Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ สนับสนุนกิจกรรม Open House และการแข่งสร้างสะพานกระดาษ

ทีมที่ได้รับรางวัลและคณะอาจารย์และผู้สนับสนุน

เมื่อเร็วๆนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี จัดโครงการนิทรรศการแสดงผลงาน “CM CA โชว์ของ” ครั้งที่ 6  โดยนักศึกษาภาควิชาเทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์และจัดการอุตสาหกรรมก่อสร้าง คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม มีการจัดกิจกรรมแสดงผลงานของนักศึกษาและบุคคลากรและการแข่งขันโครงสร้างรับน้ำหนักจากกระดาษ : ลองของ ครั้งที่ 5 ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนและตัดสินจากกำลังในการรับน้ำหนักและความสวยงามและแนวคิดในการออกแบบ

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะฝึกฝนให้นักศึกษาเกิดทักษะความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และรู้จักทำงานเป็นทีม สร้างความร่วมมือด้านวิชาการกับสถานศึกษาภายนอก รวมไปถึงรวบรวมผลงานและความรู้ความสามารถผลงานของนักศึกษา นำมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการเผยแพร่ในครั้งนี้อีกด้วย พร้อมทั้งเปิดให้นักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศได้เข้าร่วมชมและร่วมแข่งขันอีกด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะเอกชนที่ให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาและเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด Double A Better Tomorrow ปลูกฝัน ปลูกปัญญา ที่ส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสแสดงทักษะความรู้ ความสามารถและการทำงานเป็นทีมจึงได้สนับสนุนกระดาษ สมุด และอุปกรณ์การศึกษาเพื่อกิจกรรมการแข่งขันโครงสร้างรับน้ำหนักจากกระดาษ หรือ การแข่งขันสะพานกระดาษ โดยในปีนี้มีนักเรียน นักศึกษาเข้าแข่งขันรวม 33 ทีมทั่วประเทศ

เริ่มต้นในช่วงเช้าที่เห็นรถบัสรถตู้จอดเรียงรายกันในมหาวิทยาลัย พร้อมกับเสียงหัวเราะ เสียงเพลงที่ดังอย่างคึกคักจากใต้คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม เมื่อก้าวเท้าเข้าไปถึงกับอดยิ้มไม่ได้ เพราะบริเวณนั้นเต็มไปด้วยความสดใสของนักเรียน นักศึกษา และใบหน้าที่พร้อมที่จะเรียนรู้และเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้

น้องบี นายเอกพล มหาวัน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวังตะเคียนวิทยาคม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการมาร่วมชมการแข่งขันสะพานกระดาษ พอดีมีหนังสื่อแจ้งไปทางโรงเรียนครับ วันนี้ผมและเพื่อนๆเลยมาร่วมทัศนศึกษา ทีแรกผมนึกภาพไม่ออกจริงๆครับว่ากระดาษจะนำมาสร้างเป็นสะพานและรับน้ำหนักได้ยังไง แต่วันนี้มาร่วมงานแล้วรู้สึกมีหลายสิ่งที่น่าสนใจมากครับ"  พอพูดจบน้องบีก็เดินเข้าไปถามๆพี่ๆที่ยืนอยู่ประจำบูธด้วยความสนใจและน้องยังบอกกับเราว่าตอนนี้อยู่ม.6 แล้วความฝันอยากจะเป็นพยาบาลทหารช่วงนี้เลยต้องตั้งใจ ใฝ่รู้และพยายามอย่างเต็มที่

อาจารย์สุบรรณ ตาคำวัน  หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์และจัดการอุตสาหกรรมก่อสร้าง กล่าวว่า " จริงๆแล้วเราเริ่มต้นจากการแข่งขันสะพานไม้ไอติม และพัฒนาริเริ่มทำจัดการประกวดสะพานกระดาษ ซึ่งเป็นแห่งแรกของไทย ครั้งหน้าเราอาจจะมีการพัฒนาเป็นการแข่งขันระดับชาติ เพื่อให้นักศึกษาได้คิด ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาปรับใช้จริง และที่สำคัญจริงๆแล้วกระดาษทำอะไรได้มากมาย ไม่ว่าจะนำมาทำโมเดล เฟอร์นิเจอร์ ต่อไปเราอาจจะเห็นโครงสร้างที่มาจากกระดาษด้วยนะครับ "

การแข่งขันดำเนินการตั้งแต่ช่วงบ่ายด้วยความตื่นเต้นของผู้เข้าแข่งขันและกองเชียร์ของแต่ละทีม ที่ลุ้นกันนาทีต่อนาทีว่าสะพานกระดาษของตัวเองจะรับน้ำหนักได้มากที่สุดเท่าไหร่ จนกระทั่งการแข่งขันดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย กับนักศึกษาทีมที่ 33 หลังจากนั้นคณะกรรมการรวบรวมคะแนนทันที โดยผลคะแนนวัดจาก กำลังการรับน้ำหนักและความสวยงามและแนวคิดในการออกแบบ

ผลการตัดสินปรากฎว่า ทีมผู้ชนะเลิศได้แก่ ทีมลูกพระวิษณุ 2 จากวิทยาลัยเทคนิคนครนายก แชมป์เก่า ด้วยสะพานกระดาษที่รับน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลกรัม โดยนางสาววันวิสาข์  คงศร และนางสาวอรอุมา  ฮิงสาหัส  สองสาวแห่งทีมยิ้มด้วยความภาคภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับ  รวมไปถึงอาจารย์เรวัตต์  หน่ายมี อาจารย์ผู้ดูแลทีม  ที่เป็นเบื้องหลังผู้ผลักดันให้เกิดสะพานกระดาษที่แข็งแกร่งจนได้รับรางวัลชนะเลิศอีกครั้ง

น้องกิ๊ฟ นางสาววันวิสาข์  คงศร กล่าวว่า "วันนี้ดีใจมากๆค่ะ เพราะกว่าจะสร้างสะพานขึ้นมาได้ต้องใช้ความมุ่งมั่น ตั้งใจมาก ต้องใช้เวลากับสิ่งนี้พอสมควรเลยค่ะ  ตอนทำรู้สึกเหนื่อยมาก แต่มาถึงวันนี้หายเหนื่อยเลยค่ะ" พอพูดจบประโยคน้องกิ๊ฟก็หันหน้าไปยิ้มให้กับเพื่อนในทีมอีกคนอย่างภาคภูมิใจ

ทางด้าน ผศ.ดร.อนิราช มิ่งขวัญ คณบดีคณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม ได้กล่าวทิ้งท้ายกับเราว่า  "กิจกรรมนี้เราอยากให้นักศึกษาได้แสดงความคิดในด้านงานก่อสร้าง หาวัสดุใหม่ๆที่แตกต่างจากเดิม อย่างกระดาษสามารถนำมาทำเป็นโครงสร้างและสามารถรับแรงได้ดีด้วย  การตอบรับจากการเข้าร่วมแข่งขันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะมุ่งมั่นจัดกิจกรรมต่อไปเรื่อยๆครับ"

เพียงแค่กระดาษถ่ายเอกสารสีขาว ที่ใช้งานแล้วก็ได้ กับกาวลาเท็กซ์ สามารถทำให้เป็นรูปเป็นร่าง เป็นชิ้นงานและรับน้ำหนักได้ด้วยฝีมือนักศึกษา  ขอแค่เราทุกคนกล้าคิด กล้าที่จะลงมือทำ  ก็จะสามารถสร้างจิตนาการของตัวเอง  ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นโครงสร้างที่น่าทึ่งและสามารถใช้งานได้จริงในอนาคต

และทางเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี ยังยืนยันจะจัดกิจกรรมขึ้นทุกปี น้องๆที่สนใจเตรียมตัวโชว์ความสามารถและเข้าสู่สนามจริงกันได้ต่อไปในปีหน้าซึ่งอาจจะพัฒนาเป็นการแข่งขันระดับชาติอีกด้วย

นักเรียนชมสะพานกระดาษ
น้องบี นายเอกพล มหาวัน
น้องกิ๊ฟ นางสาววันวิสาข์ คงศร
ผศ.ดร.อนิราช มิ่งขวัญ คณะบดีคณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม
บรรยากาศในงาน
อาจารสุบรรณ ตาคำวัน
กิจกรรมภายในงาน
ทีมลูกพระวิษณุ 2 จากวิทยาลัยเทคนิคนครนายก ชนะเลิศ

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมรักการอ่าน โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " เพราะเป็นองค์กรที่ส่งเสริมด้านสังคมรักการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่หยุดยั้งที่จะเดินหน้า ส่งเสริมโครงการดีๆ ที่จะกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาใส่ใจและรักการอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมกับโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม และโรงเรียนคลองบางกะสี 2 โรงเรียนที่มีความคิดสร้างสรรค์ของ จ.สมุทรปราการ จัดทำโครงการ "สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง" ด้วยการนำกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้แล้วด้านเดียว มาทำหนังสือหน้าสองให้เป็นหนังสือที่น่าอ่าน น่าติดตาม และที่สำคัญน้องๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สำหรับโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ อาจารย์นางภาวนา มีกลิ่นหอม อาจารย์โรงเรียนคลองบางกะสี จ.สมุทรปราการ ได้เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนได้จัดทำโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มาตั้งแต่ปี 2546 โดยทางโรงเรียนมองว่าในแต่ละวันเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก และส่วน-ใหญ่เป็นการใช้กระดาษเพียงหน้าเดียว ส่วนอีกหน้าที่เหลือไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะอีกด้วย ดังนั้นทางโรงเรียนจึงเกิดแนวคิดในการนำกระดาษอีก 1 หน้าที่เหลืออยู่มาทำให้เกิดประโยชน์ จึงนำกระดาษที่เหลือมาทำหนังสือในรูปแบบของหนังสือทำมือ โดยนำไปสอดแทรกในวิชาศิลปะเพื่อให้เด็กๆได้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้น้องๆ ในโรงเรียนหันมาสนใจการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกด้วย จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2546 โดยรูปแบบของสื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง จะเน้นการนำเรื่องราวต่างๆที่เป็นความรู้ ไม่ว่าจะเป็น นิทาน การละ-เล่น ขนบธรรมเนียมประเพณี ชื่อสัตว์ ชื่อผลไม้ คำศัพท์ต่างๆ มาประกอบรูปภาพ และจัดทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจดึงดูดอยากหยิบมาอ่าน เช่น หนังสือ POP-UP หนังสือยืด หนังสือหน้าเดียว หนังสือกล่อง หนังสือโคม เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมรักการอ่านแล้ว ยังทำให้เด็กนักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความอดทน รู้จักวิเคราะห์และจับประเด็นให้เนื้อหาอยู่ในหน้ากระดาษที่จำกัดได้ โดยไม่ละทิ้งใจความสำคัญ และยังทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย ส่วนโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม ได้นำโครงการผลิตสื่อหนังสือทำมือสอดแทรกในวิชาภาษาไทย โดยให้นักเรียนทำหนังสือทำมือให้รุ่นน้องและเพื่อนในโรงเรียนได้อ่าน จัดเป็นมุมหนังสือต่างๆ ทั่วโรงเรียน และทุกห้องเรียนจะต้องมีมุมหนังสือ เพื่อให้เด็กๆได้สร้างนิสัยรักการอ่านให้เป็นกิจวัตรติดตัวไปจนโต โดยความโดดเด่นของหนังสือทำมือของโรงเรียนจะนำเนื้อหาที่ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ในท้องถิ่นของอำเภอบางบ่อ เช่น การละเล่นท้องถิ่นของบางบ่อที่เรียกว่า "ผะหมี" (โจ๊ก) เป็นร้อยกรองปริศนาให้ทายกัน ซึ่งเป็นการละเล่นที่นับวันจะค่อยๆ สูญหายไปจากอำเภอหากไม่มีการสืบทอดกันไว้ สำหรับการละเล่น "ผะหมี" อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า น้องๆ จะนำเนื้อหาต่างๆ มาแต่งเป็นร้อยกรอง ปริศนาคำทาย ตัวอย่างเช่น พระ หนึ่งชำนาญด้าน ดนตรี (คำตอบ พระอภัยมณี) พระ หนึ่งหลงสาวศรี พี่น้อง (คำตอบ พระลอ) พระ หนึ่งวุ่นราวี ดึงนุช มานา คำตอบ พระราม) พระ หนึ่งโปรยทานก้อง ส่ำสร้างผลบุญ (คำตอบ พระเวสสันดร) ซึ่งนอกจากจะสร้างความรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนทำและคนทายแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในกลุ่มของนักเรียนในโรงเรียน ส่งผลให้ได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2548 โดยในเรื่องนี้ "น้องชนะพล ปานสมบัติ" นักเรียนชั้น ม.5 รร.บางบ่อพิทยาคม ได้เล่าให้ฟังว่า "โครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมรักการอ่านได้มาก เพราะมีรูปแบบและสีสันที่สวยงามน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนก็ให้ความสนใจ มีการสอนการทำให้กับรุ่นน้องๆ ด้วย เพราะม.4-ม.6 จะจัดทำให้น้องๆ ม.ต้นได้อ่าน ซึ่งผมจะชอบเนื้อหาเป็นเรื่องเอกลักษณ์ไทย เพราะส่วนใหญ่รุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก เช่น ขนมไทย วรรณคดีไทย ประวัติศาสตร์ และเนื้อหาธรรมะ เพราะปัจจุบันคนเรามีความเครียดมาก ถ้าได้อ่านหนังสือธรรมะก็ช่วยให้จิตใจดีขึ้น" โครงการดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นสร้างสรรค์จากผลงานภายในโรงเรียน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่หลายๆ โรงเรียนสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการนำไปปฏิบัติได้ เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้น้องๆรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ ประกาศเปิดจองหุ้นกู้ 8-10 มิ.ย.นี้ อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี

หลังจากที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ประกาศเลื่อนวันเปิดจองหุ้นกู้ จากกำหนดเดิม 24-26 พ.ค. ออกไปนั้น ขณะนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย 6% อายุ 3 ปี เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ผ่านธนาคารกรุงไทย และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษ "ดั๊บเบิ้ล เอ" ซึ่งมีตลาดส่งออกทั่วโลก เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์บ้านเมืองเริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะสงบแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมประกาศเปิดจองหุ้นกู้เป็นวันที่ 8-10 มิถุนายน 2553 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี เป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน วงเงินรวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2556 โดยผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนครบกำหนด