่งเสริมความปลอดภัยแก่คนไทย “Double A Care” นำร่องเปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ความเข้มข้น 75% สามารถใช้ทำความสะอาดมือโดยไม่ต้องล้างออกหรือใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย กลิ่น Blue Sea หอมสดชื่นละมุน ผ่อนคลาย ปลอดภัยต่อการใช้ง่าย เหมาะสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เนื่องจากเป็นแอลกอฮอล์ธรรมชาติผลิตจากมันสำปะหลัง ระดับเดียวกับที่ใช้ในวงการแพทย์และเภสัชกรรม (Pharmaceutical Grade) และมีเลขที่จดแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแอลกอฮอล์มี 3 ขนาดคือ ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์แบบขวดสเปรย์สำหรับพกพาขนาด 60 มิลลิลิตร แบบแกลลอนขนาด 1,000 มิลลิลิตร และผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ ขนาด 450 มิลลิลิตร รวมทั้งจะมีสินค้าใหม่ๆ ในกลุ่ม Double A Care ทยอยเปิดตัวออกมาอย่างต่อเนื่องในอนาคต เช่น สบู่เหลวล้างมือ โฟมล้างมือ น้ำยาถูพื้น น้ำยาฆ่าเชื้อดับกลิ่น เป็นต้น สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ Double A Care ได้แล้วผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ ดั๊บเบิ้ล เอ เดลิเวอรี่ delivery.doubleapaper.com และเตรียมพบกับ Double A Care ในทุกช่องทางทั่วประเทศ ทั้งร้านค้าพันธมิตรของดั๊บเบิ้ล เอ ร้านเครื่องเขียน ร้านถ่ายเอกสาร โมเดิร์นเทรด และ ช่องทางช้อปปิ้งออนไลน์ เพื่อส่งมอบความห่วงใยผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยให้คนไทยมีสุขอนามัยที่ดี ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษเป็นธุรกิจหลัก มีตลาดส่งออกกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งในทวีปเอเชีย สหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา และเมื่อกลางปีนี้ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กระดาษกล่องและบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งมีธุรกิจอีคอมเมิร์ซ “Double A Delivery” ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของดั๊บเบิ้ล เอ ไปยังลูกค้าโดยตรง ผ่านช่องทาง 1759 ดั๊บเบิ้ล เอ ฮอตไลน์, เว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com และ Line Official Account “@DoubleAdelivery” ซึ่งขณะนี้มีสินค้าแล้วมากกว่า 500 รายการ ทั้งกลุ่มสมุด เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน กระเป๋าผ้า สินค้าเพื่อผู้ค้าขายออนไลน์ สินค้าไลฟ์สไตล์ และล่าสุดสินค้ากลุ่ม Double A Care

ดั๊บเบิ้ล เอ ยกขบวนสินค้าราคาพิเศษในงาน "ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 56"

ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนคนไทยเที่ยวงาน "ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 56" มหกรรมส่งเสริมสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมมากกว่า 700 บูธ โดยดั๊บเบิ้ล เอ ออกบูธนำสินค้ากลุ่มใหม่ Double A Care จัดโปรโมชั่นพิเศษ! เพื่อให้คนไทยท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย และช่วยลดค่าครองชีพ อาทิ เจลอนามัยทำความสะอาดมือแอลกอฮอล์ 75% กลิ่น Blue Sea ขนาด 450 ml. ราคา 150 บาท โปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 , ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือแอลกอฮอล์ 75% ขนาด 1,000 ml. ราคาปกติ 145 บาท ลดเหลือเพียง 99 บาท อีกทั้งยังมีสินค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงานลดราคาพิเศษ 20-50% เฉพาะในงานเท่านั้น พบกันที่บูธ Double A Care (E17) ฮอลล์ EH103 - 104 ระหว่างวันที่ 3 - 6 ก.ย. 63 ณ ไบเทค บางนา

มอบโชคทะลุล้าน จับรางวัลทุกเดือนกับ Double A QR Lucky in Gold

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวแคมเปญ Double A QR Lucky in Gold โชค 3 ชั้นรอบใหม่มอบโชคทะลุล้าน ลุ้นทองคำทุกเดือน พร้อมเพิ่มรางวัลโทรศัพท์มือถือ iPhone 11 และ iPad Air 10.5 นิ้ว รวมทั้งสิ้น 103 รางวัล เพียงสแกนคิวอาร์โค้ดข้างกล่องดั๊บเบิ้ล เอ ผ่านแอปพลิเคชั่น Double A QR Lucky in Gold ลุ้นรางวัลทองคำหนัก 50 สตางค์ รางวัลโทรศัพท์มือถือ iPhone 11 (64MB) และ iPad Air 10.5 นิ้ว (256GB) ทุกเดือน นอกจากนี้ทุกการสแกนคิวอาร์โค้ดข้างกล่อง ยังได้สะสมแต้มแลกของรางวัลมากมายตลอดแคมเปญ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเติมน้ำมันพีที, บัตรกำนัลสตาร์บัคส์, บัตรกำนัลเทสโก้ โลตัส, บัตรรับประทานอาหาร MK เป็นต้น สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2563 จับรางวัลครั้งที่ 1 ในวันที่ 15 กันยายน 2563 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.doublearewards.com

ดั๊บเบิ้ล เอ ปล่อยพันธุ์ปลา เฉลิมพระเกียรติฯ แม่ของแผ่นดิน

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับอำเภอศรีมหาโพธิ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม และประชาชนทั่วไป จังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกิจกรรมจิตอาสา "เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์" เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2563 โดยมีนายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์ปลา จำนวน 500,000 ตัว อาทิ ปลานวลจันทร์ ปลายี่สก ปลาจีน ปลาสวาย ปลาตะเพียน และปลากด(คัง) ลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศล อีกทั้งยังเป็นการรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหาร และอนุรักษ์ระบบนิเวศในแม่น้ำให้คงอยู่สืบไป