Follow us

Love All Life…ศิลปะบนปกสมุดฝีมือเด็กพิเศษ

“การวาดรูป คือการบำบัด ไม่มีผิด ไม่มีถูก กล้า ลงมือ ทำ มันจะช่วยเรื่องของทักษะอารมณ์และจินตนาการ” ทำให้ศิลปะได้ถูกนำมาใช้บำบัดน้องๆออทิสติก จนเกิดเป็นผลงานสร้างสรรค์ ความภาคภูมิใจในตนเอง และยังเป็นรายได้ที่ยั่งยืนให้กับน้องๆ

ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับ Art Story วิสาหกิจเพื่อสังคม ภายใต้มูลนิธิออทิสติกไทย จัดทำโครงการสมุดชุดลิมิเต็ดอิดิชั่น ฝีมือการออกแบบปกสมุด จากกลุ่มเด็กออทิสติกที่มีความสามารถพิเศษด้านศิลปะ ตามแนวคิด “Love All Life” เพื่อแสดงความรักต่อสัตว์ทั้งมวลบนโลกผ่านจินตนาการของน้อง ๆ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชุดด้วยกันคือ “ชุด Koala” สมุดสันห่วงขนาด A6 , “ชุด Occupation” สมุดมุงหลังคาขนาด A5 และ “ชุด Animal” สมุดสันห่วงขนาด A5 โดยรายได้จากการจำหน่ายส่วนหนึ่งจะถูกส่งต่อให้มูลนิธิออทิสติกไทยเพื่อนำไปเป็นทุนสนับสนุนการพัฒนาฝีมือและสร้างรายได้ให้กับน้อง ๆ ออทิสติกต่อไป

สำหรับทุกภาพที่วาดและลงสี น้องๆได้ถ่ายทอดออกมาเป็นสัตว์นานาชนิดตามจินตนาการ ตามเรื่องราวและความคิดที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น “น้องขิม” น.ส.ธัญลักษณ์ ไพเราะ สาวน้อยที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะได้เล่าถึงผลงานในครั้งนี้ว่า “วาดรูปยีราฟกับโคอาล่าค่ะ เพราะว่าโคอาล่าน่ารักดี ขนมันปุยๆนุ่มๆ รู้สึกอยากลองจับมัน ลูบเล่น พอดีว่าเจอข่าวในยูทูป โดนไฟป่า หมดน่ารักเลย อยากให้ร่วมมือกันช่วยโลก ทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์ ถ้าช่วยเขาแล้ว ก็จะมีคนรักและเมตตาเขาค่ะ ส่วนยีราฟตัวสูง ถ้าเขานอนล้มลง เขาก็จะขาดออกซิเจนและตาย”

“น้องก้อง” นายเจตน์ วิเศษณัฐ หนุ่มออทิสติกดีกรีปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และได้วาดปกสมุดในชุด Occupation เล่าถึงที่มาว่า “วาดเสือขับเครื่องบินครับ เสือเป็นนักบิน ชอบขับเครื่องบินไปท่องโลก เขาดูหล่อ ใส่แว่นตาดำด้วย และวาดเสือตำรวจด้วยครับ เพราะเสือมีระเบียบวินัย จับกุมคนร้าย มีความอดทนแล้วก็เท่ดี”

นายมโนชัย ตั้งสุวรรณ หรือน้องหม่อน “วาดรูปช้างศึกครับ หมายถึงนักเตะฟุตบอล ทีมชาติไทยครับ ผมอยากเป็นนักข่าวสัมภาษณ์นักฟุตบอลบ้างครับ และเป็นนักวาดภาพด้วย อยากจะบอกว่าถ้าเกิดทีมช้างศึกเราแพ้ ก็อย่าเพิ่งแพ้ครับเราจะต้องเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเจอทีมไหน ถ้าแพ้ก็อย่าไปคิดมากมายครับ คิดว่าเราเล่นเก่ง เราเอาใจชนะก็พอครับ ส่วนเงินที่ได้จากวาดภาพก็เป็นค่าขนมบ้าง ค่าเทอมบ้างหรือบางทีใช้ซื้อของส่วนตัวครับ ผมมีป้ามาช่วยดูแลครับ เพราะคุณพ่อคุณแม่ผมเสียไปแล้ว”

นอกจากนี้ ที่ถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระทำให้น้องๆได้สร้างสรรค์งานศิลปะและเกิดการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่าง ครูพิ้งค์ เพียงกาญจน์ สุวรรณปัทม และครูต้อย นฤมล ตันติสัจจธรรม ในการนำศิลปะมาเป็นวิธีบำบัด จนเกิดผลงานที่มีคุณค่า อีกทั้งมีส่วนช่วยปรับพฤติกรรมของน้องออทิสติก สามารถสื่อสารและเข้าสังคมได้ดีขึ้น ครูพิ้งค์ “การวาดรูปคือการบำบัด ไม่ว่ากับใครทั้งนั้น ไม่มีผิด ไม่มีถูก กล้า ลงมือ ทำ มันจะช่วยเรื่องทักษะอารมณ์และจินตนาการ ในมุมมองของเราคิดว่า โลกของน้องๆเป็นโลกที่ตรงๆ สบายๆ และเขาให้อภัยง่ายกว่าคนอื่น เขาจะโกรธ แต่เดี๋ยวเขาก็หายแล้ว เขาให้อภัยทุกๆสิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ๋งนะ” ครูต้อย “คนทั่วไปมักคิดว่า เด็กเหล่านี้พูดไม่รู้เรื่อง จริงๆไม่ใช่เขาไม่รู้เรื่อง แต่เราต้องสื่อสารกับเขาแบบเป็น สเต็ป ไม่ใช่เอาทุกอย่างมารวมกัน และอยากให้ทุกคนให้โอกาสเขาเยอะๆ พลังบวกจะช่วยได้มาก พูดดี ทำดี ผลออกมาก็ดีตามไปด้วย เขามีศักยภาพเหมือนคนอื่น ขอแค่เปิดโอกาส เปิดใจให้พวกเขา”

และทิ้งทายกับประโยคที่ครูพิ้งค์ฝากให้คนปกติอย่างเราๆได้ฉุกคิด “คนทั่วไปมีความกลัว แต่เด็กๆออทิสติกไม่มีความกลัว แม้จะมีคนพูดว่าน้องจะทำได้เหรอ? เราจะพูดเสมอว่าน้องทำได้ เพราะน้องเขาไม่กลัว จึงเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า การที่ไม่มีความกลัว ถ้าก้าวข้ามตรงนี้ไปได้ ทุกคนก็มาถึงความสำเร็จได้เหมือนกัน”

ผู้ที่สนใจติดตามและร่วมสนับสนุนผลงานของน้อง ๆ ได้ทางเว็บไซต์ ดั๊บเบิ้ล เอ เดลิเวอรี่ https://delivery.doubleapaper.com/ หรือชมคลิปเบื้องหลังผลงานของน้องๆได้ทาง youtube Double A Thailand

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมรักการอ่าน โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " เพราะเป็นองค์กรที่ส่งเสริมด้านสังคมรักการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่หยุดยั้งที่จะเดินหน้า ส่งเสริมโครงการดีๆ ที่จะกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาใส่ใจและรักการอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม และโรงเรียนคลองบางกะสี 2 โรงเรียนที่มีความคิดสร้างสรรค์ของ จ.สมุทรปราการ จัดทำโครงการ "สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง" ด้วยการนำกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้แล้วด้านเดียว มาทำหนังสือหน้าสองให้เป็นหนังสือที่น่าอ่าน น่าติดตาม และที่สำคัญน้องๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สำหรับโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ อาจารย์นางภาวนา มีกลิ่นหอม อาจารย์โรงเรียนคลองบางกะสี จ.สมุทรปราการ ได้เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนได้จัดทำโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มาตั้งแต่ปี 2546 โดยทางโรงเรียนมองว่าในแต่ละวันเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก และส่วน-ใหญ่เป็นการใช้กระดาษเพียงหน้าเดียว ส่วนอีกหน้าที่เหลือไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะอีกด้วย ดังนั้นทางโรงเรียนจึงเกิดแนวคิดในการนำกระดาษอีก 1 หน้าที่เหลืออยู่มาทำให้เกิดประโยชน์ จึงนำกระดาษที่เหลือมาทำหนังสือในรูปแบบของหนังสือทำมือ โดยนำไปสอดแทรกในวิชาศิลปะเพื่อให้เด็กๆได้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้น้องๆ ในโรงเรียนหันมาสนใจการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกด้วย จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2546 โดยรูปแบบของสื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง จะเน้นการนำเรื่องราวต่างๆที่เป็นความรู้ ไม่ว่าจะเป็น นิทาน การละ-เล่น ขนบธรรมเนียมประเพณี ชื่อสัตว์ ชื่อผลไม้ คำศัพท์ต่างๆ มาประกอบรูปภาพ และจัดทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจดึงดูดอยากหยิบมาอ่าน เช่น หนังสือ POP-UP หนังสือยืด หนังสือหน้าเดียว หนังสือกล่อง หนังสือโคม เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมรักการอ่านแล้ว ยังทำให้เด็กนักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความอดทน รู้จักวิเคราะห์และจับประเด็นให้เนื้อหาอยู่ในหน้ากระดาษที่จำกัดได้ โดยไม่ละทิ้งใจความสำคัญ และยังทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย ส่วนโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม ได้นำโครงการผลิตสื่อหนังสือทำมือสอดแทรกในวิชาภาษาไทย โดยให้นักเรียนทำหนังสือทำมือให้รุ่นน้องและเพื่อนในโรงเรียนได้อ่าน จัดเป็นมุมหนังสือต่างๆ ทั่วโรงเรียน และทุกห้องเรียนจะต้องมีมุมหนังสือ เพื่อให้เด็กๆได้สร้างนิสัยรักการอ่านให้เป็นกิจวัตรติดตัวไปจนโต โดยความโดดเด่นของหนังสือทำมือของโรงเรียนจะนำเนื้อหาที่ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ในท้องถิ่นของอำเภอบางบ่อ เช่น การละเล่นท้องถิ่นของบางบ่อที่เรียกว่า "ผะหมี" (โจ๊ก) เป็นร้อยกรองปริศนาให้ทายกัน ซึ่งเป็นการละเล่นที่นับวันจะค่อยๆ สูญหายไปจากอำเภอหากไม่มีการสืบทอดกันไว้ สำหรับการละเล่น "ผะหมี" อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า น้องๆ จะนำเนื้อหาต่างๆ มาแต่งเป็นร้อยกรอง ปริศนาคำทาย ตัวอย่างเช่น พระ หนึ่งชำนาญด้าน ดนตรี (คำตอบ พระอภัยมณี) พระ หนึ่งหลงสาวศรี พี่น้อง (คำตอบ พระลอ) พระ หนึ่งวุ่นราวี ดึงนุช มานา คำตอบ พระราม) พระ หนึ่งโปรยทานก้อง ส่ำสร้างผลบุญ (คำตอบ พระเวสสันดร) ซึ่งนอกจากจะสร้างความรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนทำและคนทายแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในกลุ่มของนักเรียนในโรงเรียน ส่งผลให้ได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2548 โดยในเรื่องนี้ "น้องชนะพล ปานสมบัติ" นักเรียนชั้น ม.5 รร.บางบ่อพิทยาคม ได้เล่าให้ฟังว่า "โครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมรักการอ่านได้มาก เพราะมีรูปแบบและสีสันที่สวยงามน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนก็ให้ความสนใจ มีการสอนการทำให้กับรุ่นน้องๆ ด้วย เพราะม.4-ม.6 จะจัดทำให้น้องๆ ม.ต้นได้อ่าน ซึ่งผมจะชอบเนื้อหาเป็นเรื่องเอกลักษณ์ไทย เพราะส่วนใหญ่รุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก เช่น ขนมไทย วรรณคดีไทย ประวัติศาสตร์ และเนื้อหาธรรมะ เพราะปัจจุบันคนเรามีความเครียดมาก ถ้าได้อ่านหนังสือธรรมะก็ช่วยให้จิตใจดีขึ้น" โครงการดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นสร้างสรรค์จากผลงานภายในโรงเรียน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่หลายๆ โรงเรียนสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการนำไปปฏิบัติได้ เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้น้องๆรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ ประกาศเปิดจองหุ้นกู้ 8-10 มิ.ย.นี้ อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี

หลังจากที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ประกาศเลื่อนวันเปิดจองหุ้นกู้ จากกำหนดเดิม 24-26 พ.ค. ออกไปนั้น ขณะนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย 6% อายุ 3 ปี เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ผ่านธนาคารกรุงไทย และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษ "ดั๊บเบิ้ล เอ" ซึ่งมีตลาดส่งออกทั่วโลก เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะสงบแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี เป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน วงเงินรวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2556 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนด