Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ สวนสุนันทา หนุนไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียน (Hub of CLMV) ตั้งศูนย์การเรียนรู้ Double A Logistics Academy

"หนึ่งในแกนหลักของการแข่งขัน และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ คือ ระบบโลจิสติกส์ ประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น อาจไม่ใช่ประเทศที่มีความมั่งคั่ง ร่ำรวยทรัพยากรแต่อย่างใด แต่เป็นประเทศที่มีความเป็นผู้นำด้านระบบโลจิสติกส์”

คำบรรยายพิเศษ ของ นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ ในโอกาสเปิดศูนย์เรียนรู้ Double A Logistics Academy

 

นับเป็นปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งแรกของภาคเอกชนกับสถาบันการศึกษา ระหว่าง ดั๊บเบิ้ล เอ โดยนายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)  และ วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนของประเทศไทย พร้อมๆ กับการเร่งสร้างทรัพยากรบุคลากรด้านโลจิสติกส์ให้เติบโต  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการค้า และนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแห่งอาเซียน (Hub of CLMV) โดยมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ดังเช่นเมืองหลักสำคัญของโลก อาทิ นครร็อตเตอร์ดัม แห่งเนเธอร์แลนด์ นครนิวเจอร์ซี่  แห่งสหรัฐอเมริกา และนครเซี่ยงไฮ้ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่พัฒนาระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

จึงเป็นที่มาของโครงการความร่วมมือด้านวิชาการในระบบโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน  และการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ Double A Logistics Academy ขึ้น ณ วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม  โดยศูนย์เรียนรู้นี้ จะประกอบไปด้วย ห้องปฎิบัติการคอมพิวเตอร์ ที่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พร้อมระบบเชื่อมต่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ระบบซอฟต์แวร์การจัดการ  โลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั้งระบบ และห้องปฏิบัติการโลจิสติกส์ ที่จำลองการจัดการคลังสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง  รวมถึงห้องปฎิบัติการขายจริง (Point of Sales – POS) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้แบบบูรณาการ และกระตุ้นให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้จากปฏิบัติการจริง รวมถึงเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติด้านโลจิสติกส์

ปัจจุบันภาครัฐกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวนับเป็นการผลักดันการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่ผสานโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ด้านเทคโนโลยีทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารยุคดิจิตอลอย่างเป็นรูปธรรม ยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยมีภูมิประเทศตั้งอยู่ตรงกลาง และรอบล้อมไปด้วยประเทศสมาชิกต่างๆ ในสมาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ทำให้ไทยได้เปรียบจากการมีลักษณะพื้นที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมเป็น land link อีกทั้งยังมีขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศรอบด้านมากกว่าประเทศในกลุ่ม CLMV จึงเอื้อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์  รวมถึงการเปิด AEC ส่งผลให้เกิดการจัดตั้งกลุ่มประเทศระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง(Greater Mekong Subregion Corridors ) ของ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมยึดโยงเข้าหากัน เป็นอีกหนึ่งเส้นทาง land link ยุทธศาสตร์สำคัญของการจัดการและบริหารระบบโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดี

นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กล่าวเสริมว่า การปฏิรูปโลจิสติกส์ยังสร้างโอกาสมหาศาลให้กับคนรุ่นใหม่เป็นรายบุคคล ที่จะพัฒนาธุรกิจใหม่ในฐานะ Start up ด้วยการนำนวัตกรรมมาพัฒนาระบบไอที ระบบแอพพลิเคชั่น   เพื่อสนับสนุนรองรับระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ซึ่งโอกาสได้เปิดกว้างขึ้นในการสร้างความมั่งคั่งของคนรุ่นใหม่ ตัวอย่างเช่น Uber Taxi แอพพลิเคชั่นที่เป็นบิสซิเนส โมเดลด้านโลจิสติกส์ ประเภทหนึ่งของ Start   up โดยจัดเป็นประเภท  Sharing Endures Resource ซึ่งเป็นการสนองความต้องการแก่ผู้บริโภคโดยนำนวัตกรรมเข้ามาเป็นเครื่องมือ เช่นเดียวกับ Uber ที่สนองความต้องการ (needs) ของผู้ใช้แท็กซี่ที่มีนวัตกรรมเข้ามาช่วย  ปัจจุบัน Uber ให้บริการใน 68 ประเทศ มากกว่า 400 เมือง มีคนขับในระบบ 1.2 ล้านคน และมีผู้ใช้บริการหลัก 10 ล้านคน โดยในประเทศไทยมีคนขับในเครือข่ายมากกว่า 35,000 คน

เช่นเดียวกันกับ Alibaba.com เว็บไซต์ขายส่งสัญชาติจีนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งเป็นศูนย์รวมโรงงานในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นทางออกในการรองรับการค้าขายที่เหมาะสมที่สุด ช่องทางหนึ่ง และเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งสินค้าเหล่านั้นกระจายสู่ทั่วโลกในรูปแบบ  Business to Business หรือ B2B ดังนั้นยังมีอีกหลายบิซิเนส โมเดล ที่รอให้นักศึกษา หรือคนรุ่นใหม่เข้ามาค้นหาโอกาสและช่องทางในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ และพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนให้เกิดขึ้นในวงการธุรกิจไทย "

รศ.ดร. ฤาเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กล่าวว่า   “มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีนโนยบายมุ่งพัฒนาคน อันเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ควรส่งเสริมองค์ความรู้ให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จึงได้เกิดเป็นความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษากับภาคธุรกิจเพื่อร่วมกันพัฒนาการเรียนการสอนที่มุ่งมั่นในการผลิตนักศึกษาให้สามารถรองรับกับความต้องการของภาคธุรกิจที่ต้อง เผชิญความท้าทายรอบด้าน และกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างเหมาะสม  ดังนั้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทางมหาวิทยาลัยเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และห้องปฏิบัติการขายที่มหาวิทยาลัย ได้รับมอบจากดั๊บเบิ้ล เอ จะเป็นเครื่องมือที่ติดอาวุธให้กับนักศึกษา สาขาโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ในการยกระดับการเรียนการสอนพัฒนาหลักสูตรจากการศึกษาผ่านประสบการณ์จริงจากบุคลากรและกระบวนการดำเนินงานจริงของดั๊บเบิ้ล เอ และผ่านการจำลองร้านค้า เครื่องเขียน และร้านถ่ายเอกสารของดั๊บเบิ้ล เอ ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ การบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และเมื่อนักศึกษารุ่นนี้จบออกไปพวกเขาเหล่านี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ยุคใหม่ให้ก้าวหน้าทันสมัยรองรับความท้าทายที่ต้องเผชิญต่อความเปลี่ยนแปลงรอบด้านในปัจจุบัน"

กิตติพงศ์ ธารปราบ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการจัดการโลจิสติกส์ อายุ 20 ปี กล่าวว่า การจัดตั้ง Double A Logistics Academy เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ มีคุณค่า ที่ทำให้พวกเขาเห็นภาพการเรียนรู้ระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์จากประสบการณ์จริงอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นักศึกษาอีกหลายคนมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าพวกเขาและเธอมีแรงบันดาลใจในการก้าวเข้ามาเรียนสาขาวิชานี้จากการที่เป็นคนชอบการเดินทาง รักการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง และมีความเห็นว่า การเรียนสาขาวิชานี้จะทำให้บริหารจัดการสินค้าและผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบ สร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมีศักยภาพมาตรฐานในระดับสากล การจัดการโลจิสติกส์ที่ดีสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับบริการลูกค้า และมูลค่าทางการค้า แต่ปัจจุบันกิจกรรมโลจิสติกส์ยังมีต้นทุนสูง ธุรกิจในประเทศไทยโดยรวมมีการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมโลจิสติกส์ คิดเป็น 14.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือประมาณ 1,835 พันล้านบาท การบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นกุญแจสำคัญของการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ และการพัฒนาเศรษฐกิจไทย จากผลการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) ประเทศไทยมีสมรรถนะการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ (Logistics Performance Index (LPI) ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ โดยเมื่อปี 2557 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 35 สิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 5 และมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 25 จากทั้งหมด 160 ประเทศ ในขณะที่การเปิดการค้าเสรีอาเซียนที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ AEC จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจในระดับเวทีสากล จึงจำเป็นที่ประเทศไทยทุกภาคส่วน ต้องร่วมกันปรับตัว และทำให้ข้อได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ที่ไทยมีที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ มาทำให้เกิดประโยชน์ในการผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแห่งอาเซียนสืบไป

 

ภาพประกอบสกู๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวสินค้าใหม่เอาใจสายมู เสริมความปังรับปีมังกร

ดั๊บเบิ้ล เอ แนะนำผลิตภัณฑ์ Double A Stationery ในกลุ่มไลฟ์สไตล์ กับคอลเลคชั่น “SUN SUN LUCKY DRAGON” น้องมังกรนำโชค สัญลักษณ์เสริมความมงคลต้อนรับปีมังกร ส่งคำอวยพรผ่านผลิตภัณฑ์ลายน้องมังกรสุดน่ารัก ที่จะช่วยนำความโชคดีมาให้ตลอดปีตลอดไป ไม่ว่าจะเป็น “เงินทองมั่งมี เสริมโชคด้านการเงิน” ด้วยซองอั่งเปาพิมพ์ทอง แพ็ค 8 ซอง มี 4 ลายมงคล, สินค้ากระเป๋ารับทรัพย์ เช่น กระเป๋า Tote bag, กระเป๋าช้อปปิ้ง,กระเป๋าผ้าพับได้ ลายน่ารัก สื่อถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย เฮงๆ ตลอดปี “สุขภาพดีเด่น เสริมโชคด้านสุขภาพ” ด้วยอาหารร้อนๆจากถ้วยซุปเก็บอุณหภูมิ ขนาด 20 ออนซ์ ซึ่งสามารถใส่อาหารได้ทั้งร้อนและเย็น เหมาะกับการพกพา, แก้วน้ำสแตนเลส 304 เก็บอุณหภูมิร้อน-เย็น มีให้เลือกทั้งขนาด 12 ออนซ์และ 24 ออนซ์, พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยร่มพับ 5 ตอน น้ำหนักเบา พกพาสะดวก แข็งแรงทนทาน เคลือบสารป้องกันรังสี UVA UVB และ “เสริมโชคด้านความรัก มอบความอบอุ่น” ด้วยตุ๊กตามังก๊วน 3 แบบ “เป่า ซิง ชู” หรือหมอนรองคอน้องมังกร ที่ผลิตจากผ้าไร้สารพิษ ไม่มีสารก่อมะเร็ง ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ อีกทั้งไส้ในยังเป็นเส้นใย upcycling จากขวดน้ำพลาสติกช่วยรักษ์โลกอีกด้วย เหมาะเป็นของขวัญให้กับคนที่คุณรักได้ทุกเพศทุกวัย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อสินค้าหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.DoubleAdelivery.com/sunsun และยังสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีโครงการ Easy E-Receipt หรือผ่านช่องทาง Official Shop ของดั๊บเบิ้ล เอ ใน Shopee, Lazada , ร้าน B2S, OfficeMate, BeTrend, SE-ED, Loft และ Medium and More

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะนักเรียนจากรร.เบ็ญจะมะมหาราช

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะนักเรียนและครู โครงการห้องเรียนพิเศษ แผนกการเรียนนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จังหวัดอุบลราชธานี เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษ ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จ.ปราจีนบุรี ที่เลือกใช้เทคโนโลยีชั้นนำเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้มาตรฐานคุณภาพระดับสากล ISO 9001 และมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 รวมทั้งได้เข้าใจถึงที่มาของวัตถุดิบจากไม้ปลูกของเกษตรกร ไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ มีส่วนช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและยังเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย ผ่านการนำเสนอด้วยรูปแบบภาพยนตร์ระบบ 4 มิติ พร้อมเข้าชมการผลิตกระดาษคุณภาพสูงในโรงงานผลิตกระดาษแห่งที่ 3 นับเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน ส่งเสริมด้านการศึกษาในอีกรูปแบบ สำหรับองค์กรหรือสถานศึกษาที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://openhouse.doubleapaper.com/

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบหน้ากากอนามัยฯ ให้การแพทย์และสาธารณสุขทั่วประเทศไทย

ดั๊บเบิ้ล เอ จัดโครงการ “Double A ส่งใจ มอบความห่วงใย ทั่วไทย” มอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ภายใต้แบรนด์ Double A Care ให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย กลุ่มเปราะบางและผู้ที่ขาดแคลนทั่วประเทศ รวมกว่า 6 ล้านชิ้น เป็นมูลค่ารวม 15 ล้านบาท และยังมีแผนดำเนินการมอบต่อเนื่องในปี 2567 เพื่อสนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุข ส่งต่อความห่วงใยสู่สังคมไทย       นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวถึงโครงการ ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งใจ ส่งความห่วงใย เพื่อการแพทย์และสาธารณสุข ว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2562 ทำให้หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลป้องกันในเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น แม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายในระดับหนึ่ง แต่เราก็ยังควรต้องเฝ้าระวังและไม่ประมาท เพราะยังมีการระบาดของโรคติดต่อจากทางเดินหายใจต่างๆ เช่น การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดอักเสบ เป็นต้น รวมไปถึงสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่คนไทยเริ่มประสบปัญหาขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ได้เล็งเห็นความสำคัญและห่วงใยด้านสุขอนามัยของคนไทย จึงได้จัดทำโครงการ " Double A ส่งใจ มอบความห่วงใย ทั่วไทย”โดยมอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ Double A Care ให้กับบุคคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงผู้ป่วย ประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้ขาดแคลนทั่วประเทศ ผ่านสถานพยาบาล สาธารณสุขจังหวัดต่างๆ และองค์กรการกุศล จำนวนกว่า 6 ล้านชิ้น มูลค่ารวม 15 ล้านบาท และตลอดปี 2567 นี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังคงดำเนินการมอบหน้ากากอนามัยฯอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ให้กับสถานพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุข ซึ่งยังคงมีความต้องการเป็นจำนวนมาก ตามแนวทาง ESG ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินการต่อเนื่องอย่างยั่งยืนนับเป็นการส่งต่อความห่วงใยและกำลังใจให้กับสังคมไทย

ดั๊บเบิ้ล เอ "แต้มปันสุข ครั้งที่ 5" กับมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก

คุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ Double A Care สำหรับเด็ก และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส รวมถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ผ่านมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ภายใต้กิจกรรม "ดั๊บเบิ้ล เอ แต้มปันสุข ครั้งที่ 5" โดยมีคุณทรงศิริ นิลจุลกะ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยนอก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ เป็นผู้แทนรับมอบ ทั้งนี้ กิจกรรม "แต้มปันสุข ครั้งที่ 5" ได้เชิญชวนลูกค้าดั๊บเบิ้ล เอ มาร่วมเปลี่ยนแต้มสะสม จากการสแกน QR Code ข้างกล่องกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ โดยทุก 1 แต้มที่แลก ร่วมบริจาคหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ให้กับเด็กป่วยและเด็กที่ขาดแคลน จำนวน 1 ชิ้น และดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมสมทบหน้ากากอนามัยฯให้กับบุคลากรทางการแพทย์อีก 1 ชิ้น

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งมอบความสุขในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งความสุขในกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567 โดยมอบจักรยานให้กับน้องๆกว่า 150 คัน พร้อมอุปกรณ์การเรียน ให้กับโรงเรียนต่างๆ รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่น อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม เป็นต้น เพื่อเป็นของขวัญในกิจกรรมวันเด็กปีนี้รวมกว่า 50 แห่ง สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับน้องๆ ที่เป็นพลังสำคัญของประเทศในอนาคต ผ่านกิจกรรมที่สนุกเพลิดเพลินโดยสอดแทรกความรู้ วัฒนธรรม กีฬา และนันทนาการ ด้วยมุ่งหวังในการส่งเสริมพัฒนาการที่ดีให้กับเยาวชนทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจและการอยู่ร่วมกันในสังคม

ดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรม "30 ล้านก้าวเพื่อน้อง" มอบอุปกรณ์การเรียน

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบผลิตภัณฑ์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ และสมุดนักเรียน ให้กับน้อง ๆ ในโรงเรียนพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดปราจีนบุรี รวมกว่า 10 แห่ง อาทิ โรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูล โรงเรียนบ้านท่าตูม โรงเรียนบ้านโป่งไผ่ โรงเรียนวัดสนามจันทร์ เป็นต้น ภายใต้กิจกรรม "ดั๊บเบิ้ล เอ 30 ล้านก้าวเพื่อน้อง (Double A Virtual Steps Challenge)" ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้จัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยเชิญชวนให้พนักงานร่วมออกกำลังกายด้วยการสะสมจำนวนก้าวเดินให้ครบตามเป้าหมาย 30 ล้านก้าวภายในระยะเวลา 30 วัน เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายสู่องค์กรสุขภาพดี นอกจากนี้แล้ว ยังได้ร่วมสนับสนุนการศึกษาให้กับเด็กไทย โดยดั๊บเบิ้ล เอ จะส่งมอบผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนให้กับโรงเรียนรอบพื้นที่อีกด้วย นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยสร้างความแข็งแรงทั้งด้านสุขภาพและคุณภาพสังคม โดยยึดหลักการดำเนินงานตามแนวคิด ESG ที่เน้นให้ความสำคัญและพัฒนาทุกด้านให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลที่ดี