Love All Life…ศิลปะบนปกสมุดฝีมือเด็กพิเศษ
“การวาดรูป คือการบำบัด ไม่มีผิด ไม่มีถูก กล้า ลงมือ ทำ มันจะช่วยเรื่องของทักษะอารมณ์และจินตนาการ” ทำให้ศิลปะได้ถูกนำมาใช้บำบัดน้องๆออทิสติก จนเกิดเป็นผลงานสร้างสรรค์ ความภาคภูมิใจในตนเอง และยังเป็นรายได้ที่ยั่งยืนให้กับน้องๆ
ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับ Art Story วิสาหกิจเพื่อสังคม ภายใต้มูลนิธิออทิสติกไทย จัดทำโครงการสมุดชุดลิมิเต็ดอิดิชั่น ฝีมือการออกแบบปกสมุด จากกลุ่มเด็กออทิสติกที่มีความสามารถพิเศษด้านศิลปะ ตามแนวคิด “Love All Life” เพื่อแสดงความรักต่อสัตว์ทั้งมวลบนโลกผ่านจินตนาการของน้อง ๆ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชุดด้วยกันคือ “ชุด Koala” สมุดสันห่วงขนาด A6 , “ชุด Occupation” สมุดมุงหลังคาขนาด A5 และ “ชุด Animal” สมุดสันห่วงขนาด A5 โดยรายได้จากการจำหน่ายส่วนหนึ่งจะถูกส่งต่อให้มูลนิธิออทิสติกไทยเพื่อนำไปเป็นทุนสนับสนุนการพัฒนาฝีมือและสร้างรายได้ให้กับน้อง ๆ ออทิสติกต่อไป
สำหรับทุกภาพที่วาดและลงสี น้องๆได้ถ่ายทอดออกมาเป็นสัตว์นานาชนิดตามจินตนาการ ตามเรื่องราวและความคิดที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น “น้องขิม” น.ส.ธัญลักษณ์ ไพเราะ สาวน้อยที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะได้เล่าถึงผลงานในครั้งนี้ว่า “วาดรูปยีราฟกับโคอาล่าค่ะ เพราะว่าโคอาล่าน่ารักดี ขนมันปุยๆนุ่มๆ รู้สึกอยากลองจับมัน ลูบเล่น พอดีว่าเจอข่าวในยูทูป โดนไฟป่า หมดน่ารักเลย อยากให้ร่วมมือกันช่วยโลก ทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์ ถ้าช่วยเขาแล้ว ก็จะมีคนรักและเมตตาเขาค่ะ ส่วนยีราฟตัวสูง ถ้าเขานอนล้มลง เขาก็จะขาดออกซิเจนและตาย”
“น้องก้อง” นายเจตน์ วิเศษณัฐ หนุ่มออทิสติกดีกรีปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และได้วาดปกสมุดในชุด Occupation เล่าถึงที่มาว่า “วาดเสือขับเครื่องบินครับ เสือเป็นนักบิน ชอบขับเครื่องบินไปท่องโลก เขาดูหล่อ ใส่แว่นตาดำด้วย และวาดเสือตำรวจด้วยครับ เพราะเสือมีระเบียบวินัย จับกุมคนร้าย มีความอดทนแล้วก็เท่ดี”
นายมโนชัย ตั้งสุวรรณ หรือน้องหม่อน “วาดรูปช้างศึกครับ หมายถึงนักเตะฟุตบอล ทีมชาติไทยครับ ผมอยากเป็นนักข่าวสัมภาษณ์นักฟุตบอลบ้างครับ และเป็นนักวาดภาพด้วย อยากจะบอกว่าถ้าเกิดทีมช้างศึกเราแพ้ ก็อย่าเพิ่งแพ้ครับเราจะต้องเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเจอทีมไหน ถ้าแพ้ก็อย่าไปคิดมากมายครับ คิดว่าเราเล่นเก่ง เราเอาใจชนะก็พอครับ ส่วนเงินที่ได้จากวาดภาพก็เป็นค่าขนมบ้าง ค่าเทอมบ้างหรือบางทีใช้ซื้อของส่วนตัวครับ ผมมีป้ามาช่วยดูแลครับ เพราะคุณพ่อคุณแม่ผมเสียไปแล้ว”
นอกจากนี้ ที่ถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระทำให้น้องๆได้สร้างสรรค์งานศิลปะและเกิดการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่าง ครูพิ้งค์ เพียงกาญจน์ สุวรรณปัทม และครูต้อย นฤมล ตันติสัจจธรรม ในการนำศิลปะมาเป็นวิธีบำบัด จนเกิดผลงานที่มีคุณค่า อีกทั้งมีส่วนช่วยปรับพฤติกรรมของน้องออทิสติก สามารถสื่อสารและเข้าสังคมได้ดีขึ้น ครูพิ้งค์ “การวาดรูปคือการบำบัด ไม่ว่ากับใครทั้งนั้น ไม่มีผิด ไม่มีถูก กล้า ลงมือ ทำ มันจะช่วยเรื่องทักษะอารมณ์และจินตนาการ ในมุมมองของเราคิดว่า โลกของน้องๆเป็นโลกที่ตรงๆ สบายๆ และเขาให้อภัยง่ายกว่าคนอื่น เขาจะโกรธ แต่เดี๋ยวเขาก็หายแล้ว เขาให้อภัยทุกๆสิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ๋งนะ” ครูต้อย “คนทั่วไปมักคิดว่า เด็กเหล่านี้พูดไม่รู้เรื่อง จริงๆไม่ใช่เขาไม่รู้เรื่อง แต่เราต้องสื่อสารกับเขาแบบเป็น สเต็ป ไม่ใช่เอาทุกอย่างมารวมกัน และอยากให้ทุกคนให้โอกาสเขาเยอะๆ พลังบวกจะช่วยได้มาก พูดดี ทำดี ผลออกมาก็ดีตามไปด้วย เขามีศักยภาพเหมือนคนอื่น ขอแค่เปิดโอกาส เปิดใจให้พวกเขา”
และทิ้งทายกับประโยคที่ครูพิ้งค์ฝากให้คนปกติอย่างเราๆได้ฉุกคิด “คนทั่วไปมีความกลัว แต่เด็กๆออทิสติกไม่มีความกลัว แม้จะมีคนพูดว่าน้องจะทำได้เหรอ? เราจะพูดเสมอว่าน้องทำได้ เพราะน้องเขาไม่กลัว จึงเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า การที่ไม่มีความกลัว ถ้าก้าวข้ามตรงนี้ไปได้ ทุกคนก็มาถึงความสำเร็จได้เหมือนกัน”
ผู้ที่สนใจติดตามและร่วมสนับสนุนผลงานของน้อง ๆ ได้ทางเว็บไซต์ ดั๊บเบิ้ล เอ เดลิเวอรี่ https://delivery.doubleapaper.com/ หรือชมคลิปเบื้องหลังผลงานของน้องๆได้ทาง youtube Double A Thailand